หลักฐานมัด! สื่อสหรัฐฯเปิดคลิปเสียง อดีตปธน.ทรัมป์ รับเก็บเอกสารลับ ไว้กับตัวเอง แม้จะพ้นตำแหน่ง

Loading

  บีบีซีรายงานว่า สื่อสหรัฐฯ เช่น สถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น และซีบีเอส แพร่คลิปเสียง 2 นาที ซึ่งอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยอมรับว่าเขาเก็บเอกสารลับไว้จำนวนมาก หลังพ้นจากตำแหน่งเมื่อต้นปี 2564 โดยไม่ได้คืนให้กับหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ   ในคลิปชุดนี้ บันทึกในสนามกอล์ฟ เมืองเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซี เดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งนายทรัมป์พูดกับคนใกล้ชิดหลายคนขณะหารือเรื่องหนังสือบันทึกความทรงจำของนายมาร์ค มีโดว์ส อดีตหัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว ซึ่ง นายทรัมป์พูดว่า เป็นเอกสารลับสุดยอด   นับว่า ขัดแย้งกับคำให้การของนายทรัมป์ต่อศาลของเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งนายทรัมป์ไปยังศาลเพื่อรับทราบข้อหารวม 37 กระทงในเรื่องการเก็บเอกสารลับโดยไม่ถูกต้อง โดยนายทรัมป์และนายวอลต์ นอตา ผู้ช่วยของเขาให้การปฏิเสธทุกข้อหา   ในตอนแรก ศาลนัดไต่สวนนายทรัมป์ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ แต่ศาลอาจจะเลื่อนไปอีก หลังอัยการเสนอขอให้เลื่อนการไต่สวนเป็นวันที่ 11 ธันวาคมนี้        …

ทรัมป์ให้สัมภาษณ์แก้ต่างเรื่องเก็บเอกสารลับ

Loading

เครดิตภาพ : Fox News   วอชิงตัน 20 มิ.ย.- อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์แก้ต่างเรื่องที่ถูกตั้งข้อหาว่าเก็บเอกสารลับของรัฐบาลอย่างไม่เหมาะสมว่า เขายุ่งจนไม่มีเวลาคัดแยกเอกสารขณะเก็บข้าวของออกจากทำเนียบขาว   ทรัมป์วัย 77 ปี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ที่ออกอากาศเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ ว่า เขารีบเร่งออกจากทำเนียบขาวเมื่อเดือนมกราคม 2564 ข้าวของส่วนตัวจึงปะปนกับเอกสารของรัฐบาล และทุกอย่างถูกเก็บลงกล่องหมด และเมื่อถูกถามว่า เหตุใดจึงไม่มอบเอกสารให้ตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ ทรัมป์ตอบว่า ต้องการคัดแยกข้าวของส่วนตัวออกจากกล่องเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อน จึงยังไม่ได้ส่งมอบเอกสารให้ เขายุ่งมากอย่างที่เห็น และเมื่อถูกถามเรื่องเทปบันทึกเสียงที่กระทรวงยุติธรรมอ้างขณะนำมาแสดงระหว่างยื่นฟ้องเขาว่า ทรัมป์ซึ่งพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้วได้นำเอกสารที่เขาระบุว่าเป็นความลับและลับอย่างยิ่งมาแสดงให้นักเขียน สำนักพิมพ์ และทีมงาน 2 คนของเขาดูขณะประชุมกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ทรัมป์แก้ต่างว่า สิ่งที่แสดงให้ดูไม่ใช่เอกสาร แต่เป็นสำเนาบทความหนังสือพิมพ์   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาทรัมป์ซึ่งประกาศตัวลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2567 ว่า ละเมิดกฎหมายจารกรรมและกฎหมายอีกหลายฉบับ จากการขนย้ายเอกสารลับขณะออกจากทำเนียบขาวและไม่ส่งมอบเอกสารเหล่านี้ให้แก่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ทรัมป์ขึ้นศาลที่เมืองไมแอมีเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน รับทราบข้อกล่าวหา 37 ข้อหา ที่รัฐบาลกลางฟ้องเขา หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ตรวจค้นคฤหาสน์ของเขาที่รัฐฟลอริดาเมื่อเดือนสิงหาคม…

ทรัมป์ขึ้นศาลไมอามี ‘ไม่ยอมรับผิด’ กรณีเก็บเอกสารลับทางการ

Loading

    อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นปรากฎตัวต่อผู้พิพากษาศาลแขวงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่นครไมอามี รัฐฟลอริดา ในช่วงบ่ายวันอังคาร และกล่าว “ไม่ยอมรับผิด” ต่อข้อกล่าวหาที่ว่า เขาเก็บเอกสารชั้นความลับของทางการสหรัฐฯ หลายร้อยฉบับเอาไว้หลังจากพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และขัดขวางความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่ต้องการนำเอกสารเหล่านั้นกลับมา   เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกคณะลูกขุนใหญ่สั่งฟ้อง 37 กระทง สืบเนื่องจากการเก็บเอกสารลับด้านความมั่นคงแห่งชาติเอาไว้ “อย่างจงใจ” ที่บ้านพักมาร์-อะ-ลาโก   ในวันอังคาร ทรัมป์เดินทางไปขึ้นศาลที่ไมอามีท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีผู้สนับสนุนทรัมป์หลายร้อยคนรอให้กำลังใจด้านหน้าศาล   ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนตนเดินขบวนที่ไมอามี ก่อให้เกิดความกังวลว่าอาจลุกลามไปเป็นความรุนแรง แต่การพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างสงบโดยไม่มีเหตุรุนแรงใด ๆ     ทรัมป์ปรากฎตัวต่อผู้พิพากษาศาลแขวง โจนาธาน กู้ดแมน และทนายความของเขากล่าวไม่ยอมรับผิดต่อทุกข้อหาทั้ง 37 กระทง   ในสำนวนการฟ้องร้อง 49 หน้า ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าจงใจยึดครองเอกสารด้านความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซุกซ่อนเอกสารของรัฐบาล และให้การบิดเบือนต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐบาลกลาง   สำนวนคำฟ้องชี้ว่า เอกสารที่ทรัมป์นำออกไปจากทำเนียบขาวตอนพ้นจากตำแหน่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารที่มีความลับสำคัญที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ความเปราะบางของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต่อการถูกโจมตี…

รัฐบาลสหรัฐฟ้อง “ทรัมป์” ฐานจัดการเอกสารลับไม่เหมาะสม

Loading

  กระทรวงยุติธรรมสหรัฐดำเนินคดีกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการ “จัดการเอกสารลับอย่างไม่เหมาะสม”   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล เมื่อวันพฤหัสบดี ว่ากระทรวงยุติธรรมแจ้งโดยตรงมายังทีมงานฝ่ายกฎหมายของเขา ว่ามีการตั้งข้อหาเกี่ยวกับการจัดการเอกสารลับอย่างไม่เหมาะสม และได้รับหมายเรียกให้ไปรายงานตัวต่อศาลรัฐบาลกลาง ที่เมืองไมอามี ในวันอังคารที่ 13 มิ.ย. ที่จะถึง   ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ กระนั้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ ที่อดีตประธานาธิบดีเผชิญกับกับการฟ้องร้องจากรัฐบาลกลาง   ส่วนหนึ่งของเอกสารลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่เอฟบีไอยึดคืนจากคฤหาสน์ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่รัฐฟลอริดา เมื่อเดือน ส.ค. 2565   ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ในสังกัดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ตรวจค้นคฤหาสน์ของทรัมป์ ภายในรีสอร์ทมาร์-อา-ลาโก ที่เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ปีที่แล้ว   ด้านนายเมอร์ริค…

นักคิดค้น ‘ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง’ ของรัสเซีย ถูกกล่าวหาลอบเผยความลับให้จีน

Loading

  ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซียถูกจับกุมในข้อหาขายชาติ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียงอีกสองคนถูกกล่าวหาว่าลักลอบเปิดเผยความลับให้แก่จีน จากการเปิดเผยของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ได้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวใกล้ชิดเรื่องนี้   รอยเตอร์ระบุว่า อเลกซานเดอร์ ชิปลียุค ผู้อำนวยการสถาบันทฤษฎีและกลศาสตร์ประยุกต์คริสติอาโนวิช หรือ ITAM (Khristianovich Institute of Theoretical and Applied Mechanics) ในไซบีเรีย ต้องสงสัยว่ามอบเอกสารลับให้แก่จีนระหว่างการประชุมด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศจีนเมื่อปี 2017   ผอ.ของ ITAM วัย 56 ปี ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อมระบุว่า ข้อมูลที่เขาส่งมอบให้กับจีนนั้นไม่ใช่ข้อมูลลับและสามารถหาได้ทั่วไปตามอินเทอร์เน็ต อ้างอิงจากแหล่งข่าวซึ่งรอยเตอร์ไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัย   ชิปลียุค ถูกจับกุมเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วโดยไม่มีการเปิดเผยถึงข้อกล่าวหาที่มีต่อเขาในตอนนั้น ซึ่งกรณีของชิปลียุคถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่มีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียหลายคนถูกจับกุมในรอบไม่กี่ปีมานี้จากข้อกล่าวหาว่าลอบเปิดเผยความลับให้รัฐบาลจีน     ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวถึงกรณีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียถูกจับกุมว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัสเซียติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการ “ทรยศมาตุภูมิ” โดยตลอด และถือเป็นหน้าที่สำคัญ   และเมื่อรอยเตอร์สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศจีนถึงข้อกล่าวหานี้ ได้รับคำตอบว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียอยู่บนพื้นฐานของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เผชิญหน้า และไม่เป็นเป้าหมายของบุคคลที่สาม   ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เน้นย้ำว่า…

องค์การสหประชาชาติ ตำหนิสหรัฐอเมริกาเรื่องเอกสารลับที่รั่วไหล

Loading

    หลายสัปดาห์หลังจากมีการเผยแพร่เอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จำนวนมากบนสื่อสังคมออนไลน์ องค์การสหประชาชาติ ออกถ้อยแถลงตำหนิสหรัฐฯ กรณีที่มีการสอดแนมเลขาธิการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ   นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า สหประชาชาติมีความเห็นว่า การสอดแนมเจ้าหน้าที่บุคลากรของสหประชาชาติ ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของสหรัฐอเมริกาที่ระบุไว้ในกฎบัตรของสหประชาชาติและอนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของสหประชาชาติ และสหประชาชาติได้ส่งบันทึกไปยังคณะผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ในสหประชาชาติเกี่ยวกับเอกสารลับแล้ว   โดยในเอกสารลับส่วนที่เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ เป็นการสอดแนมการสนทนาและการทำงานของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง โดยมีการแสดงความเห็นว่า นายกูเตอร์เรส “อ่อนข้อ” ให้กับรัสเซียมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการใช้มาตรการคว่ำบาตร ทั้งมีรายละเอียดการสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกูเตอร์เรสกับนางอมินา โมฮัมเหม็ด รองเลขาธิการสหประชาชาติ   อย่างไรก็ตาม สำนักงานของนายกูเตอร์เรส ระบุว่า การทำงานของเขาอยู่ในสายตาของสาธารณชนมาเป็นเวลานาน จึงไม่แปลกใจหากจะมีการสอดแนมและดักฟังการสนทนาส่วนตัว แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือความบกพร่องหรือไร้ความสามารถที่ทำให้การสนทนาส่วนตัวถูกนำไปเผยแพร่ และถูกบิดเบือน               —————————————————————————————————————————————— ที่มา :           …