ต้องยกเครื่องระบบ รปภ.

Loading

    เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนได้เห็นภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ และวิดิโอผ่านสื่อสังคมที่เผยแพร่หลังจากนั้น ถึงเหตุการณ์วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี เสด็จไปวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ในวันที่ 28 ธันวาคม 2584 เมื่อหญิงผู้หนึ่งวิ่งจากคนนั้นยืนอยู่ห่างจากสองพระองค์เพียงไม่กี่ก้าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะวิ่งตามหลังหญิงดังกล่าวมาคุมตัวออกไป   เมื่อนำวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก สรุปได้ว่า (1) หญิงดังกล่าววิ่งจากจุดที่นั่งอยู่บนบาทวิถีไปถึงรถพระที่นั่ง ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 วินาที (2) หญิงดังกล่าวไปยืนอยู่ห่างจากทั้งสองพระองค์เพียง ไม่เกิน 5 ก้าว (3) ไม่มีเจ้าหน้าที่สกัดกั้นก่อนที่นางจะถึงรถพระที่นั่ง แต่เจ้าหน้าที่วิ่งตามหลังนำตัวนางออกไปเมื่อนางไปยืนอยู่หน้าพระพักตร์แล้ว   ในภาพข่าวโทรทัศน์และวิดิโอ พบว่า จากบริเวณที่ประชาชนนั่งเฝ้าจนถึงที่จอดรถพระที่นั่ง เป็นลานโล่ง หากมีใครวิ่งลงไปในลานโล่งเช่นนั้น ถือว่าผิดปกติแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องสกัดกั้นภายในเสี้ยววินาที แต่กรณีนี้ ถือว่า เจ้าหน้าที่มีปฏิกิริยาช้ามาก อาจเป็นเพราะไม่เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาก่อน หรือยังงงอยู่ กว่าจะตั้งสติไปคว้าตัวหญิงคนนี้ออกมาได้ เธอก็ไปยืนอยู่หน้าพระพักตร์เรียบร้อยแล้ว   หลายคนตั้งคำถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนหันหน้ามายังประชาชนที่รอเฝ้า เพื่อตรวจดูสิ่งผิดปกติ เห็นผู้หญิงคนนี้ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหรือไม่ หรือมัวแต่ตกตะลึงอยู่   เจ้าหน้าที่ได้แถลงในภายหลังว่า หลังเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรทัศน์วงจรปิด พบว่า…

ฟินแลนด์อ้างถูกรัฐต่างชาติจ้องจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์

Loading

  สำนักงานความมั่นคงและข่าวกรองของฟินแลนด์ (Supo) เปิดเผยรายงานด้านความมั่นคงในภาพรวมของประเทศ (National Security Overview) ที่ชี้ให้เห็นว่าฟินแลนด์ตกเป็นเป้าหมายการจารกรรมทางไซเบอร์ที่มีรัฐบาลต่างประเทศหนุนหลังอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะยังดำเนินต่อไปอีกนาน Supo ระบุว่ารัฐบาลของประเทศเผด็จการหลายประเทศอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการจารกรรมทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น โดยมีเป้าประสงค์เพื่อเสริมนโยบายของตนและพยายามครอบงำผู้กำหนดนโยบายของฟินแลนด์ โดยได้มีการพุ่งเป้าโจมตีต่อบริษัทห้างร้านและสถาบันการศึกษาด้วย ในห้วงหลายปีที่ผ่านมาฟินแลนด์ประสบภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างหนักหน่วง ตั้งแต่การรีดไถเงินบริษัทเอกชนด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ไปจนถึงการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคสำคัญ อย่างระบบการประปาและสาธารณสุข ที่มา yle   —————————————————————————————————————————————– ที่มา : Beartai     / วันที่เผยแพร่  28 ก.ย.2564 Link : https://www.beartai.com/news/itnews/795888

งามไส้! เครื่องบินเอธิโอเปียไปผิดที่ ลงจอดท่าอากาศยานกำลังก่อสร้าง

Loading

    เครื่องบินลำหนึ่งของเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ลงจอดผิด ณ สนามบินแห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่เปิดใช้งานและยังคงอยู่ระหว่างการก่อสร้างในแซมเบีย จากการเปิดเผยของสายการบินเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เคราะห์ดีที่สามารถลงจอดอย่างปลอดภัย เที่ยวบินซึ่งบริการขนส่งสินค้า เดินทางจากกรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย โดยมีจุดหมายปลายทางที่ท่าอากาศยานซิมง เอ็มวานซา คัปเวปเว ในเมืองเอ็นโดลา ประเทศแซมเบีย แต่เมื่อวันอาทิตย์ (4 เม.ย.) มันกลับไปลงจอดที่สนามบินนานาชาติคอปเปอร์เบลต์ ซึ่งยังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ และอยู่ห่างออกไปราวๆ 21 กิโลเมตร คำแถลงของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ระบุว่า เที่ยวบิน ET 3891 ลงจอดอย่างปลอดภัยในสนามบินใหม่ ปลัดกระทรวงคมนาคมของแซมเบีย เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า นักบินลงจอด ณ ท่าอากาศยานที่ยังไม่เปิดใช้งาน สืบเนื่องจากความผิดพลาด “ตอนที่เขากำลังลงจอด เขาสื่อสารกับเรดาร์ แต่ทางเรดาร์บอกกับเขาว่า เราไม่เห็นคุณ” ปลัดกระทรวงคมนาคมระบุ “ดังนั้น เขาจึงใช้สายตามองแทน เขาไม่มีหอควบคุมและลงจอด ณ สนามบินที่ยังคงอยู่ระหว่างก่อสร้าง” สายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ระบุว่า “แม้รายละเอียดของเหตุการณ์ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนภายใต้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่การบินของแซมเบีย แต่ข้อเท็จจริงคือ ไม่มี…

ข้อมูลเงินเดือนพนักงาน Facebook รั่ว หลังโจรทุบรถพนักงาน ขโมยฮาร์ดไดรฟ์

Loading

โดย ปณชัย อารีเพิ่มพร ตลอดปีที่ผ่านมา ถึง Facebook จะพยายามระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้รั่วไหล และได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาก็พร้อมจะเผชิญกับคราวเคราะห์ตลอด ล่าสุดมีรายงานว่า ฮาร์ดไดรฟ์ของพนักงานรายหนึ่งถูกขโมยไปจากรถยนต์ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ข้อมูลเงินเดือนและข้อมูลบัญชีธนาคารพนักงานหลายหมื่นคนถูกโจรกรรมไปด้วย รายงานจากเว็บไซต์ Bloomberg ระบุว่า ฮาร์ดไดรฟ์ดังกล่าวที่ถูกขโมยไปไม่ได้เข้ารหัสไว้ ส่งผลให้ข้อมูลชื่อพนักงาน, เลขบัญชีธนาคาร, ข้อมูลเงินเดือน, โบนัส รวมถึงเลขรหัส 4 หลักสุดท้ายของประกันสังคมพนักงาน สามารถเข้าถึงได้โดยอิสระ (ข้อมูลทั้งหมดนับจนถึงปี 2018) ทั้งนี้ Facebook ได้ดำเนินการแจ้งพนักงานในสหรัฐฯ ที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบกว่า 29,000 คน ผ่านอีเมลของบริษัทแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี โฆษกของ Facebook ยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดในฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกโจรกรรมไปไม่มีข้อมูลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด “เราได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการสอบสวนรถของพนักงานของเราที่ถูกทุบและโจรกรรมกระเป๋า ซึ่งบรรจุข้อมูลเงินเดือนพนักงานเอาไว้ เราไม่พบหลักฐานใดๆ ที่เชื่อมโยงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมุ่งเป้าไปที่การขโมยข้อมูลพนักงาน และเชื่อว่า มันเป็นแค่การโจรกรรมทั่วไปเท่านั้น” โฆษก Facebook กล่าว นอกจากนี้ Facebook ยังบอกอีกว่า พนักงานรายดังกล่าวไม่ควรจะนำฮาร์ดไดรฟ์ที่บันทึกข้อมูลสำคัญออกจากบริษัท…