ศาลฮ่องกงตัดสิน 14 นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ผิดฐานบ่อนทำลาย
ศาลฮ่องกงตัดสินให้นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของฮ่องกง 14 คน มีความผิดฐานบ่อนทำลาย ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุด
ศาลฮ่องกงตัดสินให้นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของฮ่องกง 14 คน มีความผิดฐานบ่อนทำลาย ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุด
ฮ่องกงประกาศจับกุมครั้งแรกภายใต้กฎหมายความมั่นคงใหม่มาตรา 23 จำนวนทั้งหมด 6 คนในข้อหาเผยแพร่โพสต์ทางโซเชียลมีเดียที่เป็นการปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาลปักกิ่ง
จีนเตรียมออกกฎหมายห้ามเผยแพร่คำพูดและห้ามสวมใส่เสื้อผ้า หรือบังคับให้ผู้อื่นสวมใส่เสื้อผ้า ที่จะกระทบกระเทือนจิตวิญญาณความเป็นจีน ผู้ใดฝ่าฝืนอาจจำคุก 15 วัน หรือปรับ 5,000 หยวน
สมาชิกสันนิบาตโซเชียลเดโมแครตฮ่องกงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันออกจากพื้นที่ หลังจากถือป้ายประท้วงและพยายามตะโกนนอกศาลในฮ่องกง ขณะมีการพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหา 47 คน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ (Photo by Peter PARKS / AFP) การพิจารณาคดีด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ โดยมีบุคคลผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายสิบคนถูกกล่าวหาว่าพยายามโค่นล้มรัฐบาลและอาจได้รับโทษประหนึ่งอาชญากร เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหาถูกไต่สวน 47 คน และอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิด ผู้เห็นต่างในดินแดนของจีน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงในเกาะฮ่องกง ถูกเรียกมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวน โดยมีการเปิดเผยภายหลังว่า ผู้ถูกดำเนินคดี 16 คนปฏิเสธความผิดในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดในการกระทำเพื่อโค่นล้มรัฐบาลจากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ” ขณะที่อีก 31 คนสารภาพผิดตามข้อกล่าวหาและจะถูกตัดสินโทษหลังกระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น ชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งทำการชุมนุมประท้วงเล็ก ๆ บริเวณหน้าศาลฮ่องกง ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การพิจารณาคดีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบกฎหมายถูกใช้เพื่อบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง ทั้ง ๆ ที่การต่อต้านเผด็จการไม่ใช่อาชญากรรม ผู้ถูกดำเนินคดีต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 4…
พระคาร์ดินัลวัย 90 ปี หนึ่งในสมาชิกอาวุโสที่สุดของโบสถ์คาทอลิกในฮ่องกง ถูกตำรวจจับกุมตัวข้อหา ละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันพุธที่ 11 พ.ค. 2565 ว่า พระคาร์ดินัล โจเซฟ เซน อายุ 90 ปี เป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจฮ่องกงจับกุมตัว ข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรซึ่งจัดหาเงินทุนให้กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ส่วนอีก 3 คนที่เหลือคือ นายเดนิส โฮ นักแสดงและนักร้องเพลงแนวป๊อปกวางตุ้ง (Cantopop) , น.ส.มาร์กาเร็ต อึ้ง อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ และ ดร. ฮุย โป เคิง (Hui Po Keung) โดยพวกเขาถูกกล่าวหาว่า สมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ และหากถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง พวกเขาอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ตำรวจฮ่องกงบอกกับ บีบีซี อีกว่า ผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ร้องขอต่อต่างประเทศหรือองค์กรต่างชาติให้คว่ำบาตรฮ่องกง…
รอยเตอร์ – รัฐมนตรีความมั่นคงฮ่องกง คริส ถัง แถลงเปิดใจต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกงในวันพุธ (26 ม.ค.) ยืนยันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติพิเศษที่กำลังอยู่ระหว่างการร่างนี้จะให้ความสำคัญกับการจารกรรมความลับ ชี้กฎหมายเก่าที่มีอยู่ใช้มาตั้งแต่ยุคอาณานิคมอังกฤษ ใช้ไม่ได้ผลเก่าเกินไป รอยเตอร์รายงานวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า รัฐมนตรีความมั่นคงฮ่องกง คริส ถัง (Chris Tang) ยืนยันว่ารัฐบาลฮ่องกงของ แครี หล่ำ จะเดินหน้าทำให้กฎหมายการต่อต้านการจารกรรมความลับมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติพิเศษที่กำลังอยู่ระหว่างการร่างขึ้นในเวลานี้ พร้อมกันนี้เขายังชี้ต่อว่า กฎหมายต่อต้านการจารกรรมที่ยังคงใช้ในปัจจุบันซึ่งอยู่ในกฎหมาย “Official Secrets Ordinance” ที่ใช้มาตั้งแต่ฮ่องกงยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษนั้นไม่ตอบสนองต่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นอีกต่อไป “เราจะแสดงความสำคัญของการจารกรรมความลับในกฎหมาย” ถังซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกงกล่าว ทั้งนี้ พบว่ารัฐบาลฮ่องกงอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายที่ครอบคลุมอาชญากรรมทางความมั่นคงต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อมาตรา 23 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญฮ่องกง กฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) หลังการส่งมอบฮ่องกงกลับไปให้จีนเมื่อปี 1997 โดยมาตรา 23 กล่าวว่า ฮ่องกงมีหน้าที่ต้องร่างกฎหมายของตัวเองเพื่อควบคุมอาชญากรรมต่างๆ รวมไปถึงกบฏ การแบ่งแยกดินแดน การขโมยความลับของรัฐและความเคลื่อนไหวโดยกลุ่มการเมืองต่างชาติ ทั้งนี้ พบว่ารัฐบาลฮ่องกงพยายามที่จะผ่านกฎหมายเหล่านี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2003 ส่งผลทำให้เกิดการประท้วงบนถนนครั้งใหญ่จากประชาชนฮ่องกงที่มองกฎหมายเหล่านี้ว่าเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพพิเศษของเกาะฮ่องกง…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว