ไลน์แจ้งเหตุเท็จป่วนจนท.ชายแดนใต้

Loading

  ไลน์แจ้งเหตุเท็จป่วนจนท.ชายแดนใต้              เหตุระเบิดภายในป้อม ชรบ. หรือชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2558 นอกจากจะสร้างความสูญเสียอย่างรุนแรง เพราะมีผู้เสียชีวิตถึง 4 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน แล้ว ยังปรากฏหลักฐานการสร้างความปั่นป่วนโดยผู้ไม่หวังดี ด้วยการสร้าง “รายงานแจ้งเหตุเบื้องต้นปลอม” ไปยังกรุ๊ปไลน์ของเจ้าหน้าที่ จนต้องตรวจสอบข่าวกันอย่างวุ่นวาย             “ทีมข่าว” ได้แคปเจอร์ “รายงานแจ้งเหตุเบื้องต้น” จำนวน 2 เหตุการณ์ เมื่อคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ถูกส่งเข้าไลน์กรุ๊ปของเจ้าหน้าที่ แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน (ดูภาพประกอบเรื่องภาพแรก) ด้านซ้ายมือ คือภาพจากไลน์กรุ๊ปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นรายงานการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ใช้กัน ซึ่งเป็นเหตุระเบิดที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี…

ศาลเบลเยียมสั่งเฟซบุ๊กหยุดติดตามผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต

Loading

ศาลเบลเยียมสั่งให้ “เฟซบุ๊ก” หยุดติดตามผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเบลเยียม ภายใน 48 ชม. ไม่เช่นนั้นจะต้องชดใช้ค่าเสียหายวันละ 2.5 แสนยูโร ชี้ เป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย. ศาลแพ่งแห่งกรุงบรัสเซลส์ได้พิพากษาตัดสินให้เฟซบุ๊กต้องหยุดจัดการรวบรวม ข้อมูลและติดตามความเคลื่อนไหวประจำของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเบลเยียม โดยมีเวลา 48 ชั่วโมงในการแก้ไข มิฉะนั้น จะต้องชดใช้ค่าเสียหายวันละ 250,000 ยูโร ให้กับคณะกรรมาธิการปกป้องความเป็นส่วนตัวแห่งเบลเยียม (Commission belge de protection de la vie privée – CPVP) กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เครือข่ายสังคมเฟซบุ๊ก ได้มีการแถลงการณ์ตอบโต้ในทันที โดยระบุว่า จะทำการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งแห่งกรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “เราได้ใช้ datr-cookie มาเป็นเวลากว่าห้าปีแล้ว เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้ใช้ที่มีบัญชีเฟซบุ๊ก จำนวน 1,500 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราจะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว และกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดการชะงักงันในวงกว้าง สำหรับการเข้าใช้บัญชีของผู้ใช้เฟซบุ๊กในเบลเยียม” นายบาร์ท ทอมเมอไลน์ รัฐมนตรีรับผิดชอบการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวกล่าวว่า…

รู้ทัน ‘แก๊งสกิมเมอร์’!! เปิดวิธีรับมือ ก่อนตกเป็นเหยื่อโจรดูดเงิน ATM

Loading

ขึ้นชื่อว่า “มิจฉาชีพ” เทคโนโลยีก้าวล้ำแค่ไหนก็ตามจนทัน และเล่ห์กลของมิจฉาชีพก็ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะล่าสุด มีผู้เสียหายหลายราย เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม จู่ๆ เงินในบัญชีที่ฝากไว้กับธนาคารกลับอันตรธานหายไป โดยไม่ทราบสาเหตุ! … ไม่ได้เผชิญหน้ากับโจร หรือคนแปลกหน้า แต่เจอกับเครื่องสกิมเมอร์ เครื่องมือของเหล่ามิจฉาชีพในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาแม้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ ไม่รู้กี่คนต่อกี่คน ออกข่าวทางสื่อ พร้อมการย้ำเตือนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางธนาคาร แต่ไม่วาย มีผู้ต้องเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัย ธ.ไทยพาณิชย์ แก๊งสกิมเมอร์ ไม่เพียงแต่จะสร้างความเดือดร้อนแก่ลูกค้า ผู้ใช้บริการ สร้างความเดือดร้อนแก่ธนาคารเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางด้านความปลอดภัย เศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดย ‘ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์’ ได้พุ่งตรงไปยัง “นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข” รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้มาไขข้อข้องใจ ถึงกระบวนการสกิมเมอร์ อย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางป้องกัน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ !! เร่ิมจากกระบวนการที่คนร้าย ต้องการข้อมูลในแถบแม่เหล็ก ของบัตรเอทีเอ็ม หรือ บัตรเครดิตของลูกค้า รวมทั้งรหัสบัตร โดยคนร้ายจะเอาเครื่องมืออุปกรณ์…

อังกฤษเผยรายละเอียดแผนสอดแนมทางออนไลน์

Loading

อังกฤษเผยรายละเอียดแผนสอดแนมทางออนไลน์ เตรียมออกกฎหมายสั่งเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของชาวบ้านได้นาน 1 ปี รัฐบาลอังกฤษเผยแพร่แผนยกเครื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสอดแนมทางออนไลน์ โดยกำหนดแนวทางให้ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถเข้าดูรายละเอียดการสื่อสารทางออนไลน์ของประชาชนได้ และบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะต้องจัดเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกค้าไว้เป็นเวลา 1 ปี นางเทเรซา เมย์ รมว.มหาดไทยอังกฤษ เปิดเผยว่าข้อเสนอตามแผนดังกล่าวซึ่งจะบรรจุอยู่ในร่างกฎหมายว่าด้วยอำนาจในทางสืบสวน (Investigatory Powers Bill) ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและสภาขุนนาง ได้กำหนดให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสามารถดูรายชื่อเว็บไซต์ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเปิดดูได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำสั่งจากศาล อย่างไรก็ดี จะมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยข่าวกรองสอดแนมดูรายละเอียดเนื้อหาการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนได้ทั้งหมด นางเมย์ กล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีอำนาจตามที่เสนอดังกล่าวเพื่อป้องกันอาชญากรรมและปราบปรามการก่อการร้าย นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดรายละเอียดที่เป็นข้อเสนออื่น ๆ รวมทั้งวิธีการที่รัฐจะสามารถเจาะเข้าไปยังอุปกรณ์และจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากที่เคลื่อนไหวอยู่บนอินเทอร์เน็ตได้ อันเป็นการให้อำนาจทางกฎหมายแก่ศูนย์บัญชาการการสื่อสารของรัฐบาลอังกฤษ (GCHQ) ซึ่งเคยกระทำดังกล่าวโดยไม่เปิดเผยมาแล้ว เช่นที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เคยออกมาระบุ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดด้วยว่าเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทของอังกฤษจะต้องให้ความช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายให้เจาะเข้าไปยังอุปกรณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ หากสามารถทำได้ในทางปฏิบัติ ให้อำนาจคณะผู้พิพากษาในการยับยั้งการสอดแนมข้อมูลโดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย กำหนดบทลงโทษทางอาญาโดยมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปีแก่ผู้ที่ได้รับข้อมูลการสื่อสารจากผู้ให้บริการโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยล่วงรู้หรือเลินเล่อ สงวนอำนาจการสืบสวนบางประการให้เทศบาลท้องถิ่น เช่น ตรวจสอบการโกงการรับสวัสดิการ แต่เทศบาลท้องถิ่นจะไม่มีอำนาจเข้าถึงข้อมูลทางออนไลน์ที่บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจัดเก็บไว้ ตำรวจจะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข่าวของสื่อได้โดยปราศจากคำสั่งของผู้พิพากษา เป็นต้น ด้านชามี จักราบาร์ตี ผู้อำนวยการกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิพลเมือง Liberty กล่าวว่าร่างกฎหมายดังกล่าวถือได้ว่ารุกรานความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตของคนทุกคนในอังกฤษ นับจากนี้คงต้องจับตาดูท่าทีของสภาว่าจะดำเนินการอย่างไรในการสร้างความสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและการสอดแนม ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ว่า…

กำแพงตรวจจับบุคคลด้วยสัญญาณวายฟาย

Loading

นักวิจัยที่ห้องทดลองวิทยาการคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์คิดค้นระบบที่สามารถตรวจบุคคลขณะกำลังเดินผ่านเข้ามาใกล้กำแพง โดยใช้เพียงสัญญาณวายฟาย ระบบนี้ทำงานโดยการใช้สัญญาณตรวจจับแสงที่สะท้อนกลับจากตัวคนและวิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพที่ได้จากแสงสะท้อนนั้น โดยระบบนี้สามารถจำแนกคน 15 คนได้ถูกต้องแม่นยำราว 90 % ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยมีแผนจะปรับใช้เทคโนโลยีนี้ในการช่วยสอดส่องดูแลผู้สูงอายุภายในบ้าน เพื่อช่วยตรวจจับและป้องกันการหกล้มและการเกิดอุบัติเหตุที่บ้าน ผู้สื่อข่าวบีบีซีมีโอกาสคุยกับศ. ดีน่า คาทาบิถึงรายละเอียดของโครงการนี้ ที่มา เฟสบุคเพจ บีบีซีไทย – BBC Thai

นักเลงคีย์บอร์ดเตรียมซีด “ปอท.” ลุยเข้ม ไลค์ คอมเม้นท์ แชร์ โพสต์ ไม่คิด มีสิทธิ์ติดคุก

Loading

พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบก.ปอท.) ในฐานะผู้รับผิดชอบและดูแลการกระทำความผิดเกี่ยวเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ลุยเข้มขจัดการกระทำผิดกฎหมายบนโลกออนไลน์ หลังจำนวนผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น เร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลกฎหมายและพรบ. คอมพิวเตอร์ ย้ำชัดหมดเวลาอ้างวลีฮิต “รู้เท่าไม่ถึงการณ์”  จากนี้หากทำผิด จับแน่ ปรับแน่ คุกแน่ๆ เพื่อเร่งสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรม “โพสต์ต้องคิด…คลิกเสี่ยงคุก!” ภายใต้ “โครงการออนไลน์ใสสะอาด เรารักในหลวง”  เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ใน 2 ประเด็นคือ 1. ให้ประชาชนเข้าใจกฎหมายในการใช้สื่อออนไลน์อย่างปลอดภัยและ 2. เพื่อให้ประชาชนรู้ทันกลอุบายต่างๆเพื่อสามารถป้องกันตนเองและไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อไป โดยหลังจากนี้เป็นต้นไป จะดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดในข้อหาดังกล่าวอย่างจริงจัง หมดเวลาจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย ดังนั้นประชาชนต้องรู้กฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นประมาทซึ่งมีประชาชนเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจึงได้รวบรวม 10 พฤติกรรมที่ประชาชนมักกระทำผิดพร้อมโทษที่จะได้รับ ชี้ชัดประชาชนต้องหันมาสนใจกฎหมาย และ พรบ.คอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง เนื่องจากการกระทำผิดด้วยการ กดไลค์ คอมเม้นท์ แชร์ โพสต์ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ท่านติดคุกได้ ต่างจากในอดีตซึ่งประชาชนต้องทำความผิดอาญาร้ายแรงถึงจะติดคุก สำหรับข้อมูล 10 พฤติกรรมเสี่ยงคุก ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้รวบรวมไว้ให้ประชาชนมีดังนี้ 1.Upload รูปลามกอนาจารทั้งหลายทั้งปวงในสากลโลก ไม่ว่าจะรูปตัวเองหรือรูปคนอื่น/…