FBI ออกปฏิบัติการปราบ ‘Genesis’ ตลาดค้าข้อมูลผิดกฏหมาย (จบ)

Loading

  ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปภัยไซเบอร์จะมีความน่ากลัวและทวีความรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจต้องอาศัยการทำงานเชิงบูรณาการกันภายในองค์กรคือจากทั้งผู้บริหารและพนักงานในองค์กร โดยให้ทุกคนให้ความสำคัญและตระหนักถึงเรื่องไซเบอร์กันให้มากขึ้น   จากตอนที่แล้ว ผมได้เล่าถึงการเข้าปราบปรามของ FBI ที่ร่วมกันกับหน่วยงานรัฐจากหลากหลายประเทศ เข้าจัดการ Genesis ตลาดมืดค้าข้อมูลที่โจรกรรมจากเหยื่ออย่างผิดกฏหมายยักษ์ใหญ่   ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ลายนิ้วมือ หรือแม้กระทั้ง ข้อมูลทางการเงิน โดยมีการตั้งราคาขายสูงที่สุดอยู่หลายร้อยดอลลาร์เลยทีเดียว   และหากทำการตกลงซื้อขายข้อมูลดังกล่าวแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้เข้าระบบผ่านบัญชีของเหยื่อรายนั้น ๆ โดยผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มนั้นได้อย่างง่ายดาย   Genesis ได้ออกแพลตฟอร์มอย่าง Genesium ซึ่งเป็นชื่อของ Chromium browser ที่เป็นทั้งเบราว์เซอร์ช่วยหลบเลี่ยงการตรวจจับและยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น ความสามารถในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องระบุชื่อและยังมีฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรอดจากระบบต่อต้านการฉ้อโกงต่าง ๆ   Genesis Market แตกต่างจาก Hydra และตลาดซื้อขายผิดกฏหมายอื่น ๆ ตรงที่ Genesis สามารถเข้าผ่าน Clearnet ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคในการเข้าระบบสำหรับแฮ็กเกอร์ที่มีทักษะน้อยและต้องการนำข้อมูลยืนยันตัวตนแบบดิจิทัลเพื่อไปใช้เจาะบัญชีของบุคคลทั่วไปและระบบขององค์กร   หลังจากที่ FBI ได้ออกปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้สามารถการจับกุมและยึดโดเมนที่ผิดกฏหมายได้อีกมากมาย และแน่นอนว่าการปราบปรามครั้งนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจใต้ดิน   เนื่องจากเหล่าบรรดาแฮ็กเกอร์จะต้องหาช่องทางอื่น ๆ…

เอฟบีไอผู้ทรยศ “โรเบิร์ต แฮนส์เซน” เสียชีวิตแล้วในเรือนจำ

Loading

    สื่อต่างประเทศรายงาน “โรเบิร์ต แฮนส์เซน” เอฟบีไอผู้เป็นสายลับให้กับโซเวียต-รัสเซีย เสียชีวิตแล้วในเรือนจำด้วยวัย 79 ปี   สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ (FBI) คือ หน่วยงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เป็นเป็นองค์การหลักของสหรัฐฯ ในการต่อต้านการก่อการร้าย การต่อต้านการสืบข่าวกรอง และการสืบสวนอาชญากรรม   แต่เคยคิดหรือไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น? หากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอซึ่งควรจะรักษาความมั่นคงของสหรัฐฯ กลับเป็นฝ่ายทรยศและนำข้อมูลภายในไปมอบให้กับศัตรูเสียเอง     เรากำลังพูดถึงเรื่องราวของ “โรเบิร์ต ฟิลิป แฮนส์เซน” อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอนำข้อมูลความลับของสหรัฐฯ ไปขายให้กับสหภาพโซเวียต แลกกับเงินสดและเพชรมูลค่ารวมกว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นหนึ่งในคดีเกี่ยวข้องกับสายลับที่ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา   ล่าสุดมีรายงานว่า เอฟบีไอผู้ทรยศรายนี้ ได้เสียชีวิตแล้วในเรือนจำด้วยวัย 79 ปี   เรือนจำกลางในเมืองฟลอเรนซ์ รัฐโคโลราโด รายงานว่า “วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2023 เวลาประมาณ 06.55 น. ผู้ต้องขังโรเบิร์ต…

อาจารย์ฟิสิกส์เตรียมฟ้องกลับเอฟบีไอ หลังโดนมั่วจับกุมว่าเป็น ‘สปาย’ ของทางการจีน

Loading

    อาจารย์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ผู้เคยโดนกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้ทางการจีน ได้สิทธิฟ้องกลับหน่วยงานเอฟบีไอของทางการสหรัฐ ที่กล่าวหาเขาโดยไม่มีมูลความจริง   สีเซียวซิง อาจารย์มหาวิทยาลัยเทมเพิล เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ผู้ซึ่งเคยโดนกล่าวหาว่า ทำหน้าที่เป็นสายลับให้ทางการจีนเมื่อหลายปีก่อน ได้สิทธิในการยื่นฟ้องร้องหน่วยสืบสวนกลางของสหรัฐ ที่กล่าวหาเขาโดยไม่มีหลักฐาน   เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้พิพากษาแห่งศาลอุทธรณ์กลาง ตัดสินให้ สี ชนะการยื่นอุทธรณ์เพื่อขอฟ้องกลับหน่วยงานสืบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ซึ่งเคยกล่าวหาและจับกุมเขาโดยปราศจากหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริง อีกทั้งละเมิดสิทธิของครอบครัวของเขา ขณะบุกเข้าค้นที่พัก ยึดทรัพย์สินและสอดส่องตรวจตราโดยมิชอบด้วยกฎหมาย   เหตุการณ์ละเมิดสิทธิของครอบครัว สี เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ทางเอฟบีไอได้ส่งเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปยังบ้านพักของ สี ในฟิลาเดลเฟีย ใช้ปืนข่มขู่และไล่ต้อนคนในครอบครัวของเขา จากนั้นก็จับกุมเขาด้วยข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงและจารกรรมทางเศรษฐกิจหลายกระทง แต่กลับยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดในอีกหลายเดือนต่อมา   ในปี 2558 กระทรวงยุติธรรมกล่าวหา สี ซึ่งเป็นนักวิชาการด้านฟิสิกส์ว่า เขาเปิดเผยข้อมูลแผนพิมพ์เขียวของอุปกรณ์ทำความร้อนแบบพกพาให้บุคคลอื่นในประเทศจีน ซึ่งเป็นการผิดข้อตกลงห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เขาเคยเซ็นสัญญาไว้     แต่เมื่อเรื่องไปถึงศาล กลุ่มเพื่อนนักวิชาการฟิสิกส์ซึ่งขึ้นให้การชี้ว่า พิมพ์เขียวดังกล่าวไม่เข้าข่ายตามข้อตกลง เนื่องจากเป็นผลงานการประดิษฐ์ส่วนตัวของเขาเอง ซึ่งตามบันทึกให้การในศาลระบุว่า อุปกรณ์ทำความร้อนแบบพกพาที่ สี คิดขึ้นมานั้น…

ศาลสหรัฐเผย “เอฟบีไอ” สอดแนมการสื่อสารส่วนตัวของคนอเมริกันเป็นประจำ

Loading

    เอกสารจากศาลเเสดงการสอดแนมข่าวกรองต่างประเทศ (ฟีซา) เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) มักละเมิดความเป็นส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน ด้วยการลักลอบเข้าถึงฐานข้อมูล เพื่อค้นหาชื่อของเหยื่ออาชญากรรม และผู้เข้าร่วมการประท้วง   สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่า ฐานข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเอฟบีไอเข้าถึงราว 278,000 ครั้ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยอีเมลส่วนตัว, ข้อความ และการสื่อสารอื่น ๆ ที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ใช้ค้นหา เมื่อมีการสอดแนมชาวต่างชาติ   ถึงแม้ว่าเอฟบีไอควรเข้าถึงฐานข้อมูลของเอ็นเอสเอ เฉพาะเมื่อมีการสืบสวนปัญหาข่าวกรองต่างประเทศ แต่ความคิดเห็นของศาล แสดงให้เห็นว่า พวกเขาใช้ฐานข้อมูลนี้อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อสอบสวนคดีภายในประเทศด้วย ซึ่งในบางกรณี มันไม่มีข่าวกรองต่างประเทศ หรืออาชญากรรมในประเทศ ที่เป็นเหตุผลรองรับ ให้เอฟบีไอใช้สิทธิเข้าถึงฐานข้อมูลได้   อนึ่ง เอกสารข้างต้นถูกเผยแพร่ ขณะที่สภาคองเกรสกำลังอภิปราย เรื่องการต่ออายุมาตรา 702 ซึ่งเป็นกฎหมายที่อนุญาตให้เอ็นเอสเอ สามารถเข้าถึงบัญชีอินเทอร์เน็ตที่มีสหรัฐเป็นเจ้าของ เพื่อสอดแนมเป้าหมายข่าวกรองต่างประเทศ โดยสมาชิกสภาหลายคนกล่าวว่า มาตราข้างต้น…

เอฟบีไอรวบ 2 คนจีน ตั้งข้อหาเปิด ‘สถานีตำรวจลับ’ ในไชน่าทาวน์

Loading

    อัยการสหรัฐจับกุมตัวชาย 2 คนในนิวยอร์ก ในข้อหาปฏิบัติการเปิดสถานีตำรวจลับของจีนที่ไชน่าทาวน์ในแมนฮัตตัน โดยคาดว่าจะมีการนำตัวบุคคลทั้งคู่ขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบรู๊คลินในวันที่ 17 เมษายนนี้ ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งคู่อาจเจอโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี   นายหลู่ เจี้ยนหวาง วัย 61 ปี และนายเฉิน จิ้นผิง วัย 59 ปี อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดเป็นตัวแทนของจีน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมาปฏิเสธการดำเนินการตามที่สหรัฐเรียกขานว่าสถานีตำรวจลับ ว่าเป็นเพียงศูนย์บริการสำหรับคนจีนในต่างแดน   ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่า นายหลู่จากบรองซ์และนายเฉินจากแมนฮัตตันทำงานร่วมกันเพื่อก่อตั้งสถานีตำรวจในต่างประเทศแห่งแรกในสหรัฐ ในนามของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน   จุดบริการดังกล่าวถูกปิดไปในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 หลังผู้เกี่ยวข้องทราบว่าสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนถึงการมีอยู่ของสถานีตำรวจลับดังกล่าว   นายบรอน เพียร์ซ อัยการสูงสุดในบรู๊คลิน กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เผยให้เห็นว่ารัฐบาลจีนละเมิดอำนาจอธิปไตยของสหรัฐอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยการจัดตั้งสถานีตำรวจลับกลางนครนิวยอร์ก   “การกระทำของจีนไปไกลเกินกว่าขอบเขตที่จะยอมรับได้ เราจะปกป้องเสรีภาพของทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศของเราอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่จากการคุกคามของการปราบปรามโดยเผด็จการ” นายแมทธิว โอสเลน ผู้ช่วยอัยการสูงสุดจากกองความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าว…

FBI จับทหารวัย21 ปล่อยเอกสารลับ

Loading

  เจ้าหน้าที่เอฟบีไอจับกุมชายวัย 21 ปี ทหารสังกัดกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของกองทัพอากาศสหรัฐที่เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในรัฐแมสซาชูเซตส์เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นผู้ต้องสงสัยปล่อยเอกสารลับของกระทรวงกลาโหม ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสงครามในยูเครน   สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่เอฟบีไอจับกุมชายวัย 21 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยปล่อยเอกสารลับของกระทรวงกลาโหม ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสงครามในยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยเครือข่ายโทรทัศน์ของสหรัฐถ่ายทอดสดขณะที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้หลังการสืบสวนที่ใช้เวลา 1 สัปดาห์   เป็นหนึ่งในการรั่วไหลของข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐที่ทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุดนับตั้งแต่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ปล่อยข้อมูลชุดใหญ่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเมื่อปี 2556   เมอร์ริก การ์แลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงสั้น ๆ หลังการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ ระบุว่าชื่อ แจ็ค ดักลาส เตเชรา เป็นทหารของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของกองทัพอากาศสหรัฐ เขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มแชตออนไลน์ที่พบว่ามีการนำเอกสารของกระทรวงกลาโหมไปเผยแพร่ครั้งแรก   รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐระบุว่า การจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้เชื่อมโยงกับการสืบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการเคลื่อนย้าย, เก็บรักษาและส่งข้อมูลลับด้านกลาโหมโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่เอฟบีไอควบคุมตัวเตเชรา โดยเขาไม่ได้ขัดขืนการจับกุม   เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ของสหรัฐเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถ่ายทางอากาศ เป็นปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอขณะเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้ที่เมืองนอร์ทไดจ์ตัน ทางตอนใต้ของรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ต้องสงสัย แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องสงสัยสวมกางเกงออกกำลังกายขาสั้นสีแดงและเสื้อยืด…