วิธีตั้งค่าปฏิเสธรับสายจากต่างประเทศ ป้องกันแก็งคอลเซ็นเตอร์โทรจากต่างประเทศ

Loading

  วิธีตั้งค่าปฏิเสธรับสายจากต่างประเทศ ป้องกันแก็งคอลเซ็นเตอร์โทรจากต่างประเทศ และมิจฉาชีพใช้เบอร์ต่างประเทศมาโทรก่อกวนเรา เบอร์นี้ใช้ได้ทุกเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทย วิธีตั้งค่าปฏิเสธรับสายจากต่างประเทศ ป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรจากต่างประเทศ   iT24Hrs   หยิบโทรศัพม์มือถือของคุณ แตะที่ปุ่มโทร จากนั้นกดปุ่มดังนี้ *138*1# แล้วกดโทรออก   iT24Hrs   จะได้รับข้อความ SMS ว่าได้บล็อกสายจากต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว หากต้องการเปิดอีกครั้งให้กด *138*2# โทรออก เพื่อกลับมาเปิดรับสายจากต่างประเทศปกติ   ทั้งนี้มิจฉาชีพจะใช้เบอร์ต่างประเทศโทรหา ดังนั้น กสทช.จึงได้เปิดตัวเบอร์ดังกล่าว เพื่อให้สามารถทำการปิดเบอร์โทรจากต่างประเทศได้สะดวกขึ้น อย่างไรก็ตามหากมีญาติอยู่ต่างประเทศ โทรผ่านโทรศัพท์ด้วยให้กด *138*2# เพื่อสลับมาเปิดรับสายจากต่างประเทศอีกครั้ง หรือจะให้โทรผ่านทางแอป VOIP ต่าง ๆ ก็ได้       ————————————————————————————————————————- ที่มา :                     …

กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค

Loading

  กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน หลังได้รับแจ้งว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ติดต่อแจ้งความกรณีซื้อขายวัคซีนผิดกฎหมาย พร้อมอำนวยความสะดวกแจ้งความออนไลน์ให้ หากไม่สะดวกไปแจ้งความด้วยตนเอง ย้ำอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ   วันนี้ (28 ธันวาคม 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งจากประชาชนหลายราย ว่ามีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว   โดยแจ้งว่าพบการกระทำผิดกรณีซื้อขายวัคซีนผิดกฎหมาย ให้ผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความ หากไม่สะดวกผู้แอบอ้างยินดีรับอาสาแจ้งความออนไลน์ให้ โดยมีการอ้างอิงเบอร์โทรกลับหมายเลข 02-590-3000 ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ของกรมควบคุมโรค เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และยังสามารถระบุเลขบัตรประจำตัวของประชาชนที่โทรไปหาได้อย่างถูกต้อง   ย้ำเตือน!..ว่าอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้โดยเด็ดขาด ห้ามให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ หรือโอนเงินให้หรือดำเนินการใด ๆ ผ่านระบบอัตโนมัติโดยเด็ดขาด   “กรมควบคุมโรค ไม่มีการดำเนินการใดๆหรือมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกใด ๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการโอนเงินทุกชนิด จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด ส่วนกรณีเบอร์ติดต่อ 02 590 3000 ซึ่งเป็นเบอร์กรมควบคุมโรคนั้น ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ของมิจฉาชีพที่พยายามสร้างความน่าเชื่อถือ กรมควบคุมโรคจะประสานผู้เชี่ยวชาญหาทางป้องกันต่อไป” นายแพทย์ธเรศกล่าว   นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค…

เทรนเนอร์หนุ่มเตือนภัยมิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอป กดเงินเกลี้ยงบัญชี แถมเป็นหนี้บัตรเครดิต

Loading

  เทรนเนอร์หนุ่มเตือนภัย มิจฉาชีพอ้างเป็น จนท.กระทรวงพาณิชย์ หลอกให้โหลดแอป ก่อนโดนควบคุมมือถือ กดโอนเงินไปจนหมดบัญชี พร้อมเป็นหนี้บัตรเครดิต   แก๊งคอลเซ็นเตอร์สรรหาสารพัดวิธีหลอกเงินเหยื่อ ล่าสุด เทรนเนอร์หนุ่มรายหนึ่งได้โพสต์เตือนภัยแชร์ประสบการณ์ ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หลอกให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทำธุรกรรม ก่อนจะโดนควบคุมโทรศัพท์มือถือจากระยะไกล กดโอนเงินไปจนหมดบัญชี พร้อมเป็นหนี้บัตรเครดิต โดยเจ้าตัวได้เล่าขั้นตอนว่า   มีเบอร์โทรเข้ามา บอกว่ารูปแบบบริษัทของเขายังไม่มีการกดยืนยัน ให้เข้าไปยืนยันในแอปพลิเคชัน ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ เพราะข้อมูลแน่นมาก เพราะมีทั้งรายละเอียดบริษัท รายชื่อเจ้าของและหุ้นส่วน โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่า เจ้าหน้าที่จะแอดไลน์มาเพื่อจะสอนให้ยืนยันในแอป     จากนั้นเมื่อเหยื่อเห็นว่า ข้อมูลทุกอย่างถูกต้องครบถ้วน มิจฉาชีพจะส่งลิงก์ที่อ้างว่าเป็นของกระทรวงพาณิชย์มาให้ ซึ่งลิงก์นี้มีความคล้ายกับเว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์อย่างมากหากไม่สังเกตให้ดี ซึ่งโจรจะให้กดเข้าลิงก์เพื่อเข้าทำธุรกรรม ซึ่งเหยื่อไม่รู้ตัวว่าเป็นแอปพลิเคชั่นที่สามารถคุมมือถือจากระยะไกลได้     จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกเหยื่อว่ามีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม แต่บอกเหยื่อว่าให้โอนเข้าการกุศลแทน ทำให้เหยื่อตายใจไม่ระวังตัว ซึ่งขณะกดรหัสเพื่อโอนเงินบริจาค ทางฝั่งโจรก็จะเห็นทั้งหมด เมื่อเหยื่อส่งสลิปให้แล้ว ก็จะให้ค้างหน้าจอโดยอ้างว่าเพื่ออัพเดทข้อมูล ซึ่งในขณะที่รอ เหยื่อไม่สามารถทำอะไรกับมือถือได้เลย กดปิดเครื่องยังแทบจะทำไม่ได้ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็พบว่าเงินในบัญชีนั้นหายเกลี้ยงไปแล้ว แถมบัตรเครดิตยังถูกกดเงินจนเป็นหนี้ตามไปด้วย   หลังโพสต์นี้เผยแพร่ออกมาก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก หลายคนบอกว่าตามเล่ห์เหลี่ยมมิจฉาชีพสมัยนี้แทบไม่ทันเพราะขยันเปลี่ยนมุก เปลี่ยนแผนในการหลอกเงินตลอดเวา…

ตร.ไซเบอร์ลุยตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบจุดพาดสายข้ามไปฝั่งเขมร

Loading

  “รองต่อ” รองผบ.ตร นำตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการตัดวงจร “ซิม-สาย-เสา” เข้าค้น 6 ผู้ให้บริการเครือข่ายรายหนึ่ง ใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบจุดพาดสายสื่อสารด้านหลังสถานีรถไฟคลองลึกข้ามไปฝั่งเขมร เชื่อเป็นช่องทางให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้อินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยมาหลอกลวงคนไทย   เวลา 10.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. 65 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกบช.สอท. นำกำลังลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดปฏิบัติการซิม-สาย-เสา ตัดวงจรขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย โดยปูพรมตรวจค้น 6 จุด ใน อ.อรัญประเทศ  …

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 ประเทศ ร่วมกับทลาย iSpoof บริการปลอมแปลงตัวตน

Loading

  @ หน่วยงานรักษากฎหมายจากหลายประเทศได้ร่วมกันทลายบริการสวมรอยเบอร์โทรศัพท์ (number spoofing) ที่เรียกว่า iSpoof และสามารถจับกุมผู้ต้องหา 142 คนที่มีความเชื่อมโยงกับปฏิบัติการในครั้งนี้   องค์การตำรวจยุโรป (Europol) เผยว่า iSpoof ให้บริการในการปลอมตัวตนเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือหรือบุคคลอื่นเพื่อล้วงข้อมูลส่วนบุคคลจากเหยื่อ   ในขณะที่ตำรวจนครบาลของสหราชอาณาจักรระบุว่า iSpoof สร้างความเสียหายทั่วโลกคิดเป็นเงินกว่า 115 ล้านปอนด์ (ราว 4,975 ล้านบาท) โดยในสหราชอาณาจักรประเทศเดียว น่าจะมีเหยื่อสูงถึง 200,000 ราย   นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า iSpoof ก่อตั้งขึ้นมาในเดือนธันวาคม 2020 มีผู้ใช้งานราว 59,000 คน   จากการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างยูเครนและสหรัฐอเมริกาทำให้สามารถปิดเว็บไซต์ และเข้ายึดเซิร์ฟเวอร์ของ iSpoof ได้สำเร็จ   ตำรวจเนเธอแลนด์เผยวิธีการติดตามจับกุม iSpoof โดยใช้วิธีการเจาะเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์   หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้มาจากออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมัน ไอร์แลนด์ ลิทัวเนีย เนเธอร์แลนด์…

งามไส้! จับ “พ.ต.ท.-จนท.กระทรวง” ขายข้อมูลคนไทยให้แก๊งคอลฯ ได้เดือนละ 6 แสนบาท

Loading

  งามไส้! จับ “พ.ต.ท.-จนท.กระทรวง” ขายข้อมูลคนไทยให้แก๊งคอลฯ ได้เดือนละ 6 แสนบาท   วันที่ 28 ต.ค.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองผบก.สอท.1 ร่วมกันเปิดเผยกรณีตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยได้มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว   พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากปฏิบัติการ “เด็ดปีกมังกร” จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาของทาง บช.สอท. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 16 ราย เป็นกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า 8 ราย กลุ่มรวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งต่อให้นายทุนชาวจีน 1 ราย และกลุ่มที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง 2 ราย   โดยระบุว่า ผู้ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลของผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง…