คนมันเหงา! สาวต่างแดนวัย 29 ในสหรัฐฯ ลงทุนใช้เอกสารเท็จกลับเข้าเรียนระดับมัธยม

Loading

    หญิงสาววัย 29 ปีรายหนึ่ง ถูกกล่าวหาใช้เอกสารปลอมเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ และเข้าเรียนในบางคาบในช่วงเวลา 4 วัน สุดท้ายถูกจับได้ และศาลแห่งรัฐในวันจันทร์ (15 พ.ค.) สั่งให้เข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติในชั้นก่อนพิจารณาคดี   ฮเยจอง ชิน ไม่ยอมสารภาพผิดในเดือนมีนาคม ตามข้อกล่าวหามอบเอกสารราชการเท็จ ขณะที่ทนายควาของเธอแก้ต่างว่าที่ผู้หญิงรายนี้ทำเช่นนั้นก็เพราะเธอเหงาและปรารถนากลับคืนสู่วันเก่าๆ ในช่วงวัยเรียน ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าได้ทำผิดพลาดลงไป   เวลานี้เธอจะต้องเข้ารับการประเมินสุขภาพจิต และหากว่าเธอสิ้นสุดระยะเวลาการเข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติ ท้ายที่สุดแล้วศาลอาจพิจารณาตีตกข้อกล่าวหาที่จะเอาผิดกับเธอ   ทนายความเปิดเผยว่า ชิน เป็นพลเมืองเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางมาสหรัฐฯ ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้นเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาเธอเรียนจบระดับปริญญา จากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในปี 2019   ทั้งนี้ ทนายความชี้แจงว่าลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาชั่วร้าย ตอนที่สมัครเข้าเรียน ณ โรงเรียนมัธยมนิว บรุนส์วิค ในเดือนมกราคม โดยเธอแค่ต้องการกลับสู่ “สถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ต้อนรับ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เธอมองย้อนกลับไปด้วยความรัก”   เจ้าหน้าที่บอกว่า…

สังคมโลก : ปฏิญญาวอชิงตัน

Loading

    รัฐบาลโซลและรัฐบาลวอชิงตัน ประกาศร่วมกัน ว่าหากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐ หรือพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้ มันจะเป็น “จุดจบ” ต่อระบอบการปกครองของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ   คำขู่รุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้น ระหว่างประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ เยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเขาและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ หารือเกี่ยวกับการยกระดับเกราะป้องกันด้านความมั่นคงของสหรัฐสำหรับเกาหลีใต้ ในการเผชิญกับการทดสอบขีปนาวุธที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ   อนึ่ง “ปฏิญญาวอชิงตัน” จะส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า “ร่มนิวเคลียร์” หรือการที่สหรัฐให้หลักประกันการป้องกันอาวุธนิวเคลียร์แก่เกาหลีใต้, ส่งเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีพลังงานนิวเคลียร์ (เอสเอสบีเอ็น) มาติดตั้งบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1980 และมาตรการอื่น ๆ รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมในเหตุการณ์การโจมตีของเกาหลีเหนือ   ทว่าสหรัฐยืนยัน ยังไม่มีแผนที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์ กลับเข้ามาประจำการในเกาหลีใต้แต่อย่างใด และนักวิเคราะห์บางคนยังสงสัยใน “คุณค่าทางปฏิบัติ” ของปฏิญญาฉบับนี้อีกด้วย   ยุนพยายามสร้างความมั่นใจให้ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งมีความวิตกกังวลมากขึ้น เกี่ยวกับความมุ่งมั่นของสหรัฐต่อสิ่งที่เรียกว่า “การป้องปรามที่ขยายวงกว้างขึ้น” ว่าทรัพย์สินทางทหารของสหรัฐ รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ จะปกป้องเกาหลีใต้จากการโจมตี “ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง”    …

เกาหลีเหนือยัน ข้อตกลงสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ‘ยกระดับความตึงเครียด’

Loading

    เกาหลีเหนือออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ที่จะเปิดทางให้กรุงวอชิงตันส่งเจ้าหน้าที่และยุทโธปกรณ์เข้ามาในคาบสมุทรเกาหลี ว่าเป็นชนวนที่ทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ยกระดับขึ้นจน “เข้าใกล้การเกิดสงครามนิวเคลียร์” แล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากสื่อ KCNA ของกรุงเปียงยางในวันจันทร์   ระหว่างที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดียูน ซุก ยอล ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่กรุงวอชิงตัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ให้สัญญาว่า จะเปิดทางให้กรุงโซลได้รับข้อมูลเกี่ยวกับแผนการด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ ขณะที่ หลายฝ่ายมีความวิตกกังวลมากขึ้นต่อการเผชิญหน้าระหว่างโครงการพัฒนาอาวุธของกรุงเปียงยางและศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของอเมริกา   ทั้งนี้ สองผู้นำได้ตกลงที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสามารถด้านกลาโหมของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ จะนำส่งปัจจัยทางยุทธศาสตร์ของตนมาให้อย่างสม่ำเสมอ โดยภายใต้คำสัญญานี้ กองทัพเรือสหรัฐฯ จะส่งเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธวิถีโค้งมายังเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 ด้วย   สื่อ KCNA รายงานโดยอ้างอิงความเห็นของ เช จู ฮยอน นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศว่า ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้แสดงให้เห็นถึงความสมัครใจของพันธมิตรทั้งสองที่จะ “ดำเนินการอุกอาจและเป็นปฏิปักษ์อย่างที่สุด” ต่อเกาหลีเหนือ   รายงานข่าวนี้ยังระบุด้วยว่า การที่สหรัฐฯ จะส่งปัจจัยทางยุทธศาสตร์ของตนมาในแถบคาบสมุทรเกาหลีเป็นเหมือน “ปลักหล่มของการไม่มีเสถียรภาพ” ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้าง “กลุ่มก้อนทางทหารพิเศษจำเพาะเชิงรุก” ในภูมิภาคนี้   นอกจากนั้น…

ผู้นำเกาหลีใต้ฟุ้งความสัมพันธ์กับมะกันแน่นแฟ้น ไม่หวั่นอีกฝ่ายสอดแนม

Loading

    ผู้นำเกาหลีใต้ฟุ้งความสัมพันธ์กับมะกันแน่นแฟ้น ไม่หวั่นอีกฝ่ายสอดแนม ขณะเตรียมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือประเด็นเกาหลีเหนือ จีน และปัญหาอื่นๆ   สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ สหรัฐสอดแนมเกาหลีใต้ อย่างแน่นอน โดยการลอบดักฟังพันธมิตรของสหรัฐนั้นถูกเปิดโปงต่อสาธารณชน หลังเอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐรั่วไหลบนโลกออนไลน์   ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล และ ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน มีกำหนดพบปะกันในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือประเด็นเกาหลีเหนือ จีน และปัญหาอื่นๆ   เจ้าหน้าที่สหรัฐ และเกาหลีเหนือ ระบุว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ในเอกสารลับที่รั่วไหลบนโลกออนไลน์นั้นไม่ถูกต้องและอาจถูกดัดแปลงแก้ไข แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเพิ่มเติม   “ผมเชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่สั่นคลอนความไว้วางใจที่แข็งแกร่งที่สนับสนุนความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐ และเกาหลีใต้ เพราะความไว้วางใจดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ทั้งสองประเทศต่างก็ให้คุณค่า เช่น เสรีภาพ” ประธานาธิบดี ยุนซอกยอล กล่าวเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.)   ประธานาธิบดี ยุนซอกยอล กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และเกาหลีใต้ตั้งอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจระดับสูง “หากคุณมีความเชื่อใจในระดับนี้แล้ว คุณก็จะไม่สั่นคลอน”  …

กล้าหือไหม! ร้อง รบ.เกาหลีใต้สืบสวนสหรัฐฯ ‘จารกรรม’ หลังเอกสารหลุดแฉโดนอเมริกาสอดแนม

Loading

    ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ ในวันพุธ (12 เม.ย.) ออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้ดำเนินการสืบสวนคำกล่าวหาถูกสหรัฐฯ จารกรรมข้อมูล หลังเอกสารหลุดของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) เผยให้เห็นว่า วอชิงตันกำลังสอดแนมพันธมิตรหลักในเอเชียของพวกเขาแห่งนี้   เอกสารข่าวกรองของสหรัฐฯ ที่อ่อนไหวอย่างมากได้หลุดไปปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ นั่นรวมถึงเอกสารที่เปิดโปงว่าวอชิงตันได้ทำการดักฟังสอดแนมบรรดาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล ของเกาหลีใต้ ส่วนหนึ่งในความพยายามหาทางรับประกันว่าโซลจะจัดหาอาวุธมอบให้แก่ยูเครน   เมื่อวันอังคาร (11 เม.ย.) รัฐบาลเกาหลีใต้พยายามกลบกระแสความกังวลเกี่ยวกับความสำคัญของเอกสารหลุดดังกล่าว โดยทางทำเนียบประธานาธิบดีอ้างว่า “เอกสารจำนวนมาก” เป็นของปลอม และระบุที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา เชื่อว่า “ไม่มีเจตนาประสงค์ร้าย” ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   อย่างไรก็ตาม เอกสารหลุดดังกล่าวโหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเกาหลีใต้ เกี่ยวกับความอ่อนแอของที่ตั้งที่อ่อนไหวต่าง ๆ ในนั้นรวมของทำเนียบประธานาธิบดี   “รัฐบาลต้องขีดเส้นใต้คำกล่าวหาลอบดักฟังนี้ และหากพบว่ามันเป็นความจริง มันจำเป็นต้องมีการขอโทษอย่างเป็นทางการ และสหรัฐฯ ต้องรับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง” ลี แจ-มยุง หัวหน้าพรรคเดโมแครต ปาร์ตี พรรคฝ่ายค้าน กล่าวในวันพุธ (12 เม.ย.)   บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากฝ่ายค้าน กล่าวหาว่ารัฐบาลพยายามปล่อยผ่านเหตุการณ์นี้…

เกาหลีใต้ขอคุยกับสหรัฐ หลังมีรายงานซีไอเอ “สอดแนม”การสนทนาภายใน

Loading

    รัฐบาลโซลมีความวิตกกังวลอย่างมาก และต้องการหารือกับรัฐบาลวอชิงตัน หลัง “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส” รายงานว่า ซีไอเอ “สอดแนม” การหารือภายในของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับยูเครน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ว่า ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ เรื่องการเตรียมหารือ “ด้วยเหตุผลสำคัญ” กับสหรัฐ เกี่ยวเนื่องกับรายงานซึ่งเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกี่ยวกับเอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ซึ่งหลุดออกมาบนสื่อสังคมออนไลน์หลายแห่ง รวมถึงเทเลแกรมที่ชาวรัสเซียนิยมใช้ และมีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับสงครามในยูเครน   ทั้งนี้ รายงานของเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ระบุด้วยว่า เอกสารบางส่วนเป็นรายงานของสำนักข่าวกรองกลาง ( ซีไอเอ ) ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ “การสนทนาเป็นการภายใน” ของเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ ว่าสมควรมอบความสนับสนุนด้านอาวุธ ที่รวมถึงกระสุนปืนใหญ่ ให้แก่ยูเครนเพื่อใช้ในการสู้รบกับรัสเซียหรือไม่ เนื่องจากแม้เป็นการขอร้องโดยตรงจากสหรัฐ แต่เป็นการละเมิดนโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ที่ไม่ต้องการมอบอาวุธร้ายแรงให้แก่ฝ่ายใด   S. Korea to…