อินโดฯ “จำกัด” การให้ชาวต่างชาติท่องเที่ยวในปาปัว

Loading

รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศมาตรการ “ควบคุม” การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางไปยังภูมิภาคปาปัว ที่อยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ซึ่งกำลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบครั้งใหม่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ว่านายวิรันโต รัฐมนตรีด้านการประสานงานกิจการการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันอังคาร ว่ารัฐบาลจาการ์ตาได้ออกมาตรการ “จำกัด” การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากประสงค์เข้าไปยังภูมิภาคปาปัวที่อยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเป็นหนึ่งในชายหาดสวยงามที่สุดของอินโดนีเซีย และระบบนิเวศที่ยังสมบูรณ์อยู่มาก ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวไม่ใช่การ “ห้ามอย่างเด็ดขาด” หรือไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าสู่พื้นที่ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาคำร้องเป็นรายกรณี โดยประเมินจากช่วงเวลาเป็นสำคัญ และเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม วิรันโตปฏิเสธกล่าวว่า มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคปาปัวครอบคลุมผู้สื่อข่าวชาวต่างชาติด้วยหรือไม่ จากการที่ภูมิภาคแห่งนี้ซึ่งแบ่งเป็นจังหวัดปาปัวและปาปัวตะวันตก เผชิญกับเหตุรุนแรงตั้งแต่วันชาติอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา และฝ่ายความมั่นคงเสริมกำลังทหารและตำรวจเข้าสู่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง “เพื่อจัดการและฟื้นฟูความสงบ” พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลจาการ์ตาไม่มีนโยบายเจรจากับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในปาปัว เรื่อง “ความเป็นอิสระ” ของภูมิภาค สำหรับการออกมาตรการควบคุมการเข้าสู่ภูมิภาคปาปัวของอินโดนีเซีย เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังมีรายงานว่ารัฐบาลจาการ์ตาขับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย 4 คน ซึ่งเดินทางเข้าสู่พื้นที่ “โดยไม่ได้รับอนุญาต” นอกจากนั้น เมื่อต้นสัปดาห์นี้ สำนักงานตำรวจจังหวัดปาปัวประกาศห้ามการเดินขบวนประท้วง และจัดกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบ ซึ่งครอบคลุมถึงการปราศรัยแสดงความคิดเห็นในสถานที่สาธารณะ ซึ่งอาจนำไปสู่การปลุกระดมแนวคิดแบ่งแยกดินแดนให้รุนแรงมากขึ้น เครดิตภาพ…

การบินไทยไม่ให้นำ MacBook Pro 15 นิ้ว ที่อยู่ในขั้นเรียกสินค้าคืนขึ้นเครื่อง เสี่ยงเกิดแบตร้อนจนเกิดอัคคีภัย

Loading

การบินไทยออกประกาศแจ้งเตือนคนเดินทาง ห้ามนำ MacBook Pro ขนาด 15 นิ้ว ที่จำหน่ายระหว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ซึ่งอยู่ในโปรแกรมการเรียกคืนแบตเตอรี่ของผู้ผลิตขึ้นเครื่องบิน ทั้งในสัมภาระติดตัวหรือสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อให้สอดคล้องตามข้อกำหนดของ EASA (องค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป) ตามที่ EASA ได้ออกประกาศให้สายการบินที่ทำการบินเข้าและออกจากสหภาพยุโรปปฏิบัติตาม Safety Information Bulletin SIB 2017-01 เรื่องมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการส่งหรือนำแบตเตอรี่ลิเธียม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบ โดยแบตเตอรี่นั้นมีการชำรุด มีข้อบกพร่อง หรือถูกเรียกคืนจากผู้ผลิต ซึ่ง Mac Book Pro 15 นิ้ว เข้าข่ายเกณฑ์ดังกล่าว ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบสถานะ Mac Book ของตัวเองได้ที่ support.apple.com ซึ่งทางแอปเปิลระบุว่า MacBook Pro 15 นิ้วรุ่นเก่าบางเครื่องอาจเกิดภาวะร้อนเกินไปและเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ———————————————————– ที่มา : blognone / 21 August 2019 Link…

12 ข้อ Checklist ออฟฟิศของคุณพร้อมแค่ไหน ยามเกิดอัคคีภัย

Loading

เมื่อพูดถึงอัคคีภัยหรือไฟไหม้ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดอยู่แล้วล่ะ เป็นอันตรายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่เรื่องแบบนี้การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะ โดยเฉพาะในสถานที่ที่เราต่างต้องไปทำงานกันเป็นประจำอย่างออฟฟิศ The MATTER ได้รวบรวมสิ่งจำเป็นในการป้องกันและรับมือกับปัญหาอัคคีภัย มาทำเป็น checklist ง่ายๆ ให้ลองไปสำรวจดูกัน ว่าจากในลิสต์นี้ ออฟฟิศของคุณมีการเตรียมพร้อมในข้อไหนบ้าง? บันได / เส้นทางหนีไฟ: ต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง ประตูและบันไดทนต่อไฟ ประตูสามารถเปิดออกได้สะดวกตลอดเวลา และลำเลียงคนออกจากอาคารได้ภายใน 1 ชั่วโมง แผนผังอาคารแต่ละชั้น: ติดตั้งไว้หน้าลิฟต์แต่ละชั้น หรือห้องโถง ให้เห็นได้อย่างชัดเจน เครื่องมือดับเพลิงแบบมือถือ: เช่น ถังโฟมเคมี ตามชนิดและขนาดที่กำหนด ให้มี 1 เครื่องต่อพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ทุกระยะไม่เกิน 45 เมตร แต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 1 เครื่อง ต้องสามารถหยิบไปใช้งานได้สะดวก ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ (อัตโนมัติ / กดมือ): ต้องมีไว้ทุกชั้น เพื่อส่งเสียงหรือสัญญาณให้คนในอาคารรับรู้อย่างทั่วถึง ระบบไฟส่องสว่างสำรอง: เพื่อให้มีแสงสว่างมองเห็นช่องทางเดินได้ขณะไฟไหม้ หรือไฟฟ้าดับ ป้ายบอกทางหนีไฟ: ขนาดของตัวหนังสือสูงอย่างน้อย 15…

ตร.สนามบินโรมาเนียล็อคตัว-ลากผู้โดยสารอียิปต์ลงจากเครื่อง

Loading

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินบูคาเรสต์ ลากผู้โดยสารอียิปต์ลงจากเครื่อง ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยสารทั้งลำ เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นที่สนามบินบูคาเรสต์ บนเครื่องบินสายการบิน ทารอม   ของโรมาเนีย ที่เดินทางจากปารีส แวะจอดสนามบิน Henri Coandă เมืองหลวงโรมาเนีย ก่อนมุ่งหน้ากรุงไคโร  ประเทศอียิปต์ คลิปแสดงให้เห็นนาทีการทะเลาะวุ่นวาย ระหว่างผู้โดยสารชาวอียิปต์ กับลูกเรือ ที่พยายามขัดขืนการจับกุม ต่อมา ตำรวจสนามบินเข้าแทรกแซง ใช้กำลังบังคับผู้โดยสารคนนั้นลงจากเครื่องแบบถูลู่ถูกังและสวมกุญแจมือ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของภรรยาและลูกชาย และเสียงโหวกเหวกของผู้โดยสารบนเครื่อง ที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ Viorica Hagagg ผู้โดยสารที่แชร์เรื่องนี้บนเฟซบุ๊ก เล่าเหตุการณ์ว่า สตรีคนหนึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ นั่งติดกับทางออกฉุกเฉิน แต่ไม่เข้าใจระเบียบทางออกฉุกเฉิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงให้ครอบครัวนี้ย้ายไปด้านหลัง ไม่กี่นาทีหลังย้ายไปแล้ว  ตำรวจขอให้สตรีคนดังกล่าวมอบหนังสือเดินทาง และสั่งให้ลงจากเครื่องบินทั้งครอบครัวตามคำร้องขอของกัปตัน แต่ผู้โดยสารหญิงท่านนั้นและครอบครัวยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการให้ทำอะไร ผู้โดยสารคนอื่น ขอให้รปภ.หรือลูกเรือจัดหาล่าม แต่ตำรวจบอกว่าไม่จำเป็น  และแสดงท่าที่ไม่เป็นมิตรตลอดเวลา คลิปแสดงให้เห็นหน่วยแพทย์รุดดูอาการของภรรยา หลังจากสามีถูกลากลงจากเครื่อง มีรายงานว่าเธอเป็นเบาหวานและเป็นลม ต้องได้รับยาปรับระดับน้ำตาล ต่อมา ลูกเรือแจ้งผู้โดยสารว่า สตรีคนดังกล่าวถ่มน้ำลายใส่พนักงานต้อนรับ สายการบินเข้าไปตอบโพสต์ของ Viorica Hagagg บนเฟซบุ๊กว่า เสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาจเพิกเฉยหรือยอมให้ผู้โดยสาร ละเมิดกฎและคุกคามความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่น ลูกเรือปฏิบัติตามขั้นตอนสำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้ เมื่อผู้โดยสารไม่ยอมย้ายที่นั่ง จึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ…

หวั่นภัยก่อการร้าย บริติชแอร์เวย์ระงับบินไคโร

Loading

สายการบินบริติชแอร์เวย์ของอังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินไปกรุงไคโรของอียิปต์ 7 วันเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ ภายหลังทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ขณะรัฐบาลอังกฤษเตือนมีความเสี่ยงสูงจากภัยก่อการร้ายในอียิปต์ รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคมกล่าวว่า สายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนีก็ระงับเที่ยวบินจากนครมิวนิกและแฟรงก์เฟิร์ตไปยังกรุงไคโรเมื่อวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม โดยคำแถลงไม่ได้ระบุเหตุผล แต่สายการบินนี้กลับมาให้บริการตามปรกติแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนบริติชแอร์เวย์ (บีเอ) ประกาศระงับการบินไปยังกรุงไคโรนาน 7 วัน โดยแถลงการณ์อ้างเหตุผลว่า สายการบินทบทวนการจัดการด้านความปลอดภัยของสนามบินทั่วโลกที่เราให้บริการทุกแห่งอย่างสม่ำเสมอ และได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินไปกรุงไคโร เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ระหว่างรอการประเมินเพิ่มเติม ว่ามีความปลอดภัยสำหรับการบินแล้ว “ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของลูกค้าและลูกเรือของเราเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอันดับแรกอยู่เสมอ และเราจะไม่ทำการบินจนกว่าจะปลอดภัย” แถลงการณ์กล่าว ด้านกระทรวงการบินพลเรือนของอียิปต์กล่าวว่า กระทรวงกำลังทำงานร่วมกับสถานทูตอังกฤษประจำกรุงไคโร และตัวแทนของบีเอในอียิปต์ และได้ส่งเที่ยวบินพิเศษของอียิปต์แอร์ไปยังกรุงลอนดอนทุกวันเพื่อรับผู้โดยสารที่ตกค้าง ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษมีคำแนะนำถึงชาวอังกฤษที่กำลังจะเดินทางไปอียิปต์ โดยเตือนว่ามีความเสี่ยงสูงของการก่อการร้ายโจมตีภาคการบิน และได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับเที่ยวบินจากอังกฤษไปยังอียิปต์แล้ว ขอให้พลเมืองอังกฤษให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของสนามบินต่างๆ อย่างเต็มที่ รัฐบาลอังกฤษแนะนำพลเมืองอังกฤษให้หลีกเลี่ยงการเดินทางทางอากาศทั้งขาเข้าและขาออกจากเมืองชาร์มเอลเชค เมืองพักตากอากาศของอียิปต์บนคาบสมุทรไซนาย หากไม่มีกิจธุระจำเป็น คำเตือนอ้างถึงความเป็นไปได้สูงที่ผู้ก่อการร้ายจะพยายามก่อเหตุในอียิปต์ แม้การโจมตีส่วนใหญ่จะเกิดในเขตไซนายเหนือ แต่ยังคงมีความเสี่ยงก่อการร้ายทั่วประเทศอียิปต์ รวมถึงในกรุงไคโร. —————————————————————– ที่มา : ไทยโพสต์ / 21 กรกฎาคม 2562 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/41555