วิเคราะห์: อาวุธใหม่ ‘จรวดติดจีพีเอส’ จะเปลี่ยนทิศทางสงครามยูเครนอย่างไร?

Loading

    สหรัฐฯ เตรียมจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ให้แก่ยูเครน ด้วยจรวดที่สามารถโจมตีในระยะไกลลึกเข้าไปในเขตแนวหน้าของรัสเซีย ซึ่งทำให้รัสเซียอาจต้องเร่งปรับยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อรับมืออาวุธชนิดใหม่นี้   อาวุธดังกล่าวเรียกว่าระเบิดนำวิถีขนาดเล็กที่ยิงจากภาคพื้นดิน (Ground Launched Small Diameter Bomb) หรือ GLSDB ซึ่งมีระยะยิงได้ไกล 150 กิโลเมตร ไกลกว่าระบบยิงจรวด High Mobility Artillery Rocket System (HIMARS) ของสหรัฐฯ ที่ยูเครนใช้อยู่ในขณะนี้ราวสองเท่า ซึ่งหมายความว่าจะสามารถโจมตีได้ถึงเส้นทางขนส่งเสบียงของกองทัพรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน รวมทั้งบางส่วนของแคว้นไครเมีย     ยูเครนเชื่อว่า อาวุธใหม่นี้จะกดดันให้รัสเซียต้องถอยเส้นทางขนส่งเสบียงไปไกลจากแนวหน้ามากกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้กองทัพรัสเซียอ่อนแอลงและยังเพิ่มความยากลำบากให้แก่รัสเซียในการโจมตีรอบใหม่ด้วย   แอนเดรีย ซาโกรอดเนียค อดีตรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน เชื่อว่า “ระบบยิงจรวดแบบใหม่อาจทำให้การรุกคืบของรัสเซียช้าลงมาก และจะส่งผลกระทบต่อทิศทางของสงครามครั้งนี้ยิ่งกว่าที่ระบบ HIMARS เคยส่งผลมาแล้ว”   GLSDB คือระเบิดนำวิถีแบบร่อนที่ใช้จีพีเอสนำทาง สามารถสั่งการโจมตีเป้าหมายที่ยากต่อการเข้าถึง เช่น ศูนย์บัญชาการรบ ผลิตโดยบริษัทซาบ เอบี (SAAB AB) และ โบอิ้ง…

ลุกลามบานปลาย?? เพนตากอนยิงขีปนาวุธสอยบอลลูนสอดแนม ปักกิ่งฉะเกินกว่าเหตุ-ประกาศพร้อมตอบโต้

Loading

    เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธสอยบอลลูนจีนที่ต้องสงสัยว่าเป็นอุปกรณ์สอดแนม ตกลงในทะเลน้ำตื้นบริเวณนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันเสาร์ (4 ก.พ.) หลังจากบอลลูนดังกล่าวเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ นานหนึ่งสัปดาห์และทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ ถึงขั้นที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกันระงับการเดินทางเยือนจีนเอาไว้ก่อน ด้านปักกิ่งฉุนขาดชี้วอชิงตันทำเกินกว่าเหตุและจะตอบโต้ โดยยืนยันว่าเป็นบอลลูนตรวจสอบสภาพอากาศเท่านั้น   ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่า ได้สั่งการให้ยิงบอลลูนต้องสงสัยลูกนี้ตั้งแต่วันพุธ (1) แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) แนะนำให้รอจนกว่าบอลลูนจะลอยถึงบริเวณเหนือน่านน้ำเปิด เพื่อปกป้องชีวิตผู้คนซึ่งอาจเป็นอันตรายจากเศษซากที่จะร่วงลงมาจากระดับซึ่งสูงกว่าพื้นที่น่านฟ้าซึ่งพวกเครื่องบินโดยสารใช้เดินทางกันหลายพันเมตร   ส่วน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ปฏิบัติการคราวนี้ดำเนินการกันด้วยความรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นการตอบโต้บอลลูนจีนที่ละเมิดอธิปไตยสหรัฐฯ อย่างไม่อาจยอมรับได้   ขณะที่นายทหารอเมริกันอาวุโสผู้หนึ่งเผยว่า ปฏิบัติการนี้ใช้เครื่องบินขับไล่และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงหลายลำเข้าร่วม แต่มีเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 เพียงลำเดียว ซึ่งมาจากฐานทัพอากาศแลงลีย์ ในรัฐเวอร์จิเนีย ที่ยิงใส่บอลลูนเมื่อเวลา 14.39 น. วันเสาร์ โดยใช้ขีปนาวุธซูเปอร์โซนิกตรวจจับความร้อนจากอากาศสู่อากาศ เอไอเอ็ม-9เอ็กซ์   ทางด้านจีนประณามอย่างรุนแรงที่อเมริกาโจมตีทางทหารต่ออากาศยานของตนที่มีวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบสภาพอากาศและวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ซึ่งลอยเข้าไปในน่านฟ้าสหรัฐฯ โดยบังเอิญ   กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (5) ว่า จีนได้ขอให้อเมริกาจัดการเรื่องนี้อย่างสุขุม…

ชักศึกเข้าบ้าน?? ฟิลิปปินส์ไฟเขียวอเมริกาเข้าใช้ฐานทัพเพิ่ม ร่วมมือสกัดปักกิ่งรุกทะเลจีนใต้-คุกคามไต้หวัน

Loading

    ฟิลิปปินส์ตกลงอนุญาตให้อเมริกาเข้าไปใช้ฐานทัพของตนเพิ่มอีก 4 แห่ง รวมกับของเดิมเป็น 9 แห่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของชาติพันธมิตรเก่าแก่ 2 รายนี้ ที่ระบุว่าต้องการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลทางทหารของปักกิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ ตลอดจนความตึงเครียดเกี่ยวกับไต้หวัน   ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการเยือนกรุงมะนิลา กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับ คาร์ลิโต กัลเวซ รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.พ.) ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ อนุมัติแล้วให้วอชิงตันสามารถเข้าถึงฐานทัพของฟิลิปปินส์เพิ่มอีก 4 แห่ง จากเดิม 5 แห่งภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมเพิ่มเติม (อีดีซีเอ) ซึ่งจัดทำกันไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2014   ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อาวุโสของฟิลิปปินส์คนหนึ่งเผยว่า ทั้งสองประเทศกำลังเจรจาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเพิ่มฐานทัพอีกแห่งหนึ่ง เป็นแห่งที่ 10   ในการประกาศร่วมกันของ 2 ประเทศเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันพฤหัสฯ บอกว่าความเป็นพันธมิตรระหว่างฟิลิปปินส์กับอเมริกายืนหยัดมั่นคงท้าทายกาลเวลา และทั้งสองประเทศหวังว่า ฐานทัพเหล่านี้จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือต่อไป   เวลาเดียวกันสหรัฐฯ ตกลงจัดสรรงบประมาณ…

อื้ออึง!! ตอลิบานขาย “อาวุธเมดอินยูเอสเอ” โจ่งครึ่ม หลังอเมริกาทิ้งไว้ถึง 7.1 พันล้านดอลลาร์

Loading

    เอเจนซีส์ – คลิปโผล่ไปทั่วในอินเดียเดือนที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ถือปืนไรเฟิล M4 carbine อย่างหรูของสหรัฐฯ หลังตอลิบานครอบครองอาวุธยุทโธปกรณ์อเมริกันมูลค่า 7.1 พันล้านดอลลาร์ หลังสหรัฐฯ และนาโต้ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานไปอย่างจ้าละหวั่นเมื่อสิงหาคม ปี 2021 เชื่อใช้โดรนลักลอบขนอาวุธอเมริกันข้ามพรมแดนเข้าแคชเมียร์ในเขตปกครองของอินเดีย   NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (31 ม.ค.) ว่า หลังกองทัพสหรัฐฯ และนาโต้ต่างถอนกำลังออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อสิงหาคมปี 2021 และเพนตากอนยอมรับว่ามียุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ อยู่ในอัฟกานิสถานหลังตอลิบานเข้าครอบครองมูลค่า 7.1 พันล้านดอลลาร์   กลายเป็นคำถามเกิดขึ้นมาหลังมีวิดีโอคลิปกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ และจัมมูใช้อาวุธเมดอินยูเอสเอ รวมถึงปืนไรเฟิล M4 carbine ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ M249 ปืนเชิงยุทธวิธี 509 ปืนพก M1911 ซึ่งอาวุธเหล่านี้ถูกใช้ภายในกองทัพสหรัฐฯ wionews ของอินเดียรายงาน ซึ่งปืนไรเฟิล M4 carbine ขึ้นชื่อว่าเป็นปืนที่ทหารอเมริกันใช้ในอัฟกานิสถาน   สื่ออินเดียชี้ว่า เชื่อว่าอาวุธยุทโธปกรณ์และกระสุนปืนจำนวนมากที่ทิ้งในอัฟกานิสถานถูกขายอย่างเปิดเผยโดยตอลิบาน และกลุ่มติดอาวุธในปากีสถานซื้ออาวุธเหล่านี้…

ชมบรรยากาศเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐแสดงแสนยานุภาพทะเลจีนใต้

Loading

    สหรัฐอวดเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ทะยานขึ้นลงจากเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ หวังแสดงแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้ น่านน้ำที่มีการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังเปรียบเสมือนหลังบ้านพญามังกรจีน   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ นิมิตซ์ นำ กองเรือจู่โจม เข้าสู่ ทะเลจีนใต้ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ฝูงเฮลิคอปเตอร์ MH-60 Seahawk และเครื่องบินรบF/A-18 Hornet ขึ้นลงกันให้ว่อน   พลเรือตรีคริสโตเฟอร์ สวีนีย์ ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) ว่า การเดินทางท่องทะเลจีนใต้เป็นความรับผิดชอบหนึ่งของสหรัฐต่อเสรีภาพการเดินทางในน่านน้ำและน่านฟ้าภูมิภาคที่สำคัญต่อการค้าโลก     “เราจะแล่นเรือ เหินฟ้า และปฏิบัติการในทุกที่ที่กฎหมายและปทัสถานระหว่างประเทศอนุญาต เราจะทำอย่างปลอดภัยและมุ่งมั่นในเรื่องนี้ มันก็แค่การเดินเรือและปฏิบัติการกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราในพื้นที่ เพื่อสร้างหลักประกันให้พวกเขาถึงการค้าพาณิชย์ที่เปิดกว้างและเสรีในอินโดแปซิฟิก” สวีนีย์กล่าว   กองเรือบรรทุกเครื่องบินจู่โจมนิมิตซ์ 11 ประกอบด้วย – ขีปนาวุธร่อนนำวิถี Bunker Hill – ขีปนาวุธทำลายล้างนำวิถี Decatur – เรือ Wayne E. Meyer…

เผยตัวตนเอฟบีไอสองหน้า แฉข้อมูลลับให้สื่อจนนิกสัน ลาออกจากปธน. แต่ปากบอกไม่ได้ทำ

Loading

    คดี “วอเตอร์เกต” (Watergate) อันลือลั่นซึ่งว่าด้วยการแฉข้อมูลทางการเมือง แม้จะล่วงเลยมาหลายสิบปีแล้ว จนถึงปัจจุบัน คดีนี้ยังอยู่ในความทรงจำในฐานะเรื่องอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา หรืออาจเป็นประวัติศาสตร์โลก   คดีวอเตอร์เกต     การแฉข้อมูลเบื้องลึกว่าด้วยการดำเนินการของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน และผู้ใกล้ชิดซึ่งกระทำการโดยผิดกฎหมายเพื่อให้มีชัยเหนือคู่แข่งทางการเมือง และชนะการเลือกตั้ง แต่จุดที่ทำให้ถูกเปิดโปง คือกรณีที่ทีมงานเข้าไปติดตั้งเครื่องดักฟังในศูนย์รณรงค์หาเสียงของพรรคเดโมแครต และถูกตำรวจจับได้ ขณะที่สื่อสารมวลชนที่รายงานเบื้องหลังของการงัดแงะครั้งนั้นอย่างต่อเนื่อง จนข้อมูลเบื้องลึกถูกเปิดโปงใหญ่โต จากคดีงัดแงะเล็กน้อยกลายเป็นคดีอื้อฉาวระดับประเทศ อันเป็นผลทำให้ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และน้ำตาตกต่อหน้าการแถลงข่าว สื่อมวลชนกลุ่มที่ปฏิบัติการนี้เองมีแหล่งข่าวปริศนารายสำคัญซึ่งสาธารณชนรู้จักในนามแฝงว่า “ดีพโธรต” (Deep Throat) แล้วเขาคือใคร?   หากเอ่ยถึงในข้อเท็จจริงโดยรวมแล้ว คดีวอเตอร์เกทในช่วงต้นยุค 70s มีตัวละครสำคัญที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อคดีคือบทบาทสื่อมวลชนทั้งของวอชิงตัน โพสต์ (The Washington Post) และนิวยอร์ก ไทม์ส (The New York Times) โดยเฉพาะบทบาทการทำข่าวสืบสวนสอบสวนโดยบ๊อบ วูดวาร์ด (Bob Woodward) และคาร์ล…