การพัฒนาอาวุธเลเซอร์เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากโดรน
โดรนถือเป็นหุ่นยนต์ประเภทหนึ่งที่ติดตั้งหน่วยประมวลผลและโปรแกรมควบคุมการทำงานตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น โดรนเพื่องานอดิเรก/ความบันเทิง หรือโดรนเชิงพานิชย์ รวมทั้งถูกนำมาใช้เป็นอาวุธในสงครามต่าง ๆ
โดรนถือเป็นหุ่นยนต์ประเภทหนึ่งที่ติดตั้งหน่วยประมวลผลและโปรแกรมควบคุมการทำงานตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น โดรนเพื่องานอดิเรก/ความบันเทิง หรือโดรนเชิงพานิชย์ รวมทั้งถูกนำมาใช้เป็นอาวุธในสงครามต่าง ๆ
แฟ้มภาพจากนาวิกโยธินสหรัฐฯ นักวิทยาศาสตร์ของประสบความคืบหน้าครั้งสำคัญในงานวิจัยพัฒนาอาวุธเลเซอร์พลังงานสูง ที่สามารถยิงเป้าหมายได้ไกลเท่าใดก็ได้ตามความปรารถนาของผู้ปฏิบัติการ โดยไม่สามารถขัดขวางและประสิทธิภาพของมันก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย บรรดานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันตนเองแห่งชาติ ในเมืองฉางชา ประเทศจีน เผยแพร่ผลการวิจัยของพวกเขาที่ผ่านการตรวจทานจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ในวารสาร Acta Optica Sinica ในเดือนนี้ อ้างว่าได้พัฒนาระบบหล่อเย็นใหม่หนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันทำให้การปฏิบัติการเลเซอร์พลังงานสูงแบบไร้ขีดจำกัดนั้นมีความเป็นได้ โดยปราศจากผลกระทบของภาวะร้อนเกินไปแต่อย่างใด “นี่คือความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบเลเซอร์พลังงานสูง” ทีมงานวิจัยกล่าวในเอกสารการวิจัย “ลำแสงคุณภาพสูง ไม่ได้แค่สามารถผลิตออกมาในวินาทีแรก แต่มันยังคงศักยภาพไว้อย่างไม่มีขีดจำกัด” ระบบหล่อเย็นจะควบคุมการไหลของกระแสแก๊ส สำหรับเข้าไปขจัดความร้อนภายในอาวุธเลเซอร์ ป้องกันการสั่นและเหตุติดขัดต่าง ๆ มันสามารถปฏิบัติการได้นานขึ้น มีพิสัยทำการเพิ่มขึ้นและมีพลานุภาพการโจมตีมากกว่าเดิม จากคำกล่าวอ้างของพวกนักวิจัย พร้อมเน้นว่ากว่า 60 ปีนับตั้งแต่มีการประดิษฐ์เลเซอร์ทับทิมเป็นครั้งแรก พวกนักพัฒนาอาวุธไม่เคยสามารถสร้าง “ลำแสงมรณะที่สามารถจัดการกับเป้าหมายต่าง ๆ อย่างทันทีทันใดได้เลย” สหรัฐฯ ได้ยกเลิกโครงการอาวุธเลเซอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดบางส่วนไปแล้ว แม้มันสามารถสอยร่วงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในการทดสอบ “เหตุผลที่แท้จริงของการยกเลิกโครงการต่าง ๆ เหล่านี้คือ พลานุภาพการทำลายล้างของมันไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง” จากความเห็นของเหล่านักวิทยาศาสตร์จีน อาวุธลักษณะนี้มักก่อลำแสงพลังงานสูงที่ทำให้อุณหภูมิแก๊สพุ่งสูงระหว่างการเดินทาง ขณะที่มันพุ่งผ่านอากาศ จนก่อให้เกิดความปั่นป่วน ผลกระทบนี้อาจทำให้ลำแสงบิดเบี้ยว บั่นทอนความแม่นยำและความเข้มข้นของมัน นอกจากนี้…
มีข่าวว่าเครื่องบินขับไล่ใหม่ของจีนสามารถติดตั้งอาวุธพลังงานเลเซอร์ได้ แถมบินได้แบบล่องหนอีกด้วย เครื่องบินขับไล่ล่องหนดังกล่าวเป็นรุ่น J-20 แต่ถูกพัฒนาและอัปเกรดจนเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 แล้ว ความสามารถหลัก ๆ ที่เพิ่มเข้ามาคือ ติดตั้งอาวุธเลเซอร์ได้ บินแบบล่องหนได้ รองรับการบินแบบไร้คนขับ และการควบคุมจากส่วนกลาง เป็นอากาศยานไร้คนขับที่ติดตั้งอาวุธที่ทันสมัยที่สุด Directed-energy weapons หรือ อาวุธเลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ สามารถใช้ในการสกัดกั้นภัยคุกคามทางอากาศได้รวดเร็วกว่าขีปนาวุธ ป้องกันได้ยากกว่า อานุภาพสูง แต่มีข้อเสียคือใช้พลังงานมาก ซึ่งโดยปกติแล้ว จะติดตั้งอยู่ที่ภาคพื้นดิน แต่การที่เอามาที่ติดที่เครื่องบิน แสดงว่าเครื่องบินต้องมีแหล่งเก็บพลังงานมากกว่าเครื่องบินทั่วไปครับ ไม่เพียงเท่านี้ J-20 สามารถติดตั้งเรดาร์และระบบควบคุมการยิงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเป็นเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าขนาดเล็กที่ว่องไว ทั้งหมดนี้จะช่วย J-20 สามารถดำเนินการประสานงานกับโดรน หรือเป็นจ่าสูงในการสั่งการฝูงโดรนที่ใช้ในการต่อสู้ ระหว่างนี้ เราจะห็นประเทศผู้นำโลกต่าง ๆ ทั้งจีน สหรัฐ อังกฤษ และประเทศอื่น ๆ เริ่มจะพัฒนาอาวุธกันมากขึ้น ก็ได้แต่หวังว่า มันจะเป็นแค่การโชว์เพื่ออวดศักยภาพกันเท่านั้น อย่าให้มันถูกนำมาใช้จริงในสงครามเลย … …
ไม่นานมานี้ บริษัท Lockheed Martin ได้ส่งมอบ อาวุธเลเซอร์ ที่ทรงพลังที่สุดในโลกให้กับกองทัพสหรัฐ เพื่อนำไปติดตั้งในเครื่องสาธิตอาวุธเลเซอร์ใหม่ที่ออกแบบมาโจมตีเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 บริษัทได้เปิดตัวอาวุธเลเซอร์ชื่อว่า HELIOS ที่บริษัทได้ส่งมอบให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมเพื่อนำไปประกอบรวมเข้ากับเรือรบที่มีอยู่ ซึ่งอาวุธเลเซอร์นี้สามารถทำลายเครื่องบินหรือหัวรบได้ก่อนที่มันจะมาถึงเรือ แต่เลเซอร์ขนาดใหม่นี้ มีขนาด 300 กิโลวัตต์ ซึ่งมากกว่า 5 เท่าของ HELIOS นั่นแปลว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้เวลาน้อยลงในการทำลายเป้าหมาย สามารถโจมตีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นได้หลากหลายมากขึ้นในระยะไกลขึ้น หากเทียบกับอาวุธอื่นเช่นจรวดมิสไซล์ หรือปืนกล อาวุธเลเซอร์ถือว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่ามาก แถมยังมีต้นทุนในการยิงต่อครั้งไม่เกิน 100 ดอลลาร์ นับว่าเป็นเขี้ยวเล็บใหม่ของสหรัฐที่อาจทำให้หลาย ๆ ประเทศต้องยำเกรง ที่มาข้อมูล https://newatlas.com/military/lockheed-martin-delivers-record-300-kw-laser-weapon-to-us-military/ ———————————————————————————————————————————————- ที่มา : TechHub …
ไม่ใช่แค่ชาติตะวันตกที่ประโคมประสิทธิภาพ “สินค้าสงคราม” ของตน แต่รัสเซียยังใช้โอกาสการรุกรานยูเครน เปืดตัวอาวุธใหม่ด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์ – เมื่อวันพุธที่ 18 พ.ค. รัสเซียได้เปิดตัวอาวุธเลเซอร์รุ่นใหม่รวมถึงระบบเลเซอร์เคลื่อนที่ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งรัฐบาลมอสโกกล่าวว่า ได้ก้าวหน้าไปแล้วจนอาจทำให้ดาวเทียมในวงโคจร “สัญญาณบอด” และทำลายโดรนได้ ในปี 2018 ปูตินได้เปิดตัวอาวุธใหม่ๆ มากมาย รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป หัวรบนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สามารถติดกับขีปนาวุธร่อน โดรนนิวเคลียร์ใต้น้ำ อาวุธความเร็วเหนือเสียง และอาวุธเลเซอร์ ไม่ค่อยมีใครรู้จักเกี่ยวกับอาวุธเลเซอร์ชื่อ Peresvet ที่ชื่อตามชื่อของ Alexander Peresvet นักบวชนักรบออร์โธดอกซ์ยุคกลางที่เสียชีวิตในการสู้รบ ปูตินให้ข้อมูลเฉพาะบางประการในปี 2018 และรายละเอียดของเลเซอร์นั้นเป็นความลับ ยูริ โบริซอฟ รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางการทหาร บอกกับที่ประชุมในกรุงมอสโกว่า Peresvet ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางแล้ว และมันอาจทำให้ดาวเทียมที่อยู่สูงจากพื้นโลกถึง 1,500 กม. สัญญาณบอดได้ เขาอ้างการทดสอบเมื่อวันอังคาร โดยเขากล่าวว่า ได้เผาโดรนที่อยู่ห่างออกไป 5 กม. ภายในห้าวินาที สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันการทดสอบได้อย่างอิสระ “มันถูกส่งไปให้กองทหาร…
ปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์เพื่อยิงโดรนขนาดเล็ก แต่อาวุธเลเซอร์ที่ทรงพลังกว่าสามารถโจมตีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าได้ บริษัท General Atomics Electromagnetic Systems และทีม Boeing ได้รับสัญญาว่าจ้างจากสำนักงานความสามารถพิเศษและเทคโนโลยีที่สำคัญของกองทัพสหรัฐ (RCCTO) เพื่อพัฒนาอาวุธเลเซอร์พลังงานสูงระดับ 300 กิโลวัตต์ การส่งมอบจะเป็นและเตรียมที่จะทำการทดสอบในปีหน้า “ต้นแบบอาวุธเลเซอร์แบบกระทัดรัดพลังสูงกำลังสูงที่ GA-EMS จะส่งมอบภายใต้สัญญานี้จะมีสมรรถภาพที่ร้ายแรงยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในปัจจุบัน” สกอตต์ ฟอร์นีย์ ประธานของ GA-EMS กล่าว “เทคโนโลยีนี้แสดงถึงความสามารถแบบก้าวกระโดดสำหรับการป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธ ซึ่งจำเป็นต่อการสนับสนุนความพยายามในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของกองทัพบก และเอาชนะภัยคุกคามรุ่นต่อไปในพื้นที่ต่อสู้แบบหลายภาคส่วน” ปัจจุบัน กองทัพเรือสหรัฐได้ติดตั้งอาวุธเลเซอร์พลังงานสูงตัวแรกที่รู้จักกันในชื่อ LaWS บนเรือรบ USS Ponce ในปี 2014 โดยมีกำลัง 30 กิโลวัตต์ เลเซอร์ทางทหารส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วง 30 ถึง 100 กิโลวัตต์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการยิงโดรนขนาดเล็กลง แต่พลังที่สูวขึ้นจากสามารยิงขปนาวุธได้ ทั้งแบบขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธทิ้งตัว New Scientist รายงานว่า โดยทั่วไปแล้วอาวุธดังกล่าวจะใช้เลเซอร์ไฟเบอร์อุตสาหกรรมหลายตัว โดยที่เอาต์พุตจะรวมกันเป็นลำแสงเดียว อาวุธใหม่นี้ใช้แผ่นกระจกขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันเป็นชุดแทน…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว