การส่ง online ภาพจากกล้อง cctv

Loading

     รายงานข่าวแจ้งว่า สามารถส่งภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อการเฝ้าระวัง(cctv) จากญี่ปุ่นผ่าน website ไปภายนอกประเทศได้แล้ว โดยผู้เข้าใช้งานต้องมีรหัสผ่านที่จัดไว้เฉพาะ ปัจจุบันสามารถดูภาพจากกล้อง cctv จำนวน 28,000 ตัวจากทั่วโลก ในจำนวนนี้อยู่ในญี่ปุ่น 6,000 ตัว ———————— ที่มา : NHK WORLD News / 22 มกราคม 2559  

แฮกเกอร์! ถล่มเว็บศาลฯ คาดไม่พอใจคดีเกาะเต่า โฆษกศาล ยธ.ลั่นเอาผิด

Loading

     “โฆษกศาลยุติธรรม” เผย ตรวจสอบแล้วพบแฮกเกอร์ ถล่มเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 10,12 โทษจำคุก 3-15 ปี เชื่อผลพวง ตัดสินคดีเกาะเต่า หลังพบข้อความภาษาอังกฤษ เรียกร้องความยุติธรรม ย้ำ ไม่อาจเปลี่ยนคำพิพากษาได้      เมื่อวันที่ 13 ม.ค.59 นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม ถูกแฮกเกอร์บุกรุกจนไม่สามารถใช้งานได้ว่า จากการตรวจสอบการเชื่อมต่อโครงข่ายข้อมูลหน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรมนั้นไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกที่ตรวจสอบพบว่า หน้าเว็บเพจหน้าแรกของสำนักงานศาลยุติธรรม กลายเป็นบนพื้นสีดำ และมีรูปสัญลักษณ์คล้ายหน้ากากสีขาว พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ เขียนว่า “BLINK HACKER GROUP” และ “Failed Law We Want Justice ! # Boycott Thailand” และจากการสืบค้นพบว่า “BLINK…

เตือน ′ไอเอส′เล็งใช้ ′ฝูงโดรนติดระเบิด′ โจมตีเป้าหมายแบบเดียวกับ 9/11

Loading

     รายงานของ อ็อกซ์ฟอร์ดรีเซิร์ชกรุ๊ป หน่วยงานวิจัยที่เป็นคลังสมองด้านความมั่นคงของประเทศอังกฤษ เตือนรัฐบาลอังกฤษให้เตรียมพร้อมรับมือกับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ที่วางขายทั่วไปในตลาด อาจถูกนำมาใช้ติดวัตถุระเบิดโจมตีเป้าหมายอย่าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้ พร้อมเผยไอเอสเตรียมใช้โดรนก่อเหตุก่อการร้ายลักษณะเดียวกับ 9/11      รายงานในโครงการ “การควบคุมระยะไกลของ” อ็อกซ์ฟอร์ดรีเซิร์ชกรุ๊ป แสดงความกังวลว่า “โดรนจะถูกใช้ในฐานะระเบิดแสวงเครื่องทางอากาศที่เรียบง่าย หาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ” โดยรายงานระบุถึงเป้าหมายที่อาจถูกโจมตีด้วยโดรนติดระเบิดได้เช่น สถานเอกอัครราชทูต โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การประชุมสุดยอดผู้นำจี 7 รวมถึงรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ      รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาล ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีด้วยโดรนลง เช่นมาตรการออกใบอนุญาต ระบบเลเซอร์เพื่อป้องกันเป้าหมาย ระบบคลื่นวิทยุก่อกวน และข้อแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการยิงโดรนต้องสงสัย      ขณะที่รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “มีรายงานว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังวางแผนโจมตีจุดที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมากด้วยฝูงโดรนเพื่อก่อเหตุลักษณะเดียวกับเหตุ 9/11 ที่เคยเกิดขึ้น” ที่มา : MatichonOnline วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 14:10:15…

สหรัฐจับมือยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีรับมือก่อการร้าย

Loading

สหรัฐจับมือบรรดาบ.ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ตั้งหน่วยงานร่วมกันเพื่อรับมือความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในโลกอินเทอร์เน็ต รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีบารัก โอบามาประกาศจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีในการต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อออนไลน์เพื่อปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในอินเทอร์เน็ต หลังได้หารือกับบรรดาผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว นายเดนิส แมคโดโน ซึ่งเป็นประธานในการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและกลุ่มตัวแทนธุรกิจด้านเทคโนโลยีในเมืองซานโฮเซในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลจะยกระดับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการในการรับมือกับภัยก่อการร้ายที่ปรับรูปแบบมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการเผยแพร่แนวคิด โดยจะมีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและกระทรวงยุติธรรมเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน นอกจากนี้ เนื้อหาหลักของการหารือยังครอบคลุมถึงการหาทางรับมือกับการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์ในการระดมพลและเผยแพร่แนวคิดของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส การใช้เทคโนโลยีในการยับยั้งความรุนแรง และระบุรูปแบบของการระดมพลเพื่อตัดตอนวงจร รวมถึงการใช้กฎหมายเพื่อจัดการกับการสื่อสารที่เข้ารหัสของกลุ่มผู้ต้องสงสัย สำหรับผู้เข้าร่วมการหารือครั้งนี้ ฝ่ายผู้ประกอบการประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงทั้งจากเฟซบุ๊ค กูเกิล ทวิตเตอร์ ไมโครซอฟท์ ยาฮู ลิงค์อิน รวมถึงนายทิม คุก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอของแอ๊ปเปิ้ล ส่วนฝ่ายรัฐบาลนอกจากนายแมคโดโนแล้ว ยังมีนางลอเร็ตตา ลินช์ รัฐมนตรียุติธรรม นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ นายเจมส์ แคล็ปเปอร์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ หรือซีไอเอ และนายไมค์ โรเจอร์ส ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือเอ็นเอสเอ ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 09 มกราคม 2559, 19:00

ทำเนียบขาวเล็งหารือบ.ไอทีสกัดไอเอส

Loading

ทำเนียบขาว หน่วยข่าวกรอง และฝ่ายความมั่นคงสหรัฐเตรียมคุยผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีหาทางรับมือกลุ่มติดอาวุธใช้โซเชียลมีเดียหาสมาชิก แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับการประชุมเปิดเผยว่า ผู้ที่เข้าร่วมประชุมมีทั้งหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว “นายเดนิส แม็คโดนาฟ” ประธานที่ปรึกษาต่อต้านการก่อการร้าย “นางลิซา โมนาโก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม “นางลอเร็ตต้า ลินช์“ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ”นายเจมส์ โคมีย์” ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ “นายเจมส์ แคลปเปอร์” และผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ “นายไมค์ โรเจอร์ส” ส่วนภาคเอกชนที่เข้าร่วมประชุมมีทั้งทวิตเตอร์, แอ๊ปเปิ้ล อิงค์, เฟซบุ๊ค, กูเกิล ไมโครซอฟท์ คอร์ป, ดร็อปบ็อกซ์ และบริษัทอินเทอร์เน็ตอีกจำนวนมาก คาดว่าทั้งหมดจะส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าประชุมแต่ไม่ใช่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ โดยประเด็นที่จะหารือกันเน้นไปที่เนื้อหาของโซเชียลมีเดีย การสื่อสารที่ไม่เข้ารหัส และหัวข้ออื่น ๆ ขณะนี้ บริษัทเทคโนโลยีรวมทั้งโซเชียลมีเดีย เช่น ทวิตเตอร์ อิงค์, อัลฟาเบต อิงค์ เจ้าของยูทูบ และเฟซบุ๊ค อิงค์ ต้องเจอแรงกดดันที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ให้จัดการกับการโฆษณาชวนเชื่อออนไลน์จากกลุ่มติดอาวุธ เช่น กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสให้มากกว่านี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปจนถึงเหตุกราดยิงในซานเบอร์นาร์ดิโน…

โลกผวา!! ก่อการร้าย IS โชว์เทคโนโลยี “คาร์บอมบ์เคลื่อนที่ไร้คนขับ”

Loading

     ฮอฟฟิงตันโพสต์/สกายนิวส์ – พบวิดีโอชุดใหม่ของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) เป็นภาพช่างเทคนิคของนักรบกลุ่มนี้กำลังทดสอบคาร์บอมบ์เคลื่อนที่ไร้คนขับและดัดแปลงขีปนาวุธพื้นผิวสู่อากาศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของอังกฤษถึงกับตกตะลึงต่อขีดความสามารถขององค์กรก่อการร้ายกลุ่มนี้      รายงานข่าวของสกายนิวส์ระบุว่า พวกไอเอสสามารถดัดแปลงซ่อมแซมขีปนาวุธหลายพันลูกที่เหล่ารัฐบาลชาติตะวันตกสันนิษฐานว่าไม่สามารถใช้งานได้แล้ว เนื่องจากมีอายุเก่าเก็บ จนกลับมาใช้การได้อีกครั้ง      ภาพแสดงให้เห็นว่าไอเอสมีความสามารถผลิตแบตเตอรี่ทำเองสำหรับขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศ บางอย่างที่เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับกลุ่มก่อการร้ายหนึ่งที่ปราศจากโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร นอกจากนี้แล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าพวกไอเอสสามารถผลิตรถยนต์ควบคุมจากระยะไกลได้อย่างสมบูรณ์ ที่จะถูกใช้เป็นระเบิดเคลื่อนที่      รถยนต์เหล่านี้จะติดตั้งคนขับที่เป็นหุ่นยนต์ติดเครื่องควบคุมอุณหภูมิซึ่งกำหนดค่าได้เอง สำหรับสร้างความร้อนระดับเดียวกับร่างกายมนุษย์ เพื่อให้ผ่านเครื่องสแกนที่ปกป้องอาคารต่างๆ ของรัฐบาลและกองทัพตะวันตก      รายงานข่าวระบุว่า กองกำลังปลดปล่อยซีเรียเป็นผู้ส่งต่อวิดีโอฉบับที่ไม่ตัดต่อความยาว 8 ชั่วโมงนี้ หลังพวกเขายึดมันมาได้จากครูฝึกไอเอสรายหนึ่ง ที่ควบคุมตัวได้ระหว่างกำลังมุ่งหน้าผ่านตุรกีไปยังยุโรป      พันตรี คริส ฮันเตอร์ ที่ปรึกษาทางทหารชาวอังกฤษ อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของกองกำลังพิเศษ ให้สัมภาษณ์ต่อสกายนิวส์ว่า เขารู้สึกช็อกอย่างยิ่งต่อพัฒนาการบางอย่างในวิดีโอ ที่เผยให้เห็นขีดความสามารถของเหล่านักวิทยาศาสตร์จาก “มหาวิทยาลัยญิฮาด” ในเมืองรักกา ของซีเรีย เมืองหลวงโดยพฤตินัยของไอเอส      “ผมคิดว่านี่อาจเป็นหนึ่งในข่าวกรองเกี่ยวกับไอเอสที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เราได้เห็นคือรูปแบบวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อที่มีคุณภาพสูงมาก พวกเขาออกแบบและผลิตเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คน มุ่งหวังเขย่าประสาทใครก็ตามที่ได้ดู”  …