“สหรัฐ-ยูเค” เตือนพลเมืองระวังอันตรายโรงแรมคาบูล

Loading

  สหรัฐและสหราชอาณาจักรเตือนพลเมืองอยู่ให้ห่างจากของอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะโรงแรมดัง “เซเรนา” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเตือนพลเมืองที่พักอยู่ในโรงแรมเซเรนาหรือบริเวณใกล้เคียงควรออกไปทันที โดยอ้างถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงในบริเวณนั้น เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร (ยูเค) เพิ่มเติมคำเตือนการห้ามเดินทางไปอัฟกานิสถานระบุ “เนื่องจากความเสี่ยงเพิ่มขึ้นขอแนะนำให้ท่านอย่าพักในโรงแรม โดยเฉพาะในกรุงคาบูล (เช่น โรงแรมเซเรนา)” เซเรนาเป็นโรงแรมหรูยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติก่อนที่กรุงคาบูลจะตกอยู่ในเงื้อมมือของตาลีบันเมื่อ 8 สัปดาห์ก่อน และเคยตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มสุดโต่งถึง 2 ครั้ง คำประกาศจากทางการสหรัฐและยูเคเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่า ตนเองอยู่เบื้องหลังการระเบิดครั้งใหญ่ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองคุนดุซทางภาคเหนือของอัฟกานิสถานระหว่างการละหมาดเมื่อวันศุกร์ (8 ต.ค.) ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐถอนทหารออกไปในเดือน ส.ค.   —————————————————————————————————————————————————- ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ          / วันที่เผยแพร่  11 ต.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/965121

อังกฤษเตือนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฮ่องกง อาจถูกส่งกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

Loading

  รัฐบาลอังกฤษประกาศเตือน การเดินทางไปต่างประเทศอาจทำให้นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฮ่องกงไม่ปลอดภัย ภายหลังฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ทางการอังกฤษได้ออกประกาศเตือนนักวิจารณ์เกี่ยวกับฮ่องกงในการเดินทางไปต่างแดน โดยเฉพาะนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษย์ชนชื่อดัง Bill Browder ผู้มีบทบาทในการเรียกร้องให้รัฐบาลคว่ำบาตรประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่องกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ โดยเฉพาะประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากนายบราวเดอร์เอง โดยกล่าวว่าเขาได้รับการติดต่อจากสำนักงานต่างประเทศของอังกฤษในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ให้ตัวเขาและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีส่วนเรียกร้องการคว่ำบาตร หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายการเล่นงานของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน ตัวของนายบราวเดอร์ได้รับรายชื่อประเทศที่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนแก่ทางฮ่องกงจากเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีการติดต่อมาจากที่ใดบ้าง เช่นเดียวกับสำนักงานต่างประเทศของอังกฤษก็ไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนนี้เพิ่มเติม กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของจีน เริ่มประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 โดยถือว่าพฤติกรรมการแสดงออกที่ชี้นำไปในลักษณะการสมรู้ร่วมคิดบ่อนทำลาย, การแยกตัวจากประเทศ, การโค่นล้มรัฐบาล และการก่อการร้าย เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีการบังคับใช้จับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้วกว่า 140 คน ทั้งบุคคลที่สนับสนุนประชาธิปไตย นักกิจกรรมนักศึกษา นักข่าว และนักเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชน อีกทั้งมีการตั้งข้อหานี้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเมือง รวมถึงบุคคลที่หลบหนีออกมายังต่างประเทศ กฎหมายดังกล่าวถูกร่างขึ้นโดยรัฐบาลจีน ถูกนำมาบังคับใช้อย่างกว้างขวางอีกทั้งมีการอ้างสิทธิ์ในต่างประเทศ นำไปสู่ความกังวลว่ามันจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นงานนักเคลื่อนไหว คนเห็นต่างที่ออกมาเรียกร้อง หรือเป็นศัตรูทางการเมืองของจีนที่อยู่ในต่างประเทศด้วย กฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกงมีการผูกไว้กับ 19 ประเทศ รวมถึง อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงค์โปร์, แอฟริกาใต้ และโปรตุเกสที่ยังมีข้อตกลงผูกมัดอยู่ ในขณะที่อีกหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ, ออสเตรเลีย, เยอรมนี,…

กลาโหมอังกฤษขอโทษข้อมูลอีเมลรั่ว ลูกจ้างในคาบูลร้องขออพยพ

Loading

  เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ชี้แจงต่อรัฐสภาถึงความผิดพลาที่เกิดขึ้นว่ามีการเผยแพร่อีเมลของลูกจ้างชาวอัฟกานิสถานมากกว่า 250 คน ที่ทำงานเป็นล่ามให้กับรัฐบาลอังกฤษในอัฟกานิสถาน โดยเนื้อหาในอีเมลเป็นการร้องขอให้รัฐบาลอังกฤษช่วยพาพวกเขาออกจากอัฟกานิสถานด้วย รัฐมนตรีกลาโหมยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดที่ไม่อาจยอมรับได้ และ ในนามของกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกจ้างที่เป็นล่ามชาวอาฟกาน ให้ความเห็นว่า การปล่อยข้อมูลที่บางอีเมลมีภาพถ่ายใบหน้าด้วยนั้น เป็นอันตรายต่อชีวิตของคนผู้นั้นมาก โดยเฉพาะผู้ที่ยังต้องอยู่ในอัฟกานิสถานต่อไป   ———————————————————————————————————————————- ที่มา : AFP       / วันที่เผยแพร่  22 ก.ย.2564 Link : https://today.line.me/th/v2/article/XvP2O0?utm_source=lineshare

สหรัฐฯ UK ออสเตรเลีย ประกาศสนธิสัญญาความมั่นคง ‘Aukus’ คานอำนาจจีน

Loading

  รบ.สหรัฐฯ UK และออสเตรเลีย ประกาศสนธิสัญญาความมั่นคงครั้งประวัติศาสตร์ Aukus หวังคานอำนาจจีน โดยสหรัฐฯ และ UK จะช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีการสร้างเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลียเป็นลำแรก เมื่อ 16 ก.ย. 64 บีบีซีรายงาน รัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร (UK) จับมือออสเตรเลีย ผนึกกำลังสร้างความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกาศสนธิสัญญาความมั่นคงครั้งประวัติศาสตร์ ภายใต้ชื่อ ‘Aukus’ เพื่อคานอำนาจจีน ภายใต้สนธิสัญญานี้ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรจะครอบคลุมทั้งในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีต่างๆ ด้านการทหาร การป้องกันทางไซเบอร์ และการคำนวณควอนตัม โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะช่วยเหลือออสเตรเลียในเรื่องเทคโนโลยีในการสร้างเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์เป็นลำแรกของประเทศออสเตรเลีย เพื่อสร้างกองเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ที่จะประกอบด้วยเรือดำน้ำอย่างน้อย 8 ลำ สำหรับการประกาศจับมือในสนธิสัญญาประวัติศาสตร์ ‘Aukus’ ของ 3 ประเทศผ่านการประชุมทางไกล เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร และนายสกอตต์ มอร์ริสัน…

เจ้าสาวไอเอสเผย เตรียมกลับอังกฤษ สู้ข้อหาก่อการร้าย หลังถูกถอดถอนสัญชาติ

Loading

  เจ้าสาวไอเอสเผย – วันที่ 15 ก.ย. เอเอฟพี รายงานความคืบหน้ากรณีที่น.ส.ชามีมา เบกุม วัย 22 ปี พลเมืองสัญชาติอังกฤษ เชื้อชาติบังกลาเทศ ผู้ถูกถอดถอนสัญชาติผู้ดี หลังเดินทางออกจากกรุงลอนดอน พร้อมเพื่อนโรงเรียน 2 คน เมื่อปี 2558 ด้วยเพียงอายุ 15 ปี ในเวลานั้น เพื่อเข้าร่วมกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรีย จากนั้น แต่งงานกับนักรบไอเอสจึงได้รับการขนานนามเป็น “เจ้าสาวไอเอส”   ล่าสุด น.ส.เบกุมกล่าวว่าจะเตรียมเดินทางกลับไปอังกฤษ ต่อสู้ข้อหาการก่อการร้ายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แม้ว่าศาลสูงสุดของอังกฤษจะมีคำตัดสินเมื่อปลายเดือนก.พ.ปีนี้ ไม่อนุญาตให้น.ส.เบกุมเดินทางกลับอังกฤษเพื่อคัดค้านคำตัดสินของรัฐบาล แต่น.ส.เบกุมปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการเตรียมการก่อการร้าย “ฉันจะไปศาลและเผชิญหน้าผู้กล่าวหา และปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ เนื่องจากฉันรู้ว่า ฉันไม่ได้ทำอะไรในไอเอส แต่ทำหน้าที่แม่และภรรยาคนหนึ่ง ข้อกล่าวหาเหล่านี้ทำให้ฉันดูแย่ลงเพราะรัฐบาลไม่มีข้อมูลใดเกี่ยวกับฉัน ไม่มีหลักฐานเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น” น.ส.เบกุมให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ ไอทีวี ของอังกฤษ     น.ส.เบกุม กล่าวว่า ความผิดเดียวที่เธอก่อคือ “โง่พอที่จะเข้าร่วมไอเอส” และขอความเมตตาจากทุกคนที่สูญเสียคนรักจากนักรบไอเอส “ฉันเสียใจมากหากเคยทำให้ใครขุ่นเคืองกับการมาที่นี่ หากทำให้ใครขุ่นเคืองกับสิ่งที่ฉันพูด”…

สุดยอด! “รบพิเศษ SAS อังกฤษ” ขับ “รถแท็กซี่” หลายร้อยกิโลฯ จากทางใต้ก่อนปลอมตัวเป็นผู้หญิงสวมบูร์กาฝ่า “ตอลิบาน” เข้าสนามบินคาบูล

Loading

  เอเจนซีส์ – หน่วยรบพิเศษ SAS อังกฤษใช้ความพยายามอย่างหนักในการต้องหลบตอลิบานจากทางใต้หลายร้อยกิโลเมตรของอัฟกานิสถานเพื่อฝ่าเข้าสู่สนามบินฮามิด การ์ไซเดินทางกลับอังกฤษ หลังหน่วยเหนือสั่งยกเลิกปฏิบัติการพร้อมเตือนไม่มี ฮ.มารับ สปุตนิก นิวส์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (5 ก.ย.) ว่า มีการเปิดเผยล่าสุดออกมาว่า ทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษจำนวน 20 นาย ซึ่งออกปฏิบัติการสอดแนมอยู่ทางใต้ของอัฟกานิสถานต้องใช้วิธีการปลอมตัวเป็นหญิงอัฟกานิสถานเคร่งศาสนาสวมชุดบูร์กาเพื่อตบตากลุ่มติดอาวุธตอลิบานเพื่อที่จะสามารถเข้าไปถึงสนามบินฮามิด การ์ไซเพื่อเดินทางกลับไปอังกฤษ โดยในรายงานของหนังสือพิมพ์เดลี สตาร์ของอังกฤษระบุว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ SAS (Special Air Service) ถูกสั่งให้ถอนกำลังกลับไปยังกรุงคาบูลเพื่อออกจากอัฟกานิสถานท่ามกลางการบุกเข้ายึดครองของกลุ่มติดอาวุธตอลิบานที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังกองกำลังชาติตะวันตกทั้งสหรัฐฯ และนาโตได้ถอนตัวออกจากประเทศ ทหาร SAS ที่มีจำนวน 20 นายสูงสุดได้รับการแจ้งว่าจะไม่มีเฮลิคอปเตอร์บินมารับพวกเขาออกมาจากทางภาคใต้ของอัฟกานิสถานที่คนเหล่านี้ประจำการในปฏิบัติการสอดแนมลับ อ้างอิงจากรายงาน “หน่วย SAS อยู่ในอัฟกานิสถานมานานหลายเดือนแล้วสำหรับปฏิบัติการสอดแนมลับท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเสื่อมทราม คนเหล่านี้ได้รับคำสั่งให้ยกเลิกปฏิบัติการและเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเพื่อไปยังกรุงคาบูล” ทั้งนี้ พบว่าหน่วย SAS ได้ทิ้งยุทโธปกรณ์ส่วนใหญ่ทั้งหมดไว้เบื้องหลังก่อนที่จะซื้อรถแท็กซี่ 5 คันเพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการอำพรางขับจากฐานปฏิบัติการทางใต้ในระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อเข้าสู่กรุงคาบูลที่ตกอยู่ในเงื้อมือของกลุ่มติดอาวุธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในรายงานกล่าวว่า ตลอดทั้งเส้นทางหน่วยรบพิเศษอังกฤษต้องพบกับด่านตรวจกลุ่มติดอาวุธมากมายตั้งอยู่เป็นระยะๆ และพบว่าพวกเขาได้รับการช่วยเหลืออย่างลับๆ จากตำรวจต่อต้านก่อการร้ายอัฟกานิสถานซึ่งในภายหลังได้จัดหาชุดบูร์กา (burqa) ที่มีสีสันต่างกันออกไปสำหรับการปลอมตัวให้ทหารอังกฤษ…