กลุ่มแบ่งแยกดินแดนอินโดนีเซียเผยภาพตัวประกัน “นักบินนิวซีแลนด์”

Loading

    กองกำลังแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดปาปัวของอินโดนีเซีย เผยภาพและคลิปตัวประกัน ซึ่งเป็นนักบินชาวนิวซีแลนด์ ด้านรัฐบาลกลางในกรุงจาการ์ตายืนยัน จะช่วยออกมาให้ได้   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่าจากกรณีกองทัพปลดปล่อยปาปัวแห่งชาติตะวันตก ( ทีพีเอ็นพีบี ) ประกาศการควบคุมตัว นายฟิลิป เมอร์เธนส์ นักบินชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งขับเครื่องบินเล็กแบบเช่าเหมาลำของสายการบิน ซูซี แอร์ ไปลงจอดในเขตพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดปาปัว เมื่อช่วงต้นเดือนนี้   ทีพีเอ็นพีบีเผยแพร่ “ภาพถ่ายล่าสุด” ของเมอร์เธนส์ ซึ่งสภาพร่างกายโดยรวมยังถือว่า สมบูรณ์แข็งแรงดี พร้อมคลิป ซึ่ง เมอร์เธนส์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า อยู่ภายใต้การควบคุมของทีพีเอ็นพีบี ซึ่งต่อสู้เพื่อการเป็นเอกราชของปาปัว กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการให้กองทัพอินโดนีเซียถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ มิเช่นนั้นตัวเขา “ต้องอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต”   Separatist fighters in Indonesia's Papua region released images of a hostage pilot, Philip…

ระทึก กลุ่มแบ่งแยกดินแดนอินโดนีเซียจับนักบินนิวซีแลนด์เป็นตัวประกัน

Loading

    นักบินชาวนิวซีแลนด์ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในอินโดนีเซียจับเป็นตัวประกัน หลังจากเขาขับเครื่องบินเล็กพร้อมผู้โดยสารไปลงจอดในจังหวัดปาปัว   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 7 ก.พ. 2566 ว่า นักบินชาวนิวซีแลนด์ชื่อว่า ฟิลิป เมอร์เธนส์ ขับเครื่องบินเล็กไปลงจอดในเขตเอ็นดูกา ซึ่งเป็นภูมิภาคภูเขาของจังหวัดปาปัว ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ก่อนที่พวกเขาจะถูกโจมตี เครื่องบินถูกจุดไฟเผา และนายเมอร์เธนส์ถูกจับเป็นตัวประกัน   กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติปาปัวตะวันตก (WPNLA) ซึ่งรัฐบาลจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย ออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยนายเซบบี ซัมบอม โฆษกของกลุ่มกล่าวว่า นักบินรายนี้จะถูกประหารชีวิตหากอินโดนีเซียยังดื้อดึง และล้มเหลวในการเจรจาเรื่องเอกราชของปาปัวตะวันตก   ขณะที่ตำรวจอินโดนีเซียกล่าวว่า พวกเขากำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ แต่การเดินทางทำได้ยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุสามารถเข้าถึงได้ทางอากาศเท่านั้น ขณะที่ไม่มีการยืนยันแน่ชัดถึงชะตากรรมของผู้โดยสารเครื่องบิน 5 ราย แต่เชื่อกันว่า ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวแล้ว   ด้านรัฐบาลนิวซีแลนด์ระบุว่า พวกเขาทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และสถานกงสุลของพวกเขาในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซีย กำลังให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของนักบินรายนี้   อนึ่ง ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี เครื่องบินที่นายเมอร์เธนส์ขับเป็นของสายการบิน ซูซี แอร์ (Susi Air) กำลังอยู่ระหว่างขนส่งเสบียงจากเมืองทิมิกา ซึ่งอยู่ติดกับเขตเอ็นดูกา…

คนร้าย ‘บึ้มฆ่าตัวตาย’ ถล่มสถานีตำรวจอิเหนาใน ‘บันดุง’ ตาย 2-เจ็บ 8

Loading

  เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีตำรวจในเมืองบันดุงของอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 8 คนวันนี้ (7 ธ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุอาจเป็นสมาชิกกลุ่มอิสลามิสต์ซึ่งต้องการแก้แค้นกฎหมายอาญาใหม่ที่รัฐเพิ่งประกาศใช้   อะหมัด รอมฎอน หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ยืนยันว่า ตำรวจได้ประสานไปยังหน่วยต่อต้านก่อการร้ายเพื่อสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคร่าชีวิตทั้งคนร้าย และตำรวจอีก 1 นาย   อิบนุ สุเฮนดรา จากสำนักงานต่อต้านก่อการร้ายอินโดนีเซีย (BNPT) ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Metro TV ว่า กลุ่มติดอาวุธ ญะมาอะห์ อันชารุต เดาละห์ (Jamaah Ansharut Daulah – JAD) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) น่าจะอยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมครั้งนี้ เนื่องจากเคยก่อเหตุโจมตีลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้งในอินโดนีเซีย   ภาพจากจุดเกิดเหตุเผยให้เห็นอาคารสถานีตำรวจได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด โดยมีเศษชิ้นส่วนจากอาคารตกเกลื่อนอยู่ที่พื้น และมีกลุ่มควันฟุ้งกระจายไปทั่ว   ซุนตานา ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชวาตะวันตก บอกกับ Metro TV ว่า ทางการกำลังตรวจสอบรถจักรยานยนต์สีฟ้าต้องสงสัยในที่เกิดเหตุ…

อินโดนีเซียเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับการประชุม G20

Loading

  กองทัพและตำรวจของอินโดนีเซียวางแผนประจำการเจ้าหน้าที่ราว 18,000 คนเพื่อรักษาความปลอดภัยในช่วงการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศที่สำคัญและชาติที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู 20 ชาติหรือ G20 ที่จะเริ่มขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน   อินโดนีเซียจะเป็นประธานการประชุม G20 เป็นครั้งแรก ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศว่าจะเข้าร่วมการประชุมนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะของญี่ปุ่น กำลังเตรียมการเพื่อเข้าร่วมการประชุมเช่นกัน   เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจประมาณ 3,700 นาย รวมตัวกันที่สถานที่จัดงานที่เกาะบาหลี เพื่อจัดพิธีแสดงความสามัคคี 1 สัปดาห์ก่อนเปิดการประชุม G20 ซึ่งกำหนดการประชุมไว้ 2 วัน   ในพิธีดังกล่าว เจ้าหน้าที่เผยให้เห็นยานพาหนะหุ้มเกราะที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามข้อสมมุติว่ามีการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหญ่ รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ป้องกันไม่ให้โดรนเข้ามาในสถานที่จัดงาน   ด้านหน่วยกองทัพอากาศของอินโดนีเซียที่รับผิดชอบในการสอดส่องเฝ้าระวังทางอากาศมารวมพลเช่นกันที่สนามบินซึ่งบรรดาผู้นำจะเดินทางมาถึง   รัฐบาลอินโดนีเซียจะตื่นตัวเฝ้าระวังขั้นสูงในช่วงการประชุม โดยบังคับใช้ข้อจำกัดการจราจรขนานใหญ่และจำกัดกิจกรรมของประชาชนโดยให้โรงเรียนสอนทางออนไลน์   เมื่อเดือนตุลาคม ความสับสนอลหม่านเกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน อินโดนีเซียกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเสริมสร้างความปลอดภัย       —————————————————————————————————————————————- ที่มา…

โดมยักษ์มัสยิดอินโดฯ พังถล่มหลังไฟไหม้ระหว่างบูรณะซ่อมแซม

Loading

  โดมยักษ์ของมัสยิดในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พังถล่มลงมา หลังเหตุไฟไหม้ครั้งรุนแรง เคราะห์ดี ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต   โซเชียลมีเดียแห่แชร์คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ระทึกขณะโดมยักษ์ของมัสยิดแห่งศูนย์อิสลามในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย พังถล่มลงมา หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งรุนแรง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (19 ต.ค.) สร้างความตกใจให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก     เคราะห์ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด   ด้านตำรวจนครบาลจาการ์ตาเหนือ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุไฟไหม้ที่โดมยักษ์ของมัสยิดแห่งนี้แล้ว     เบื้องต้นคาดการณ์ว่า ต้นเพลิงเกิดจากประกายไฟระหว่างงานซ่อมบำรุงมัสยิด เนื่องจากคนงานใช้ไม้อัดในการปรับปรุงหลังคา และใช้ไฟละลายยางมะตอยชนิดม้วน เพื่อติดวัสดุมุงหลังคา   เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ประกายไฟจากเครื่องมือช่างอาจจะกระเด็นไปถูกฉนวนหลังคาใยแก้ว จนทำให้เกิดไฟไหม้รุนแรงในที่สุด และแม้ว่าคนงานจะพยายามดับไฟด้วยการใช้ถังดับเพลิง แต่เปลวไฟลุกลามเผาผลาญเป็นบริเวณกว้างอย่างรวดเร็ว จนทำให้โดมยักษ์พังถล่มลงมา   หน่วยดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิง 9 คันระดมกำลังกันฉีดน้ำเข้าสกัดและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาต่อมา ขณะที่ยังไม่มีการประเมินความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ครั้งนี้     ทั้งนี้ มัสยิดดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในอาคารหลายหลังในศูนย์อิสลามจาการ์ตา และโดมของมัสยิดแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ระหว่างการบูรณะปรับปรุง เมื่อเดือนตุลาคมปี 2002 ที่ผ่านมา ครั้งนั้นใช้เวลาในการดับไฟราว 5 ชั่วโมง  …

อินโดนีเซียสรุป’แก๊สน้ำตา’สาเหตุหลักเหยียบกันตายในสนามฟุตบอล

Loading

  อินโดนีเซียเผยผลการสอบสวนเหตุการณ์เหยียบกันตายในสนามฟุตบอล ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 130 ราย มีสาเหตุหลักจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตา และเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่า มีข้อห้ามใช้แก๊สน้ำตาในการแข่งขันฟุตบอล   มาห์ฟุด เอ็มดี รัฐมนตรีประสานงานด้านความมั่นคงของอินโดนีเซีย แถลงวันนี้เกี่ยวกับผลการสอบสวนโดยคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมในสนามกีฬา คานจูรูฮาน ในจังหวัดชวาตะวันออกเมื่อวันที่ 1 ต.ค. เขาระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด 32 ตัวช่วยยืนยันว่า เหยื่อเคราะห์ร้ายส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการเหยียบกันตาย หลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชน ภาพผู้เคราะห์ร้ายล้มทับกันน่ากลัวกว่าที่รายงานทางทีวีและปรากฏในโซเชียลมีเดีย   นอกจากนี้ รายงานผลการสอบสวน ยังระบุว่า ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นไม่รู้ว่าสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า มีข้อห้ามใช้แก๊สน้ำตาในการแข่งขันฟุตบอล และเจ้าหน้าที่ยังใช้กำลังเกินกว่าเหตุอีกด้วย   ขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลแห่งชาติ และพีที ลิกา อินโดนีเซีย บารู (PT Liga Indonesia Baru) ผู้จัดการแข่งขัน ถูกระบุว่าละเลยข้อบังคับด้วย   มาห์ฟุด เปิดเผยด้วยว่า รายงานผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะยาว 124 หน้าถูกยื่นต่อ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแล้ว และกระทรวงประสานงานเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนทางอาญาต่อทุกฝ่าย…