มุกใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถามอาการหลังฉีดวัคซีน ล้วงข้อมูลส่วนตัว

Loading

  โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนอย่าหลงเชื่อ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ โทรถามอาการหลังฉีดวัคซีน ล้วงข้อมูลส่วนตัว   วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับแจ้งว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านสาธารณสุข เช่น ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โรงพยาบาลพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ไปยังประชาชน เพื่อสอบถามอาการ หลังฉีดวัคซีนโควิด   เบื้องต้น จากการตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่า ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์จริงของหน่วยงานนั้นๆ และหน่วยงานดังกล่าวไม่มีการโทรศัพท์ติดตามอาการภายหลังการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด   นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวด้วยว่า การติดตามอาการหลังฉีดวัควีนนั้น จะมีการติดตามผ่านแพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” ไม่มีการโทรศัพท์ติดตามอาการ จึงขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ บอกข้อมูลส่วนตัวใด ๆ กับผู้ที่โทรมาทั้งสิ้น   เนื่องจากอาจตกเป็นเหยื่อในการโอนเงิน หรืออาจถูกนำข้อมูลไปสวมรอยกระทำความผิดหรือก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ได้ และหากสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ขอให้สอบถามกับหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงโดยตรงก่อน    …

กสทช. เตรียมทำระบบ SCAM Alert สกัดแก็งคอลเซ็นเตอร์

Loading

ภาพ : สำนักงาน กสทช.   กสทช. เตรียมทำระบบ SCAM Alert เพื่อสกัดแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. พิจารณาเห็นว่าปัจจุบันปัญหาแก๊ง Call Center หลอกลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ก่อให้เกิดความรำคาญและความเสียหายอื่นๆ รวมทั้งเสียทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมิจฉาชีพเองก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหลอกลวงอย่างรวดเร็ว การไล่ตามรูปแบบการหลอกลวงต่างๆ ให้ทันเป็นเรื่องยาก   กสทช. จึงเร่งออกมาตรการใหม่คือ SCAM Alert ที่เป็นการรวบรวมตัวอย่างการฉัอโกงผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิธีการแก้ไขเฉพาะหน้า และหน่วยงานที่ต้องติดต่อเพื่อตรวจสอบ หรือขอความช่วยเหลือ หรือร้องเรียน เพื่อสื่อสารกับประชาชนอย่างเร่งด่วน   กสทช. เห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ประกอบกับกฎหมายให้อำนาจ กสทช. ในการกำหนดมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิดังกล่าว ตามมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติมประกอบมาตรา…

ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สปสช. เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว

Loading

ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สปสช.โทรหลอกถามข้อมูลส่วนบุคคล ชี้ สปสช.จะโทรหากรณีเดียวคือถามผู้ป่วยโควิด-19 ที่ลงทะเบียนเข้า Home Isolation ว่าจะให้จัดส่งยาให้ที่บ้านระหว่างรอหน่วยบริการตอบรับ ไม่มีสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลและไม่โทรหาในกรณีอื่นๆ   ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สปสช. ขโมยข้อมูลส่วนตัว   ภาพ : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ   ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการในฐานะโฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ได้รับรายงานว่าในระยะนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ล่อลวงประชาชนหลอกถามข้อมูลส่วนบุคคลโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จาก สปสช. หรือจากสายด่วน สปสช. 1330   ดังนั้นจึงขอแจ้งให้ประชาชนโปรดระมัดระวังตัว ไม่หลงเชื่อคำแอบอ้างดังกล่าว และขอยืนยันว่า สปสช. จะโทรหาประชาชนในกรณีเดียวเท่านั้นคือเมื่อบุคคลนั้นลงทะเบียนเข้ารับการดูแลในระบบ Home Isolation และไม่ได้รับการติดต่อกลับจากหน่วยบริการ อีกทั้งการโทรหาผู้ป่วยก็จะไม่สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากผู้ป่วยได้แจ้งข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียนแล้ว   “ช่วงนี้เราจะเห็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนารูปแบบการหลอกลวงโดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆตั้งแต่เจ้าหน้าที่ธนาคาร ตำรวจ ปปส. ไปรษณีย์ กสทช. และล่าสุดคือ สปสช. ซึ่งมักหลอกถามข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน…

ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลบัตรประชาชนไปใช้ ต้องทำอย่างไรเช็กเลยที่นี่

Loading

  สตช.เผยวิธีการหากถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลบัตรประชาชนไปใช้ ต้องทำอย่างไร พร้อมเตือนคนโกงหากปลอมแปลงเอกสารมีโทษหนักคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่น   เมื่อ 26 มี.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ขอเตือนภัยกรณีมีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเกี่ยวกับการนำข้อมูลบัตรประชาชนหรือข้อมูลส่วนตัวไปซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือการทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ที่หลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับประชาชน โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย   ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวน จับกุม ปราบปรามภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบตามกฎหมายอย่างจริงจัง มีผลการปฎิบัติเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงภัยดังกล่าวและแนวทางในการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย   ดังเช่น กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการนำเสนอเกี่ยวกับการนำข้อมูลบัตรประชาชน หรือข้อมูลส่วนตัวไปใช้ สำหรับซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งอาจจะถูกมิจฉาชีพปลอมลายมือชื่อลงในสำเนาบัตรประชาชนแล้วนำไปใช้ในการกระทำความผิด หรือหลอกลวงผู้อื่น หากมีการแก้ไขข้อความในช่องชื่อ นามสกุล วันออกบัตร หรือวันหมดอายุ ลงในสำเนาบัตรประชาชน ไม่ว่าจะนำไปถ่ายสำเนาใหม่อีกครั้ง…

ล้ำไปอีก! เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ Deep Fake ตัดต่อคลิปตำรวจ หลอกโอนเงิน

Loading

  MGR Online – รองโฆษก ตร. เตือนระวังภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไฮเทคใช้ Deep Fake ตัดต่อคลิปภาพตำรวจ หลอกเหยื่อเอาเงิน ย้ำไม่มีนโยบายติดต่อทางระบบวิดีโอคอล   วันนี้ (11 มี.ค.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบพบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่นำคลิปวิดีโอจากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสวมใส่หน้ากากอนามัย มาตัดต่อใส่เสียงของคนร้าย เพื่อทำการข่มขู่ผู้เสียหาย จนผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง และโอนเงินจำนวนมากให้กับคนร้าย นั้น   พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน โดยการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้นที่เรียกว่า Deepfake ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี Deep Learning ในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ ให้สามารถตัดต่อคลิปวิดีโอหรือภาพถ่ายของบุคคลหนึ่ง ให้สามารถขยับปากตามเสียงของบุคคลอื่นได้ ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว มาตัดต่อคลิปหรือภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้พูดตามสิ่งที่คนร้ายพูด เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงทรัพย์สินจากพี่น้องประชาชน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเรียนพี่น้องประชาชน…