ไต้หวันจำคุกอดีตนาวาเอกจีน ฐานเดินทางเข้าเกาะอย่างผิดกฎหมาย
ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกอดีตนาวาเอกชาวจีนคนหนึ่ง เป็นเวลา 8 เดือน ในข้อหาเดินทางเข้าเกาะอย่างผิดกฎหมายด้วยเรือ
ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกอดีตนาวาเอกชาวจีนคนหนึ่ง เป็นเวลา 8 เดือน ในข้อหาเดินทางเข้าเกาะอย่างผิดกฎหมายด้วยเรือ
จากข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ปลายด้ามขวาน แชร์ข้อมูลที่อ้างว่ามาจากเครือข่ายผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งว่า มีการพบเห็น “โดรน” บินสอดแนมในพื้นที่ของโรงเรียนปอเนาะในเวลากลางคืน
แชร์ว่อนโซเชียลฯ อ้างพบโดรน จนท.บินสอดแนม ส่องนักเรียนปอเนาะในพื้นที่ชายแดนใต้ ด้านโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โต้ข่าวเลื่อนลอย ยังไม่มีใครแจ้ง ยืนยันโดรนของรัฐมีบันทึกการใช้งาน ขณะที่ข้อมูลอีกด้านแฉฝีมือเพจแนวร่วมกุเรื่อง เอาภาพจาก TikTok ปั่นชาวบ้านให้เกลียดทหาร
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ว่า สำนักงานสื่อของรัฐบาลอิสราเอล (จีพีโอ) ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางสำนักงานกำลังเพิกถอนบัตรประจำตัวสื่อมวลชน ของนักข่าวอัลจาซีราที่ทำงานในอิสราเอล เนื่องจากสำนักข่าวรายนี้เผยแพร่เนื้อหาที่เป็นเท็จ ซึ่งรวมถึงการยุยงปลุกปั่นชาวอิสราเอลและชาวยิว และถือเป็นภัยคุกคามต่อทหารอิสราเอล
“นกแอร์” แจงเที่ยวบิน DD9705 “เลย-ดอนเมือง” ล่าช้า เหตุผู้โดยสารชาวเยอรมันแจ้งมีระเบิดอยู่ในกระเป๋า กัปตันได้เชิญลงจากเครื่องพร้อมเร่งตรวจสอบสัมภาระซึ่งไม่พบวัตถุใดๆ เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากล เที่ยวบินดังกล่าวได้ทำการบินจากเลยเมื่อ 11.30 น. ถึงดอนเมือง เวลา 12.40 น.แล้ว สายการบินนกแอร์ แจ้งว่า จากที่ได้รับรายงานว่าเที่ยวบินที่ DD9705 เส้นทาง จ.เลย-ดอนเมือง พร้อมด้วยผู้โดยสารจำนวน 83 คน พร้อมด้วยนักบินและลูกเรือ จำนวน 5 คน มีกำหนดการออกเดินทางจากท่าอากาศยานเลยในเวลา 10.30 น.วันนี้ (20 เม.ย.) ด้วยเครื่องบินแบบบอมบาร์ดิเอร์ Q400 มีความจำเป็นต้องล่าช้า เนื่องจากมีผู้โดยสารชายชาวเยอรมันรายหนึ่งแจ้งว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องของเขา ดังนั้น กัปตันจึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากล โดยการดำเนินการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานและหน่วยงานต่างๆ ในการแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมนำเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานมาเชิญตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวและสัมภาระลงจากเครื่องบินโดยทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานเลยจึงได้ทำการตรวจสอบสัมภาระ และเชิญตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเลย เพื่อดำเนินการแจ้งความต่อผู้โดยสารที่พูดว่ามีระเบิดในสัมภาระตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้โดยสารท่านอื่นๆ ที่เดินทางในเที่ยวบินดังกล่าว กัปตันได้เชิญผู้โดยสารพร้อมสัมภาระทั้งหมดลงจากเครื่องบินเพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ทั้งในส่วนของเครื่องบิน ผู้โดยสาร และสัมภาระทั้งหมด จนมีความมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆ และเที่ยวบินดังกล่าวได้พร้อมออกจากท่าอากาศยานเลยอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว