หน่วยอารักขาประธานาธิบดีกำลังสืบสวนเกี่ยวกับเหตุลอบยิงนายโดนัล ทรัมป์

Loading

เว็บไซต์ AP News รายงานเมื่อ 15 ก.ค.67 ว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีกำลังสืบสวนว่า เมื่อ 13 ก.ค.67 มือปืน สามารถเข้าถึงพื้นที่พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล AR-15 ในระยะที่สามารถยิงนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อย่างไร  ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรงของหน่วยงาน โดยมือปืนซุ่มยิงหลายนัดจากนอกเวทีก่อนถูกวิสามัญ และในวันต่อมาสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุ นาย Thomas Matthew Crooks อายุ 20 ปี จากเมือง Bethel Park รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ 

หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุมพรรครีพับลิกันที่ Fiserv Forum เมืองมิลวอกี สหรัฐฯ

Loading

เว็บไซต์ MSN รายงานเมื่อ 23 มิ.ย.67 ว่า เมื่อ 21 มิ.ย.67 หน่วยอารักขาประธานาธิบดีของสหรัฐฯ (US Secret Service) วางมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุมของพรรครีพับลิกัน (Republican National Convention – RNC) ที่จะจัดขึ้นที่หอประชุม Fiserv Forum เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ในวันที่ 15 -18 ก.ค.67 เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงรวมตัวกันที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใกล้สถานที่จัดงาน 

กรมตำรวจซานฟรานซิสโกและหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ สรุปผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อการจัดงาน APEC 2023

Loading

สหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2566 (APEC 2023) ในวันที่ 11 – 17 พ.ย.66 และการประชุม APEC CEO Summit ในวันที่ 14 – 16 พ.ย.66 ที่ศูนย์การประชุม Moscone Center เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

ผลการสืบสวนระบุว่า ไม่พบผู้ต้องสงสัย กรณีพบโคเคนในทำเนียบขาว

Loading

ภาพจาก CNN   หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The United States Secret Service – USSS) สรุปผลการสอบสวนกรณีพบโคเคนบรรจุถุงขนาดเล็กน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกรัมในตู้เก็บของหมายเลข 50 ซึ่งใกล้กับทางเข้าชั้นล่างบริเวณพื้นที่ปีกตะวันตกในทำเนียบขาว ว่า ไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ   ผู้เยี่ยมชมทำเนียบขาว รวมถึงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในพื้นที่ที่มีข้อมูลลับจะต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้ในตู้เก็บของดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องยุทธการ (Situation Room) ที่กำลังปรับปรุงและไม่ได้เปิดใช้งานมาหลายเดือนแล้ว   USSS ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับบัญชีรายชื่อผู้เยี่ยมชมทำเนียบขาวหลายร้อยคนที่เข้ามาวันก่อนหน้าการค้นพบ แต่เนื่องจากพื้นที่ที่พบโคเคนอยู่ในจุดบอดของรัศมีกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถเปรียบเทียบหลักฐานกับกลุ่มบุคคลที่ทราบได้ และผลจากห้องปฏิบัติการของ FBI ระบุว่า บรรจุภัณฑ์ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้ เพราะมี DNA ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาหรือวันที่โคเคนนั้นถูกวางทิ้งไว้   โฆษก USSS กล่าวว่า เมื่อปี 2565 เจ้าหน้าที่เคยตรวจพบกัญชาจำนวนเล็กน้อยที่ทำเนียบขาวจำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่มีการจับกุม เนื่องจากน้ำหนักของกัญชาที่ยึดได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จึงไม่สามารถตั้งข้อหาหรือดำเนินคดีได้ และกัญชาเหล่านี้ได้ถูกนำไปทำลาย       ————————————————————————————————————————-…

เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบสารโคเคนที่ทำเนียบขาว

Loading

เมื่อ 2 ก.ค.66 เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The United States Secret Service – USSS) เข้าตรวจสอบสถานที่ทำเนียบขาวตามภารกิจเวลา 18.00 น. และค้นพบผงสีขาวต้องสงสัยบริเวณส่วนกลางของพื้นที่ปีกตะวันตกในทำเนียบขาว จึงได้ยกระดับแจ้งเตือนความปลอดภัย โดยสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากอาคารและปิดทำเนียบขาวเป็นการชั่วคราว รวมถึงเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยทีมวัตถุอันตรายของหน่วยงานดับเพลิงและบริการการแพทย์ฉุกเฉินเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย (DC Fire & EMS) เข้าตรวจสอบเวลา 20.49 น. ซึ่งผลทดสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นโคเคน ด้านนาย Anthony Guglielmi โฆษกของ USSS กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสารดังกล่าวเพิ่มเติม รวมทั้งสอบสวนหาสาเหตุและวิธีการนำสารเข้ามายังทำเนียบขาว และอ้างถึงหน่วยงาน DC Fire & EMS ที่ระบุว่าสารซึ่งพบในพื้นที่นั้น “ไม่ถือเป็นภัยคุกคาม” ทั้งนี้ ขณะพบสารดังกล่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบขาว —————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …