เกาหลีเหนือแฮ็กข้อมูลวัคซีนบริษัท Pfizer

Loading

  มีกระแสข่าวตั้งแต่ปีที่แล้วว่าเกาหลีเหนือส่งกองทัพแฮกเกอร์ล้วงความลับเรื่องวัคซีนจากบริษัทที่พัฒนาวิธีรักษาโควิด-19 หน่วยงานสายลับของเกาหลีใต้เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของ บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรมเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาและเทคโนโลยีการรักษาโควิด-19 ฮาแทกึง ส. ส. ของเกาหลีใต้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการรับฟังสรุปจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนือพยายามแสวงหาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิดและการรักษา โดยการใช้ปฏิบัติการสงครามไซเบอร์เพื่อเจาะเข้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของ Pfizer เป็นที่ทราบกันดีว่าเกาหลีเหนือมีกองทัพของแฮกเกอร์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีหลายพันคนที่โจมตีบริษัท, สถาบัน และนักวิจัยในเกาหลีใต้และที่อื่นๆ เดรื่องนี้สอดคล้องกับการที่บริษัท Microsoft Corp. เปิดเผยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่าแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือและรัสเซียได้เล็งเป้าหมายไปที่บริษัทที่มีชื่อเสียง 7 แห่งที่ทำงานเกี่ยวกับวัคซีนโควิด -19 และการวิจัยการรักษาโรคนี้ ต่อมา Pfizer และ BioNTech SE หุ้นส่วนสัญชาติเยอรมันกล่าวในภายหลังว่าเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวัคซีนของพวกเขาถูกล็อคเป้าหมายการโจมตีทางไซเบอร์ เกาหลีเหนือที่ยากจนแต่มีอาวุธนิวเคลียร์ ล็อคดาวน์โดยปิดพรมแดนเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้วเพื่อพยายามป้องกันตัวเองจากไวรัส โดยผู้นำคิมจองอึนยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าประเทศนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกจะสงสัยในคำยืนยันเหล่านั้นก็ตาม และการล็อคดาวน์ได้เพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากการคว่ำบาตรของนานาชาติจากการที่เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องเร่งหาทางจัดการกับโรคนี้   ————————————————————————————————————————————————– ทีมา : โพสต์ทูเดย์   / วันที่เผยแพร่  16 ก.พ.64 Link : https://www.posttoday.com/world/645543

อดีตทูตโสมแดงประจำคูเวต เล่านาทีแปรพักตร์ “คิม” พาครอบครัวไปเกาหลีใต้

Loading

  อดีตทูตโสมแดงประจำคูเวต – วันที่ 1 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น สัมภาษณ์พิเศษ นายรยู ฮย็อน-อู อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำคูเวต ถึงการแปรพักตร์จากระบอบเผด็จการบ้านเกิด เพื่อให้ลูกสาวตัวเองมีชีวิตดีขึ้น     แม้ว่านายรยูจะแปรพักตร์มาเกาหลีใต้เมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่ยังกลัวว่า สมาชิกครอบครัวที่อยู่ในเกาหลีเหนืออาจถูกลงโทษอย่างโหดร้ายเพราะการแปรพักตร์ของตัวเอง นายรยูย้อนกลับไปช่วงเวลาก่อนแปรพักตร์ว่า ตนและภรรยาไม่ได้บอกลูกสาวแผนการหลบหนีที่เก็บเป็นความลับ โดยแกล้งทำเป็นพาลูกสาวไปโรงเรียน ก่อนบอกลูกสาวกลางทางว่า “มากับแม่และพ่อเพื่อค้นหาอิสรภาพเถอะนะ”     นายรยูและครอบครัวแสดงตัวที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำคูเวต และเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทุกวันนี้ลูกสาวอดีตทูตเบอร์หนึ่งพอใจกับชีวิตใหม่ และรู้สึกยินดีที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้มากตามต้องการ อย่างไรก็ตาม นายรยูบอกว่า พี่น้องอีก 3 คน และคุณแม่วัย 83 ปี ที่อยู่ในเกาหลีเหนือ อาจเผชิญผลกรรมโหดร้ายจากระบอบตระกูลคิม ซึ่งไม่ยินยอมให้พลเมืองแปรพักตร์ “ความคิดที่ว่าครอบครัวผมที่นั่นถูกลงโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปทำร้ายจิตใจผมเหลือเกิน”     นอกจากนี้ ในฐานะเอกอัครราชทูต นายรยูได้รับคำสั่งทำเป้ารายได้จากแรงงานเกาหลีเหนือหลายพันคนที่ถูกส่งมาทำงานในที่คูเวต เพื่อส่งกลับไปสนับสนุนเผด็จการที่บ้านเกิด ส่วนการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือจะดำเนินต่อไป และสิทธิมนุษย์ชนยังเป็นประเด็นอ่อนไหวและจริงจัง อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือผู้นี้เตือนด้วยว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ…

ภาพดาวเทียมเผย เกาหลีเหนือเตรียมยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ

Loading

สถาบันวิจัยสหรัฐเผยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางที่ปล่อยจากเรือดำน้ำ ศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) ในสหรัฐ เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณอู่ต่อเรือซินโปที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเรือหลายลำเทียบท่าอยู่ โดยหนึ่งในนั้นคล้ายกับเรือที่เกาหลีเหนือเคยใช้ลากเรือท้องแบนติดตั้งฐานยิงขีปนาวุธลงทะเลก่อนหน้านี้ CSIS คาดว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่น พุกกุกซอง-3 (Pukguksong-3) ซึ่งยิงจากเรือดำน้ำ (SLBM) เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธพุกกุกซอง-3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขจัดภัยคุกคามจากภายนอก ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการยั่วยุที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เกาหลีเหนือเจรจายุติโครงการนิวเคลียร์กับสหรัฐในปี 2018 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่อู่ต่อเรือซินโปเกิดขึ้นท่ามกลางสัญญาณว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการจัดพิธีสวนสนามในเดือนหน้า ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่ามีขึ้นเพื่อโชว์ขีปนาวุธใหม่อย่างที่เกาหลีเหนือเคยทำก่อนหน้านี้ อู่ต่อเรือซินโป อู่ต่อเรือซินโป เรือดำน้ำคลาสโรมิโอ 2 ลำ จอดในฐานทัพเรือมายางโด —————————————————- ที่มา : โพสต์ทูเดย์ / 5 กันยายน 2563 Link : https://www.posttoday.com/world/632275

เกาหลีเหนือสะสมอาวุธเคมีมากอันดับ 3 ของโลก

Loading

เกาหลีเหนืออาจมีนิวเคลียร์มากถึง 60 ลูก และยังสะสมอาวุธเคมีมากเป็นอันดับ 3 ของโลกที่ราว 2,500-5,000 ตัน กองทัพบกสหรัฐเผยรายงานการประเมินอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยเชื่อว่าเกาหลีเหนือมีระเบิดนิวเคลียร์อยู่ราว 20-60 ลูก และมีศักยภาพในการผลิตเพิ่มปีละ 6 ลูก ทั้งยังเผยว่าบางรายงานระบุว่าภายในสิ้นปีนี้เกาหลีเหนือจะมีระเบิดนิวเคลียร์ถึง 100 ลูก “รัฐบาลเปียงยางยังไม่ยอมยุติการผลิตอาวุธเหล่านี้เพื่อเป็นตัวประกันความอยู่รอดของตัวเอง” รายงานระบุ รายงานยังระบุว่าสาเหตุที่เกาหลีเหนือสะสมอาวุธไว้มากมายเนื่องจาก บรรดาผู้นำเกาหลีเหนือเชื่อว่าอาวุธนิวเคลียร์จะช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซงจนนำมาสู่การโค่นอำนาจผู้นำ ขณะที่คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งได้เห็นตัวอย่างการโค่นล้มอำนาจของอดีตผู้นำลิเบียอย่าง มูอัมมาร์ กัดดาฟี ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้กับเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ กองทัพบกสหรัฐยังประเมินว่าเกาหลีเหนือยังมีอาวุธเคมีอย่างเชื้อแอนแทรกซ์หรือเชื้อฝีดาษสำหรับใช้โจมตีเกาหลีใต้ สหรัฐ และญี่ปุ่น ซึ่งเชื้อแอนแทรกซ์ 1 กิโลกรัมสามารถฆ่าชีวิตคนในกรุงโซลได้ราว 50,000 คน ——————————————– ที่มา : โพสต์ทูเดย์ / 20 สิงหาคม 2563 Link : https://www.posttoday.com/world/631082

ทำไมต้องสิงคโปร์? สถานที่ซัมมิต “ทรัมป์-คิม”

Loading

  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่า การประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำสหรัฐอเมริกากับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ “เราทั้งสองจะพยายามทำให้การประชุมสุดยอดเป็นช่วงเวลาพิเศษสุดเพื่อสันติภาพของโลก” ทรัมป์ ทวิตเมื่อวานนี้ ภาพ : AFP   กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ยืนยันเช่นกันว่า สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม นอกจากแสดงความหวังว่าการประชุมสุดยอดนัดหยุดโลกจะช่วยผลักดันอนาคตสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี การยืนยันในเรื่องนี้มีขึ้นหลังการไปเยือนกรุงเปียงยางครั้งที่สองของ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ เพื่อหารือเรื่องการประชุมเช่นกัน มีการคาดการณ์กันมาตลอดว่า สถานที่ใดที่จะได้ร่วมจารึกในประวัติศาสตร์สำหรับการประชุมสุดยอดที่ไม่เคยมีใครคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ มีการกะเก็งว่าอาจเป็นเขตปลอดทหาร กรุงเทพฯ เองก็เคยติดโผ หรือมองโกเลีย ก่อนมาลงตัวที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นตัวเก็ง เนื่องจากหลายเหตุผลประกอบกัน ตั้งแต่ความเป็นกลาง ความปลอดภัย และประสบการณ์จัดประชุมสุดยอดระหว่างประเทศมาหลายครั้ง ประเทศเกาะเล็กแต่สุดทันสมัยมีระบบรักษาความปลอดภัยรัดกุมและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองปลอดภัยที่สุดในเอเชีย การจำกัดสื่อและการชุมนุมในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด เป็นบรรยากาศแวดล้อมที่เกาหลีเหนือน่าจะพอใจ นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังอยู่ในสถานะที่หาได้ยากนั่นคือมีสัมพันธ์การทูตเป็นมิตรกับวอชิงตันและเปียงยาง เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และมีสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือเปิดดำเนินการเต็มรูปอยู่ในนครรัฐแห่งนี้   ภาพ : ไมค์ ปอมเปโอ -คิม จอง…

เกาหลีเหนือ ‘ล้วงแผนสงครามเกาหลีใต้-สหรัฐฯ’

Loading

แฮ็กเกอร์ หรือ นักเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือขโมยข้อมูลลับทางการทหารจากเกาหลีใต้ รวมถึงแผนลอบสังหารนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แผนทำสงครามที่สหรัฐฯ กับเกาหลีใต้วางไว้ร่วมกัน รวมทั้งรายงานที่นำเสนอต่อผู้บัญชาการอาวุโสของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ด้วย นายรี ชอล-ฮี สมาชิกรัฐสภาของเกาหลีใต้ ระบุว่า ข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว ทรัมป์บริภาษกลางยูเอ็น เตือนอาจต้องทำลายเกาหลีเหนือราบคาบ “เปรียบมวย” เกาหลี เหนือ-ใต้ จาก ส่วนสูง สู่ กำลังพล นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า แฮ็กเกอร์ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ระบุแผนการของกองกำลังพิเศษของเกาหลีใต้ ข้อมูลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าและสถานที่ทางการทหารที่สำคัญต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ด้วย นายรี ซึ่งมาจากพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ และเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการกลาโหมของรัฐสภาด้วย กล่าวว่า เอกสารทางการทหารขนาด 235 กิกะไบต์ ถูกขโมยไปจากศูนย์ข้อมูลรวมกลาโหม (Defence Integrated Data Center) และเอกสารเหล่านี้ราว 80% ยังไม่ได้รับการตรวจสอบว่าเป็นเอกสารอะไร การเจาะระบบของแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกาหลีใต้ออกมาระบุว่าถูกล้วงข้อมูลไปเป็นจำนวนมาก และคิดว่าเกาหลีเหนืออาจจะปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ แต่เกาหลีใต้ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ด้านเกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวหาเกาหลีใต้ว่า “กุเรื่อง” ขึ้น…