เยอรมนีควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 7 ราย ฐานก่อตั้งกลุ่มก่อการร้ายคล้าย ISIS

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจเยอรมันได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 7 รายในวันที่ 6 ก.ค. ในข้อหาก่อตั้งองค์กรก่อการร้าย โดยมีจุดประสงค์เพื่อออกปฏิบัติการโจมตีคล้ายกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) อัยการเยอรมันระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ต้องสงสัยชาวเติร์กเมน ชาวทาจิกิสถาน และชาวคีร์กีซถูกจับกุมในรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน ทางตะวันตกของเยอรมนี โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดรู้จักกันมานานและเดินทางเข้าประเทศผ่านทางยูเครนไม่นานหลังจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เริ่มขึ้นในปี 2565   รายงานระบุว่า พวกเขาก่อตั้งองค์กรก่อการร้ายเมื่อเดือน มิ.ย. 2565 และมองหาเป้าหมายในเยอรมนีมาตลอด รวมถึงพยายามจัดหาอาวุธ แต่ในช่วงที่ถูกจับกุม ยังไม่มีแผนการโจมตีชัดเจน   อย่างไรก็ดี ผู้ต้องสงสัยชาวคีร์กีซ 1 ราย ที่ถูกจับกุมในเยอรมนีได้รวบรวมเงินให้แก่กลุ่ม ISIS ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 และโอนไปยังกลุ่มดังกล่าวในต่างประเทศบ่อยครั้ง   ขณะเดียวกัน ทางการเนเธอร์แลนด์ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มดังกล่าวในวันที่ 6 ก.ค. โดยเป็นชายจากทาจิกิสถานและภรรยาชาวคีร์กีซ ซึ่งอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 2565   ทั้งนี้ อัยการเนเธอร์แลนด์ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายคนดังกล่าวต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม ISIS และได้รับคำสั่งให้วางแผนโจมตี แม้ว่าแผนจะยังไม่เป็นรูปธรรมก็ตาม…

เนเธอร์แลนด์เตรียมออกกฎหมายคัดกรองนักศึกษาต่างชาติที่เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

Loading

    เว็บไซต์ Financial Times รายงานเมื่อ 12 มิ.ย.66 ว่า หลายมหาวิทยาลัยในเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติปริญญาบัณฑิตสาขาเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับนักศึกษาของจีนบางคน ลดจำนวนนักศึกษาจีน และลดความร่วมมือด้านการวิจัยกับมหาวิทยาลัยในจีน เนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะนักศึกษาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีน (China Scholarship Council : CSC) ซึ่งผู้รับทุนต้องสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเดินทางกลับจีนภายใน 2 ปีหลังจากสำเร็จการศึกษา รวมถึงรายงานตัวต่อสถานทูตจีนในประเทศที่ศึกษา ด้านนาย Robbert Dijkgraaf รมว.ศธ.ของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้บุคคลที่ได้รับทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงจากจีนเข้ารับการศึกษา และได้ทำการตรวจสอบว่ามีนักวิจัยจาก CSC กี่คนและทำงานอยู่ในสาขาใดในเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งกำลังเตรียมออกกฎหมายคัดกรองบุคลากรทางการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะบุคคลที่เข้าถึงพื้นที่หวงห้ามและเทคโนโลยีละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นเป้าหมายในการจารกรรม นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังได้รับแรงกดดันจากสหรัฐฯ ในการจำกัดการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีนด้วย       —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                     …

รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ขีดเส้นตาย เน็ตเวิร์ครัฐบาลต้องใช้ RPKI ป้องกันการขโมยทราฟิกภายในปี 2024

Loading

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศขีดเส้นตายเตรียมบังคับหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมดต้องรองรับกระบวนการยืนยันเส้นทางเน็ตเวิร์ค หรือ Resource Public Key Infrastructure (RPKI) ภายในสิ้นปี 2024 ทำให้ตอนนี้หน่วยงานต่างๆ ที่กำลังทำเรื่องจัดซื้อต้องเพิ่มเงื่อนไขนี้เข้าไปในการจัดซื้อแล้ว   ที่ผ่านมาทราฟิกเชื่อมต่อของรัฐบาลเคยถูกประกาศเส้นทางโดย ISP รายอื่นทำให้ทราฟิกถูกดึงมาแล้วหลายครั้ง แม้จะเป็นการคอนฟิกผิดพลาดแต่การเปิดช่องทางให้คนร้ายสามารถดึงทราฟิกไปได้ก็เป็นความเสี่ยง เน็ตเวิร์คกระทรวงต่างประเทศของเนเธอร์แลนด์เคยถูกดึงทราฟิกไปเมื่อปี 2014 หรือข่าวใหญ่เช่นกูเกิลเองเคยถูกดึงทราฟิกจนเว็บดับในปี 2018   RPKI ทำให้เราท์เตอร์ของ ISP อื่นๆ สามารถยืนยันได้ว่าเส้นทางที่ประกาศมานั้นถูกต้องหรือไม่ ที่ผ่านมา Cloudflare พยายามเรียกร้องให้ ISP ทั่วโลกประกาศ RPKI ให้ถูกต้องจะได้ยืนยันได้ว่าจะเชื่อ RPKI เท่านั้น ISP อื่นไม่สามารถประกาศเส้นทางมั่วๆ ได้           ที่มา  Forum Standardization           —————————————————————————————————————————————— ที่มา…

เนเธอร์แลนด์สั่งขับนักการทูต-ปิด สนง.การค้ารัสเซีย หลังพบหลักฐานรัสเซียส่งสายลับเข้าประเทศ

Loading

    ทางการเนเธอร์แลนด์ออกคำสั่งให้นักการทูตรัสเซียหลายคนเดินทางออกจากประเทศภายใน 2 สัปดาห์ ให้ปิดสำนักงานการค้าของรัสเซียที่อัมสเตอร์ดัมภายในวันอังคาร (21 ก.พ.66) และลดจำนวนนักการทูตที่สถานทูตรัสเซียในกรุงเฮก ให้มีจำนวนเท่ากับจำนวนนักการทูตของเนเธอร์แลนด์ในกรุงมอสโก เนื่องจากมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ารัสเซียพยายามส่งสายลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันและองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ และหน่วยงานเฝ้าระวังอาวุธเคมีทั่วโลก   นายวอปเก ฮุกสตรา รัฐมนตรีการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า มีการใช้มาตรการหลายด้านเพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่รัสเซียยังคงพยายามส่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรองมาเนเธอร์แลนด์ภายใต้การปกปิดทางการทูต ทำให้การติดต่อกับรัสเซียทำได้ยากกว่าเดิม   ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่ากำลังพิจารณามาตรการตอบโต้   ก่อนหน้านี้ เนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า รัสเซียปฏิเสธที่จะให้วีซ่านักการทูตแก่เจ้าหน้าที่สถานกงสุลเนเธอร์แลนด์ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และสถานทูตในกรุงมอสโก   หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนได้ไม่นาน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าจะปิดสถานกงสุลในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย 17 คน เดินทางออกประเทศ ก่อนที่รัสเซียจะตอบโต้ด้วยการให้นักการทูตเนเธอร์แลนด์ 15 คน เดินทางออกจากประเทศ               ————————————————————————————————————————- ที่มา :       …

จีนปัดลอบผุดสถานี ตร.ลับต่างแดนหลังถูกแฉ หวั่นใช้คุกคาม-ตามจับผู้ลี้ภัย

Loading

  จีนปัดลอบผุดสถานีตร.ลับต่างแดนหลังถูกแฉ – วันที่ 27 ต.ค. เอพีรายงานว่า ทางการจีนลักลอบตั้งสถานีตำรวจต่างแดนในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้นักสิทธิมนุษยชนหวาดเกรงว่าจะถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อคุกคามและติดตามจับกุมผู้ลี้ภัยในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก   ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านรายงานของกลุ่ม Safeguard Defenders ชื่อรายงานว่า 110 Overseas. Chinese Transnational Policing Gone Wild ระบุถึงสถานีตำรวจ 110 แห่ง ของทางการจีนที่ตั้งขึ้นในหลายประเทศ   ตำแหน่งที่ตั้งของสถานีตำรวจลับ 110 แห่ง ของทางการจีนทั่วโลกจากรายงานของกลุ่ม Safeguard Defenders   รายงานดังกล่าวสะท้อนถึงกระแสความกังวลของนานาชาติต่ออิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อชาวจีนที่พำนักอยู่ในต่างแดน บางครั้งขัดต่อกฎหมายของบางชาติ รวมถึงการกัดเซาะบ่อนทำลายสถาบันในระบอบประชาธิปไตยและการจารกรรมทางเศรษฐกิจตลอดจนความลับอื่น ๆ   การเปิดเผยเกิดขึ้นหลังทางการเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบถึงตัวตนของสถานีตำรวจจีน 2 แห่ง ที่มีอยู่ในนครอัมสเตอร์ดัมและรอตเทอร์ดาม   กระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า ไม่เคยได้รับการแจ้งเรื่องนี้จากทางการจีนและหากตรวจสอบพบว่ามีสถานีเหล่านี้ของจีนมีอยู่จริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไป   ทางการเนเธอร์แลนด์ ระบุด้วยว่า หากข้อมูลจากรายงานของกลุ่ม Safeguard…

สนามบินในเนเธอร์แลนด์ทดลองเลี้ยงหมู ไล่นกกวนเครื่องบิน

Loading

  สนามบินสคิปโฮลในกรุงอัมสเตอร์ดัมเจอกับเหตุนกขนาดใหญ่ชนเครื่องบินปีละเป็นร้อยครั้ง จึงมีแนวคิดนำเอาหมูให้มาทดลองช่วยไล่นก หมูอาจจะบินไม่ได้ แต่พวกมันอาจจะมีบทบาทในการทำให้การเดินทางทางอากาศมีความปลอดภัยมากขึ้น สนามบินสคิปโฮลในกรุงอัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์ ได้นำหมู 20 ตัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนนก ที่ชนกับเครื่องบิน การชนกันระหว่างเครื่องบินกับนกขนาดใหญ่ อย่างเช่นห่านป่า อาจก่อให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์เหล่านั้น ถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ สนามบินแห่งนี้ พบเหตุนกชนกับเครื่องบินประมาณ 150 ตัวในปี 2563 และหมูก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ มาตรการที่สนามบินกำลังดำเนินการเพื่อลดตัวเลขดังกล่าว สนามบินบอกในการแถลงข่าวเรื่องโครงการนี้เมื่อเดือนกันยายนว่า โครงการนำร่องนี้เกี่ยวข้องกับการปล่อยหมูให้เข้ามาหากินในพื้นที่ขนาด 5 เอเคอร์ที่อยู่ระหว่างรันเวย์ 2 รันเวย์ ซึ่งเพิ่งเก็บเกี่ยวหัวบีท     หมูพวกนี้เลี้ยงโดย Buitengewone Varkens บริษัททำฟาร์มหมูขนาดเล็กที่เลี้ยงพวกมันนอกโรงเรือน ทางสนามบิน ได้เข้าไปพบกับบริษัท และถามว่าหมูจะเข้ามากินพืชผลที่เหลือได้หรือไม่ เพราะพวกมันดึงดูดห่านและนกอื่นๆ ประโยชน์ประการแรกก็คือหมูช่วยให้พื้นที่เหล่าเป็นที่น่าสนใจน้อยลงสำหรับพวกนก ด้วยการกำจัดแหล่งอาหาร ประโยชน์ประการที่ 2 ก็คือ ในฐานะที่เป็นสัตว์กินเนื้อ หมูก็จะพยายามจับห่านที่ลงมาในทุ่งเพื่อพักผ่อน แม้ว่าหมูจะเคลื่อนที่ไม่ได้เร็วพอที่จะจับห่านได้จริง ๆ แต่ความพยายามของพวกมันในการทำเช่นนี้ หมายความว่าพวกมันจะทำตัวเหมือนหุ่นไล่กาที่มีชีวิตและไล่ฝูงนกออกไป    …