“ดีอีเอส” จ่อ ออกร่างประกาศกระทรวงฯ แก้ปัญหาข้อมูลเท็จท่วมโซเชียล

Loading

  “ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส เรียกประชุม คกก.ป้องกันฯ การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางโซเชียลฯ นัดแรก ไฟเขียว เตรียมออกร่างประกาศกระทรวงฯ หลักเกณฑ์เก็บ Log files หนุน พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ตามทันยุคโซเชียล วันที่ 20 พ.ค. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ (20 พ.ค.64) ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ครั้งที่ 1/2564 โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการปรับปรุงกฎหมายลำดับรองตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ใช้บังคับมานานเพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นสากล และสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานทั้งในโซเชียลมีเดีย และดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ โดยคณะทำงานอยู่ระหว่างการพิจารณา (ร่าง) ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่องหลักเกณฑ์การจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ. …. และแนวทางการกำกับดูแลและการลงทะเบียนผู้ใช้งาน Social Media โดยดูจากแนวทางของต่างประเทศเป็นต้นแบบ คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ และจะรับฟังความคิดเห็น จากผู้เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับสรุปผลการดำเนินงานด้านการป้องกันปราบปรามของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม…

จีนแบนการใช้หลักสูตรต่างชาติตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมต้น

Loading

    รัฐบาลจีนห้ามการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรของต่างประเทศ ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมต้น มีผลบังคับใช้ก.ย.ปีนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า สภารัฐกิจ หรือคณะรัฐมนตรีจีน ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับกฎหมายปฏิรูปการศึกษาฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ห้ามจัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรต่างชาติ ในสถานศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 และห้ามบุคคลและนิติบุคคลต่างชาติ เป็นเจ้าของและร่วมเป็นหุ้นส่วนกับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น   China bars foreign curriculums, ownership in some private schools https://t.co/ML4UI3NyiF pic.twitter.com/pZLRBO6aVQ — CNA (@ChannelNewsAsia) May 17, 2021   ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งมีความเห็นว่า คณะผู้บริหารและผู้มีอำนาจตัดสินใจในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นสังกัดเอกชน “ควรเป็นชาวจีนเท่านั้น” และ “ควรมีตัวแทนจากหน่วยงานรัฐ” นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาเอกชนระดับมัธยมต้นจะไม่สามารถจัดการรับสมัครนักเรียน การสอบเข้า และการรับสมัครบุคลากรได้เองล่วงหน้าอีกต่อไป…

ตร.กวดขันจับกุม! รถไม่ติดแผ่นป้าย-เปลี่ยนแปลง-ปิดบัง

Loading

  ตร. กวดขันจับกุมรถไม่ติดแผ่นป้าย หรือเปลี่ยนแปลง หรือปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน เมื่อวันที่ 15 พ.ค. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีประชาชนนำรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หรือติดแผ่นป้ายทะเบียนที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปิดบังทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงมีหนังสือสั่งการ ลงวันที่ 12 พ.ค.64 ไปยังกองบัญชาการที่เกี่ยวข้องโดยสั่งการให้เจ้าพนักงานจราจรกวดขันจับกุมผู้ที่กระทำผิดดังกล่าว     ทั้งนี้ที่ผ่านมามีประชาชนบางรายไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ หรืออาจพยายามปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงแผ่นป้ายทะเบียนโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายผ่านกล้องวงจรปิด หรือ กรณีเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถผู้อื่นแล้วหลบหนี อาจทำให้คู่กรณีเกิดความสับสนหรือไม่สามารถระบุทะเบียนรถได้ เป็นเหตุไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ซึ่งเป็นการเจตนาจงใจละเมิดกฎหมายและทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนอาจได้รับผลกระทบ ได้รับความเดือดร้อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน เพื่อขอความร่วมมือปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด   กรณีที่เจ้าของรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท    กรณีที่เจ้าของรถใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถที่ทำขึ้นเอง เช่น ทำด้วยกระดาษ หรือใช้การเขียนด้วยลายมือ โดยมีการแปลงตัวเลขอารบิกเป็นเลขไทย หรือการแก้ไขอักษรหรือตัวเลขในแผ่นป้ายทะเบียนรถตามความเชื่อส่วนตัวหรือหลักโหราศาสตร์ โดยนำวัสดุเช่นแผ่นทองคำเปลวหรือแผ่นสติกเกอร์ไปติดทับจนบดบังส่วนหนึ่งส่วนใดของแผ่นป้ายทะเบียน หรือนำแผ่นป้ายทะเบียนรถไปตกแต่งลวดลายเลียนแบบป้ายทะเบียนรถแบบกราฟิกที่หรือการนำป้ายพลาสติกที่สกรีนลายกราฟิกไปใช้ครอบแผ่นป้ายทะเบียนรถจะทำให้มองเป็นป้ายประมูล การกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 60 ฐานใช้แผ่นป้ายทะเบียนมีลักษณะไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือนำวัสดุหรือสิ่งอื่นใดมาปิดบัง หรือติดไว้ในบริเวณใกล้เคียงกับแผ่นป้ายทะเบียนรถ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท   แต่หากตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมหมายเลขทะเบียนไม่ตรงกับป้ายเสียภาษีประจำปี ไม่ตรงกับสำเนาทะเบียนรถ และรายละเอียดของตัวรถ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ฐานปลอมเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท      —————————————————————————————————————————————– ที่มา : เดลินิวส์      / วันที่เผยแพร่  15 พฤษภาคม 2564 Link : https://www.dailynews.co.th/crime/843671

จีนออกกฏใหม่คุม’เทสลา’ถ่ายโอนข้อมูลบนท้องถน

Loading

  จีนออกกฏใหม่คุม’เทสลา’ถ่ายโอนข้อมูลบนท้องถนน ขณะที่บรรดาผู้สังเกตุการณ์ มีความเห็นว่า ร่างกฏระเบียบใหม่นี้จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐและจีนมากขึ้น เมื่อวันพุธ (12 พ.ค.)สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน เผยแพร่ร่างกฏระเบียบใหม่ที่ห้ามให้มีการถ่ายโอนข้อมูลการจราจรบนท้องถนนในจีน ที่ไม่ผ่านการอนุมัติและห้ามถ่ายโอนตำแหน่งที่ตั้งของยานพาหนะ ตลอดจนภาพและข้อมูลอื่นๆที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ในกล้องและเซนเซอร์ติดรถยนต์ ซึ่งข้อห้ามล่าสุดนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถยนต์อัจฉริยะขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั้งคันของบริษัทเทสลา และค่ายรถยนต์อื่นๆ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา “นายเทา หลิน” รองประธานฝ่ายกิจการภายนอกของเทสลาในจีน เปิดเผยว่า ในฐานะที่เทสลาเป็นบริษัทดำเนินกิจการในจีน บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของจีน โดยต้องรวบรวมข้อมูลจากรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในจีนเก็บไว้ในประเทศจีนอย่างปลอดภัย เพื่อบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวและความมั่นคงของจีนไปยังสหรัฐ ข้อมูลจากรถยนต์อัจฉริยะของเทสลาในอนาคตทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์ เมื่อเดือนมี.ค.เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนได้ตรวจสอบด้านความปลอดภัยในรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา และแสดงความกังวลเกี่ยวกับกล้องภายในห้องผู้โดยสารและกล้องภายนอกอีก 8 ตัวที่ติดตั้งบนรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา รวมถึงการเชื่อมกับข้อมูลการติดต่อในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาจมีผลทำให้ข้อมูลส่วนตัวและเกี่ยวกับความมั่นคงของจีนเล็ดลอดถูกส่งไปยังสหรัฐ   ————————————————————————————————————————————- ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ          / วันที่เผยแพร่ 14 พ.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/937920

‘ฮ่องกง’ผ่านกม.รักชาติ ใครไม่จงรักภักดีต่อ’จีน’ต้องถูกปลด-ห้ามลงสมัครเลือกตั้ง

Loading

  ‘ฮ่องกง’ผ่านกม.รักชาติ ใครไม่จงรักภักดีต่อ’จีน’ต้องถูกปลด-ห้ามลงสมัครเลือกตั้ง 13 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กฎหมายฉบับใหม่ของฮ่องกงที่ทดสอบ “ความรักชาติ” ในหมู่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแล้วเมื่อวันพุธ จะเริ่มบังคับใช้ทันทีในเดือนนี้ ซึ่งจะให้อำนาจรัฐบาลปลดหรือห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งหากพบว่าบุคคลนั้น “ไม่จงรักภักดี” ต่อทางการฮ่องกงหรือจีน รัฐบาลฮ่องกงเสนอร่างฉบับนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จำเป็นต้องมีบทบัญญัติที่สร้างความมั่นใจว่า มีแต่ “คนรักชาติ” เท่านั้นที่ได้บริหารฮ่องกง รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า การลงมติของสภานิติบัญญัติฮ่องกงที่ปราศจากฝ่ายค้านเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มีสมาชิกเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ 40 คน และมีเพียง 1 คนงดออกเสียง กฎหมายฉบับนี้บังคับว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนจะต้องให้ “คำสัตย์ปฏิญาณจงรักภักดี” ที่จะต้องปฏิบัติตามตลอดสมัยดำรงตำแหน่ง ผู้ที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายนี้มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐ คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาและสภานิติบัญญัติ หรือกระทั่งผู้พิพากษา สมาชิกสภาเขตมากกว่า 470 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นเพียงตำแหน่งเดียวที่ชาวฮ่องกงสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไปในการเลือกผู้แทนของตน ก็อยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ด้วย โดยมีรายงานว่าสมาชิกไม่ต่ำกว่า 26 คน ลาออกในช่วงไม่เดือนที่ผ่านมา บางคนเป็นเพราะไม่ต้องการเอ่ยคำสัตย์ปฏิญาณ และมีอีกหลายคนโดนจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ กฎหมายฉบับใหม่นี้จะให้อำนาจรัฐมนตรียุติธรรมของฮ่องกงดำเนินการกับนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูเหมือนละเมิดคำสัตย์ปฏิญาณ ตาม “รายการเชิงลบ” ที่บรรยายถึงพฤติการณ์ไม่รักชาติไว้อย่างกว้างๆ มีตั้งแต่การดูหมิ่นธงชาติ…

ฮ่องกงเอาจริง หาช่องสู้เฟกนิวส์

Loading

  นางแคร์รี แลม ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีนกล่าวในการแถลงข่าววันที่ 4 พ.ค.ว่ากำลังดำเนินการออกกฎหมายว่าด้วยข่าวลวง เพื่อจัดการกับข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อมูลที่สร้างความเกลียดชังและการโกหกภายใต้ทิศทางของรัฐบาลจีน ฮ่องกงบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับสมบูรณ์ในปี 2563 พร้อมยังผลักดันให้ผู้รักชาติได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในการบริหารฮ่องกง การยกเครื่องสถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ่องกง (RTHK) ครั้งใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร โดยแต่งตั้งข้าราชการใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชนถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลจะควบคุมสื่อในไม่ช้า และจะตามมาด้วยภาคส่วนอื่นเช่นการศึกษา โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลว่ารัฐบาลต่างๆ จัดการกับประเด็นนี้อย่างไร โดยยืนยันจะจัดการอย่างจริงจังเพราะข่าวลวงสร้างความเสียหายกับคนจำนวนมาก โดยยังไม่มีกรอบเวลาในการออกกฎหมาย.   ————————————————————————————————————————————– ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    / วันที่เผยแพร่  5 พ.ค.2564 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2084413?utm_source=PANORAMA_TOPIC