สหรัฐรวบหญิงบุกคองเกรส ขโมยแล็บท็อปเพโลซี หวังขายรัสเซีย

Loading

  สหรัฐรวบหญิงบุกคองเกรส ขโมยแล็บท็อปเพโลซี หวังขายรัสเซีย ทางการสหรัฐจับกุมตัวน.ส.ไรลีย์ จูน วิลเลียมส์ จากรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขโมยแล็บท็อปจากสำนักงานของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ยื่นขออนุมัติหมายจับวิลเลียมส์ หลังมีหลักฐานว่าเธอได้ขโมยแล็บท็อปจากสำนักงานของนางเพโลซีไป และได้พยายามที่จะขายมันให้กับรัสเซีย หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างว่าหนึ่งในพยานซึ่งถูกระบุว่าเป็นอดีตผู้ที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิลเลียมส์เปิดเผยว่า วิลเลียมส์ได้วางแผนที่จะส่งแล็บท็อปดังกล่าวไปให้เพื่อนที่อยู่ในรัสเซีย เพื่อให้นำไปขายให้กับหน่วยงานข่าวกรองระหว่างประเทศของรัสเซีย แต่ความพยายามดังกล่าวล้มเหลว โดยแล็บท็อปยังคงอยู่กับวิลเลียมส์แต่ไม่ชัดเจนว่าเธอได้ทำลายมันไปแล้วหรือไม่อย่างไร ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าแล็บท็อปตัวที่ถูกระบุถึงมาจากสำนักงานของเพโลซีจริงหรือไม่ด้วยเช่นกัน วิดีโอที่มีการนำมาเผยแพร่หลายชิ้นแสดงให้เห็นภาพผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็นวิลเลียมส์ ที่คอยชี้ทางให้ผู้ชุมนุมที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาโดยระบุว่าให้ขึ้นบันไดไปด้านบน โดยมารดาของวิลเลียมส์รับว่าสตรีที่ปรากฎในรูปเหล่านั้นคือลูกสาวของเธอ ที่จู่ๆ ก็เกิดความสนใจในการเมืองและในตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมา วิลเลียมส์เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันพร้อมกับบิดาในวันเกิดเหตุบุกอาคารรัฐสภา แต่ระหว่างเกิดเหตุวุ่นวายทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง หลังจากนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอรีบจัดกระเป๋าและบอกมารดาว่าจะไม่อยู่บ้านหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ผู้ที่มีส่วนกับการบุกรุกและก่อเหตุวุ่นวายในอาคารรัฐสภาสหรัฐค่อย ๆ ถูกจับกุมและดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่อาศัยภาพจากวิดีโอและภาพนิ่งที่ถูกนำมาเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย แต่วิลเลียมส์เป็นรายแรกที่มีข้อกล่าวหาว่าพยายามขายของที่ขโมยมาให้กับทางการรัสเซีย   ———————————————————————————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์  / วันที่  19 ม.ค.64 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2536828

โจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ทะลวงทุกระบบไปขนเพชรมหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้

Loading

โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX / AFP) ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์การโจรกรรมเพชรที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกจนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” “แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์” (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัยซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมนีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัยซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย…