องค์การสหประชาชาติ ตำหนิสหรัฐอเมริกาเรื่องเอกสารลับที่รั่วไหล

Loading

    หลายสัปดาห์หลังจากมีการเผยแพร่เอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จำนวนมากบนสื่อสังคมออนไลน์ องค์การสหประชาชาติ ออกถ้อยแถลงตำหนิสหรัฐฯ กรณีที่มีการสอดแนมเลขาธิการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ   นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า สหประชาชาติมีความเห็นว่า การสอดแนมเจ้าหน้าที่บุคลากรของสหประชาชาติ ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของสหรัฐอเมริกาที่ระบุไว้ในกฎบัตรของสหประชาชาติและอนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของสหประชาชาติ และสหประชาชาติได้ส่งบันทึกไปยังคณะผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ในสหประชาชาติเกี่ยวกับเอกสารลับแล้ว   โดยในเอกสารลับส่วนที่เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ เป็นการสอดแนมการสนทนาและการทำงานของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง โดยมีการแสดงความเห็นว่า นายกูเตอร์เรส “อ่อนข้อ” ให้กับรัสเซียมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการใช้มาตรการคว่ำบาตร ทั้งมีรายละเอียดการสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกูเตอร์เรสกับนางอมินา โมฮัมเหม็ด รองเลขาธิการสหประชาชาติ   อย่างไรก็ตาม สำนักงานของนายกูเตอร์เรส ระบุว่า การทำงานของเขาอยู่ในสายตาของสาธารณชนมาเป็นเวลานาน จึงไม่แปลกใจหากจะมีการสอดแนมและดักฟังการสนทนาส่วนตัว แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือความบกพร่องหรือไร้ความสามารถที่ทำให้การสนทนาส่วนตัวถูกนำไปเผยแพร่ และถูกบิดเบือน               —————————————————————————————————————————————— ที่มา :           …

นักเรียนต่างชาติกังวลเรื่องความรุนแรงในรั้วมหาวิทยาลัย

Loading

  ความรุนแรงจากการใช้ปืนอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน ขบวนพาเหรดในวันหยุด หรือร้านขายอาหาร และยังอาจเกิดขึ้นได้ในรั้วมหาวิทยาลัยอีกด้วย   เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มือปืนคนหนึ่งเข้าไปก่อเหตุในบริเวณมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บอีก 5 คน และเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย 3 คนถูกเพื่อนร่วมชั้นฆ่าตายขณะที่เดินทางกลับมาจากกรุงวอชิงตัน   นอกจากนี้ยังมีการใช้ความรุนแรงรูปแบบอื่น ๆ ตามรั้วมหาวิทยาลัย อย่างเช่นเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว มีการก่อเหตุโดยใช้มีดคร่าชีวิตนักศึกษา 4 คนจากมหาวิทยาลัยไอดาโฮ ในขณะที่พวกเขานอนหลับอยู่ในบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน ปัจจุบันยังคงมีการสืบสวนคดีนี้กันอยู่ ส่วนที่รัฐมิชิแกน ชายที่ก่อเหตุยิงนักเรียนฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา และที่รัฐเวอร์จิเนีย ตำรวจได้จับกุมนักเรียนที่ก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมชั้นของเขาเอง   ข้อมูลจาก Violence Project ระบุว่า มีการก่อเหตุกราดยิงเก้าครั้งทั้งในหรือรอบ ๆ มหาวิทยาลัยในอเมริกาตั้งแต่ปี 1966   สำหรับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทคในปี 2007 โดยนักศึกษาคนหนึ่งได้สังหารผู้คนไป 32 คนและบาดเจ็บอีก 17 คน   15 ปีต่อมา แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎเกณฑ์บางอย่าง แต่การก่อเหตุกราดยิงก็ยังคงเกิดขึ้น  …

เอฟบีไอรวบ 2 คนจีน ตั้งข้อหาเปิด ‘สถานีตำรวจลับ’ ในไชน่าทาวน์

Loading

    อัยการสหรัฐจับกุมตัวชาย 2 คนในนิวยอร์ก ในข้อหาปฏิบัติการเปิดสถานีตำรวจลับของจีนที่ไชน่าทาวน์ในแมนฮัตตัน โดยคาดว่าจะมีการนำตัวบุคคลทั้งคู่ขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบรู๊คลินในวันที่ 17 เมษายนนี้ ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งคู่อาจเจอโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี   นายหลู่ เจี้ยนหวาง วัย 61 ปี และนายเฉิน จิ้นผิง วัย 59 ปี อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดเป็นตัวแทนของจีน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมาปฏิเสธการดำเนินการตามที่สหรัฐเรียกขานว่าสถานีตำรวจลับ ว่าเป็นเพียงศูนย์บริการสำหรับคนจีนในต่างแดน   ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่า นายหลู่จากบรองซ์และนายเฉินจากแมนฮัตตันทำงานร่วมกันเพื่อก่อตั้งสถานีตำรวจในต่างประเทศแห่งแรกในสหรัฐ ในนามของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน   จุดบริการดังกล่าวถูกปิดไปในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 หลังผู้เกี่ยวข้องทราบว่าสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนถึงการมีอยู่ของสถานีตำรวจลับดังกล่าว   นายบรอน เพียร์ซ อัยการสูงสุดในบรู๊คลิน กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เผยให้เห็นว่ารัฐบาลจีนละเมิดอำนาจอธิปไตยของสหรัฐอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยการจัดตั้งสถานีตำรวจลับกลางนครนิวยอร์ก   “การกระทำของจีนไปไกลเกินกว่าขอบเขตที่จะยอมรับได้ เราจะปกป้องเสรีภาพของทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศของเราอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่จากการคุกคามของการปราบปรามโดยเผด็จการ” นายแมทธิว โอสเลน ผู้ช่วยอัยการสูงสุดจากกองความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าว…

เพนตากอนเร่งสอบ เอกสารลับเกี่ยวกับสงครามยูเครนหลุดว่อนโซเชียล

Loading

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีที่ข้อมูลลับด้านการทหารของสหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เกี่ยวกับสงครามในยูเครน ถูกนำไปเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์   CNN ได้ตรวจสอบภาพสกรีนช็อตบางส่วนที่เผยแพร่บน Twitter และ Telegram แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นภาพจริงหรือผ่านการตัดต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นภาพจริง โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับสงครามที่เพนตากอนจัดทำขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเอกสารดังกล่าวถูกแก้ไขในบางจุด   ซาบรินา ซิงห์ รองเลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว แต่ระบุในแถลงการณ์ว่า กระทรวงกลาโหมรับทราบรายงานเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ และกระทรวงกลาโหมกำลังตรวจสอบเรื่องนี้   ด้าน มีไคโล โปโดลีแอก ที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักประธานาธิบดียูเครน กล่าวผ่านช่อง Telegram ส่วนตัวว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งระบุว่าเอกสารที่รั่วไหลและถูกนำไปเผยแพร่บนสื่อโซเชียลนั้นไม่ใช่ของจริง โดยข้อมูลจำนวนมากที่ถูกอ้างอิงนั้นเป็นข้อมูลที่แต่งขึ้น และไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับแผนการที่แท้จริงของยูเครน   รายงานข่าวระบุว่า เอกสารที่ปรากฏนั้นไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือไม่ก็ตาม มุ่งนำเสนอเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า การวางแผนตอบโต้ของยูเครนจะเริ่มขึ้นเมื่อใด และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการเตรียมการของอีกฝ่าย   ภาพหนึ่งที่เผยแพร่ในช่อง Telegram ของรัสเซีย และได้รับการตรวจสอบโดย CNN คือภาพถ่ายเอกสารฉบับพิมพ์ชื่อ…

คลุมเครือต่อไป! สหรัฐฯ ไม่อนุญาตเผยคลิปยิงสอย ‘วัตถุบินปริศนา’ เหนืออะแลสกา อ้างเป็นข้อมูล ‘ชั้นความลับ’

Loading

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างคลิปบันทึกเหตุการณ์ขณะที่เครื่องบินของกองทัพยิงสอยวัตถุบินปริศนาเหนือรัฐอะแลสกาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังถือเป็นข้อมูลชั้นความลับ (classified) และไม่สามารถเผยให้สาธารณชนรับรู้ได้   “คลิปการยิงทำลายวัตถุปริศนาในบรรยากาศชั้นสูงมีอยู่จริง” โฆษกเพนตากอนให้สัมภาษณ์กับ Fox News Digital แต่ย้ำว่า “ยังไม่มีคลิปไหนที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้ และมันยังจัดเป็นข้อมูลชั้นความลับอยู่”   คำยืนยันจากโฆษกผู้นี้มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาระบุเมื่อเดือน ก.พ. ว่า มีวัตถุบินจำนวนมากถูกกองทัพยิงตกเหนือรัฐอะแลสกาตามคำสั่งของประธานาธิบดี โจ ไบเดน   “วัตถุดังกล่าวลอยอยู่ที่ระดับความสูง 40,000 ฟุต และก่อความเสี่ยงต่อเครื่องบินพลเรือน” แพทริก ไรเดอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากที่มีการยิงวัตถุบินลึกลับชิ้นหนึ่งตก   เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังสหรัฐฯ พบ “บอลลูนสอดแนมจีน” เคลื่อนผ่านน่านฟ้าหลายรัฐตั้งแต่ภาคตะวันตกเรื่อยไปจนถึงตะวันออก จนสุดท้ายไปถูกเครื่องบินขับไล่อเมริกันยิงตกที่นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา   ในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีการปล่อยภาพนิ่งของบอลลูนจีน ทว่าจนถึงขณะนี้กลับยังไม่ยอมเผยคลิปหรือภาพอย่างเป็นทางการของวัตถุบินปริศนาเหนือรัฐอะแลสกา   “คลิปของวัตถุดังกล่าว รวมถึงคลิปการยิงทำลายยังไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ และผมเองก็ไม่สามารถระบุกรอบเวลาสำหรับการเผยแพร่ในอนาคตด้วย” โฆษกเพนตากอนระบุ   การออกมาให้ข้อมูลที่คลุมเครือเช่นนี้ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า จริงๆ แล้วกองทัพสหรัฐฯ ยิงอะไรตกกันแน่? และล่าสุดมีสมาคมบอลลูนสมัครเล่นแห่งหนึ่งออกมาระบุว่า…

อย่าหาทำ! สายการบิน Delta รวบผู้โดยสาร หลังเปิดประตูฉุกเฉินก่อนเครื่องขึ้นบิน

Loading

    สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เกิดเหตุผู้โดยสารของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ (Delta Air Lines) เปิดประตูเครื่องบินและสไลด์ตัวลงจากทางออกฉุกเฉิน ในขณะที่เครื่องบินกำลังเตรียมขึ้นบินจากเมืองลอสแอนเจลิสไปยังเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา   องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอนแอนเจลิส (LAX) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 10.40 น. (เวลาท้องถิ่น) ในขณะที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 เที่ยวบินที่ 1714 ของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ กำลังเคลื่อนไปบนรันเวย์เพื่อเตรียมขึ้นบิน (Taxi)   รายงานข่าวระบุว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวถูกจับกุมตัวทันทีโดยเจ้าหน้าที่ของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น ส่วนผู้โดยสารคนอื่น ๆ นั้นได้รับการเคลื่อนย้ายไปยังเครื่องบินลำใหม่แล้ว พร้อมกับคำขอโทษจากสายการบินและ FAA   อย่างไรก็ตาม ทาง FAA เปิดเผยว่า จะดำเนินการสืบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุต่อไป โดยจะมีการทำงานร่วมกับสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ และท่าอากาศยานนานาชาติลอนแอนเจลิส        …