ตำรวจญี่ปุ่นจับชายชาวเกาหลีใต้ที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดศาลเจ้าในกรุงโตเกียว

Loading

     ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมชายชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดที่ศาลเจ้ายาสุคูนิในกรุงโตเกียว ในข้อหาพกพาและใช้ดินปืน      โฆษกตำรวจกรุงโตเกียวกล่าววันนี้ว่า นายจีออน ชาง-ฮัน วัย 27 ปี ถูกตั้งข้อหาใหม่ หลังถูกแจ้งข้อหานำท่อโลหะที่มีดินปืนบรรจุอยู่ภายใน เข้าไปในห้องสุขาของศาลเจ้าดังกล่าว และได้จุดชนวนระเบิด ก่อนหน้านี้ อัยการญี่ปุ่นได้แจ้งข้อหานายจีออนเมื่อเดือนที่แล้วว่า เดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย และก่อเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน      นายจีออนเดินทางออกจากญี่ปุ่นหลังก่อเหตุ แต่กลับเข้าไปยังญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว และถูกจับในข้อหานำดินปืนหนัก 2 กิโลกรัมเข้าประเทศ ———————– ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 21 มกราคม 2559 Link : http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/WNFOR5901210020023

อินโดนีเซียสอบจดหมายขู่โจมตีเกาะบาหลี

Loading

ตร.อินโดนีเซียสอบสวนหลังได้รับจดหมายข่มขู่จะโจมตีเป้าหมายบนเกาะบาหลี หลังเพิ่งเกิดเหตุโจมตีกรุงจาการ์ต้า      วันนี้ (19ม.ค.59) นายซูเก็ง ปริยานโต้หัวหน้าตำรวจบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซียระบุ ว่า กำลังทำการสอบสวนกรณีมีผู้ส่งจดหมายข่มขู่ไปยังที่ทำการรัฐบาลเขตบูเลเล็งบนเกาะบาหลีว่า จะทำการโจมตีเป้าหมายบนเกาะบาหลี  ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ส่งจดหมายฉบับนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่บนเกาะบาหลีอย่ามีความหวาดกลัว และให้เตรียมพร้อมระวังตัวเอาไว้      นายปริยานโต้บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแล้ว ตามจุดต่างๆที่จะเดินทางเข้าเกาะบาหลี —————————– ที่มา : TNN Thailand / 19 ม.ค. 59, 14.05 น. Link : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=89098&t=news

บทวิเคราะห์ “ไม่แคล้ว ‘ไอซิส’!! กลุ่มต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง ตัวการบึมสยองจาการ์ตา”

Loading

     และแล้ว กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ในภูมิภาคอาเซียนของเรา ก็ต้องเผชิญหน้ากับเหตุก่อการร้ายรุนแรงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ม.ค.59 โดยกลุ่มคนร้ายได้เลือกสถานที่ลงมือก่อเหตุ เป็นบริเวณใกล้กับสำนักงานของสหประชาชาติ(ยูเอ็น), ทำเนียบประธานาธิบดี และ ซารีนาห์ มอลล์ ช็อปปิ้งมอลล์ใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนร้ายตาย 5 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 24 คน      หลังเกิดเหตุระเบิดสะเทือนขวัญ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียยังต้องปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายและเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่าชั่วโมง จนสร้างความระทึกและบีบหัวใจมากยิ่งขึ้นไปอีก      ท่ามกลางเสียงปืน และสิ้นเสียงระเบิดที่ดังกึกก้องเขย่ากรุงจาการ์ตา กลับยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่สำหรับความเห็นของนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของสำนักข่าวต่างประเทศหลายคน ชี้ว่า รูปแบบการก่อรุนแรงที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียครั้งนี้ แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นเหตุก่อการร้ายในอินโดนีเซียครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรม เจ ดับบลิว แมร์ริออต​ และโรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ในกรุงจาการ์ตา เมื่อ ก.ค.2552 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บ 53 คน * รูปแบบโจมตีเหมือนปารีส…

We are Anonymus ประกาศแจกข้อมูลจากการแฮ็กเว็บศาลไทย

Loading

We are Anonymus ประกาศแจกข้อมูลจากการแฮ็กเว็บศาลไทย โฆษก สตช. ชี้อาจต้องใช้ระบบซิงเกิลเกตเวย์ป้องกัน กลุ่มผู้ที่ใช้ชื่อว่า We are Anonymus ประกาศอัพโหลดข้อมูลที่ได้จากการเจาะเข้าระบบเว็บศาลฎีกาของไทยขึ้นสู่ อินเตอร์เน็ต ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญไอทีแนะ หน่วยงานราชการต้องแยกระบบการจัดการภายในออกจากเว็บข้อมูลข่าวสาร ด้านรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงชี้อาจต้องอนุมัติให้มีการจัดซื้อเครื่อง มือเพื่อป้องกันการถูกโจมตีผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่จำเป็นเพิ่มเติม ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววันนี้ว่า ขณะนี้ทราบว่าแฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าวกระทำความผิดจากต่างประเทศ และรอให้สำนักงานศาลยุติธรรมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยระบุว่าด้วย อาจมีความจำเป็นต้องทบทวนแนวคิดการนำระบบซิงเกิลเกตเวย์มาใช้ เฟซบุ๊กเพจ We are Anonymus ประกาศความสำเร็จในการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ของศาลไทย จำนวนเกือบ 300 เว็บไซต์ พร้อมทั้งอ้างว่าได้ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ศาลฎีกาของไทย ซึ่งรวมถึงรายการเงินเดือนของข้าราชการ ข้อมูลของข้าราชการ และเบอร์โทรศัพท์ส่วนบุคคล และเปิดให้คนทั่วไปดาวน์โหลดข้อมูลได้ วสันต์ ลิ่วลมไพศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไอทีชื่อดังของไทย Blognone อธิบายกับบีบีซีไทยว่าขณะนี้ไม่แน่ใจว่าแฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าวเจาะข้อมูล เข้าไปถึงไหน เป็นเรื่องที่ผู้ดูแลระบบบเว็บไซต์ของศาลต้องตรวจสอบว่ามีข้อมูลใดถูกดึง หรือทำให้หายไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามจากคำกล่าวอ้างของกลุ่ม We are Anonymus ระบุว่าแฮกเกอร์กลุ่มนี้พบว่าข้อมูลของระบบศาลไทยนั้นถูกรวมอยู่ใน เซิร์ฟเวอร์เดียวกันทั้งหมด ทั้งข้อมูลที่เป็นข้อมูลภายในองค์กรและข้อมูลสำหรับเผยแพร่…

ระเบิดกลางกรุงจาการ์ตา มีผู้เสียชีวิต 4ราย

Loading

มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 คน หลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นต่อเนื่องใจกลางกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เช้านี้ โดยผู้สื่อข่าวระบุว่ามีเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดเหตุระเบิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีการชี้ชัดว่ากลุ่มใดเป็นผู้ลงมือ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุยังไม่พบคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสีย ชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สถานทูตไทยในกรุงจาการ์ตาเผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจเตือนคนไทยให้อยู่ในที่พักและหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงสาย ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้า ซารินาห์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีและสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ผู้สื่อข่าวของบีบีซีในกรุงจาการ์ตาระบุว่ามีการยิงโต้ตอบกันระหว่างผู้ก่อ เหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าประจำการในบริเวณดังกล่าวหลายร้อยนายรวมมือ ปืนซุ่มยิง อินโดนีเซียเผชิญกับเหตุโจมตีจากกลุ่มกองกำลังอิสลามมาหลายครั้ง และล่าสุดนี้ได้เฝ้าระวังอย่างสูงต่อเหตุก่อการร้ายโดยกลุ่มที่เรียกว่ารัฐ อิสลาม หรือไอเอส แม้จะยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบจากเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีรายงานว่าช่วง 2-3 ที่ผ่านมา มีชาวอินโดนีเซียราว 150-200 คนเดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส และเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งตำรวจคิดว่ากลุ่มเหล่านี้อาจเตรียมการก่อเหตุในอินโดนีเซีย ที่มา บีบีซีไทย – BBC Thai  14 มกราคม 2559

แฮกเกอร์! ถล่มเว็บศาลฯ คาดไม่พอใจคดีเกาะเต่า โฆษกศาล ยธ.ลั่นเอาผิด

Loading

     “โฆษกศาลยุติธรรม” เผย ตรวจสอบแล้วพบแฮกเกอร์ ถล่มเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 10,12 โทษจำคุก 3-15 ปี เชื่อผลพวง ตัดสินคดีเกาะเต่า หลังพบข้อความภาษาอังกฤษ เรียกร้องความยุติธรรม ย้ำ ไม่อาจเปลี่ยนคำพิพากษาได้      เมื่อวันที่ 13 ม.ค.59 นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม ถูกแฮกเกอร์บุกรุกจนไม่สามารถใช้งานได้ว่า จากการตรวจสอบการเชื่อมต่อโครงข่ายข้อมูลหน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรมนั้นไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกที่ตรวจสอบพบว่า หน้าเว็บเพจหน้าแรกของสำนักงานศาลยุติธรรม กลายเป็นบนพื้นสีดำ และมีรูปสัญลักษณ์คล้ายหน้ากากสีขาว พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ เขียนว่า “BLINK HACKER GROUP” และ “Failed Law We Want Justice ! # Boycott Thailand” และจากการสืบค้นพบว่า “BLINK…