สหรัฐฯ กังวลเรื่องอะไร เหตุใดจึงจะออกกฎหมายแบน “ติ๊กตอก”
แอปพลิเคชันเล่นคลิปวิดีโอ “ติ๊กตอก” (TikTok) ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ทั่วโลก แต่ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา แอปพลิเคชันนี้ต้องเผชิญกับกระแสความระแวงสงสัย อันเนื่องมาจากบริษัทแม่ที่เป็นเจ้าของกิจการมีสัญชาติจีน ทำให้เกิดความกังวลต่อประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน รวมทั้งสายสัมพันธ์ที่ติ๊กตอกอาจมีกับรัฐบาลจีนด้วย ขณะนี้บรรดานักการเมืองชาวอเมริกัน กำลังอภิปรายร่างกฎหมาย ที่จะบังคับให้บริษัทแม่ของติ๊กตอกต้องขายกิจการแอปพลิเคชันดังกล่าวให้กับสหรัฐฯ มิฉะนั้นอาจต้องถูกแบนไม่ให้มีการใช้งานในสหรัฐฯ ได้ต่อไป แต่ล่าสุดอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว แม้จะเคยสนับสนุนให้แบนการใช้งานติ๊กตอกมาก่อนก็ตาม “ติ๊กตอก” ได้รับความนิยมแค่ไหน ติ๊กตอกเป็นแอปพลิเคชันเล่นคลิปวิดีโอขนาดสั้น มีลักษณะการใช้งานคล้ายกับยูทิวบ์ (YouTube) คือเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาโพสต์หรือลงเผยแพร่คลิปวิดีโอ รวมทั้งแชร์และร่วมแสดงความคิดเห็นต่อคลิปวิดีโอนั้นได้ คลิปวิดีโอขนาดสั้นในติ๊กตอกมีความยาวตั้งแต่ 3 วินาที ไปจนถึง 3 นาที ผู้ใช้งานสามารถตัดต่อคลิปวิดีโอบนติ๊กตอกได้อย่างง่ายดาย โดยใช้งานตัวกรองหรือฟิลเตอร์ รวมทั้งแปะสติ๊กเกอร์ เพิ่มดนตรีประกอบ และใส่เอฟเฟกต์ที่เป็นเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ลงไปได้ ในตอนแรกที่ติ๊กตอกเริ่มโด่งดังขึ้นมา แอปพลิเคชันนี้มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งรวมคนหนุ่มสาว ที่พากันรวมกลุ่มมาแสดงความสามารถด้านการเต้น บ้างก็ขับร้องหรือไม่ก็ลิปซิงก์ตามบทเพลงที่กำลังฮิต รวมทั้งทำกิจกรรมตามคำท้าทายหรือแชลเลนจ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานติ๊กตอกที่มีอายุถึงเกณฑ์และอยู่ในภูมิภาคที่ได้รับอนุญาต สามารถจะสตรีมวิดีโอของตนในรูปแบบไลฟ์สดไปยังผู้ติดตามจำนวนมากได้ ซึ่งผู้ชมเหล่านี้สามารถจะสมัครเป็นสมาชิกของช่องติ๊กตอกดังกล่าว…