แคสเปอร์สกี้ แนะ 7 ข้อ ใช้ Instagram อย่างปลอดภัย

Loading

  เปิด 7 ข้อใช้ อินสตาแกรม (Instagram) หรือ ไอจี อย่างปลอดภัย   ในวาระครบรอบอินสตาแกรม 11 ปี จากบริการแชร์รูปภาพ กลายเป็นเครือข่ายโซเชียลที่ได้รับความนิยมไปทั่่วโลก คนใช้มากกว่า 1 พันล้านคน 6 ตุลาคม อินสตาแกรม (Instagram) ฉลองครบรอบ 11 ปี Instagram เริ่มต้นจากบริการแชร์รูปภาพ กลายเป็นเครือข่ายโซเชียลที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมากที่สุดเครือข่ายหนึ่ง ข้อมูลของ eMarketer ระบุว่า Instagram มีผู้ใช้มากถึง 1,074 พันล้านคนทั่วโลกในปี 2564 โดยปัจจุบันผู้ใช้สามารถเข้าดูร้านค้าออนไลน์ จองทำเล็บ พูดคุยกับผู้คนที่มีแนวคิดคล้ายกัน และพบคู่รัก ในแต่ละวันมีผู้ใช้ Instagram ทั่วโลกจำนวนมาก การใช้ Instagram เพื่อความพึงพอใจและประโยชน์ต่างๆ อาจพบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้เชี่ยวชาญจาก แคสเปอร์สกี้ ขอเน้นย้ำเคล็ดลับสำคัญ 7 ประการที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนบุคคลและบัญชี Instagram ของคุณ ดังนี้…

อย่างโหด! คนร้ายใช้ธนูยิงโจมตีผู้คนในนอร์เวย์ ตาย 5 ราย บาดเจ็บ 2 คน

Loading

  ชายคนหนึ่งใช้ธนูเป็นอาวุธ ไล่ยิงผู้คนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 2 คน ในเหตุโจมตีในเมืองคองส์เบิร์ก ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันพุธ (13 ต.ค.) เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนว่ามันเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ ตำรวจได้รับแจ้งครั้งแรกเกี่ยวกับเหตุโจมตีในเมืองคองสเบิร์ก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงออสโล ตอนประมาณ 18.13 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 23.13 น.) และผู้บัญชาการตำรวจเปิดเผยว่า สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วและดูเหมือนจะลงมือเพียงลำพัง เวลานี้ผู้ต้องสงสัยถูกพาตัวไปยังสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเมืองดรัมเมน แต่ยังไม่มีการสอบปากคำเขา โฆษกตำรวจเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จะสืบสวนว่ามันเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรีเออร์นา โซลเบิร์ก ระบุว่า มันเป็นเหตุการณ์ที่สยองขวัญ “ดิฉันรู้ว่าหลายคนคงกลัว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นก็คือ ตอนนี้ตำรวจควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว” เธอกล่าวระหว่างแถลงข่าว ส่วนกระทรวงยุติธรรมระบุบนทวิตเตอร์ว่า รัฐมนตรี โมนิกา มีแลนด์ ได้รับรายงานแล้วและกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด     ว่ากันว่าคนร้ายลงมือโจมตีภายในซูเปอร์มาร์เกต “คูป เอ็กซ์ตรา” ทางตะวันตกของเมืองคองส์เบิร์ก และหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเวลางาน ซึ่งอยู่ภายในห้างตอนเกิดเหตุ ในเวลาต่อมา โฆษกของคูป เอ็กซ์ตรา ยืนยันว่ามี “เหตุการณ์ร้ายแรง” เกิดขึ้นที่ห้างจริง…

เที่ยวบินนิวยอร์กอพยพวุ่นหลังสงสัยมีระเบิด

Loading

  เที่ยวบินโดยสาร “รีพับลิก แอร์ไลน์ส” ต้องลงจอดฉุกเฉิน และเร่งอพยพคนลงจากเครื่อง หลังพบผู้โดยสารมีพฤติกรรมน่าสงสัย เหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินของสนามบินลากวาเดีย (LaGuardia Airport) ในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ควบคุมตัวผู้โดยสารชายคนหนึ่งไว้บนลานบิน หลังจากที่เครื่องลงจอดฉุกเฉิน ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 80 คน อพยพลงจากเครื่องอย่างปลอดภัย ผู้โดยสารหญิงที่นั่งติดกันเล่าว่า ตนตัดสินใจแจ้งพนักงาน หลังพบว่าชายคนนี้มีพฤติกรรมน่าสงสัย โดยระหว่างที่เครื่องใกล้จะลงจอด เขานั่งมองรูปภาพที่ดูคล้ายกับระเบิดแสวงเครื่อง และมีท่าทีร้อนรนอยู่ไม่สุข     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ FAA ระบุว่า เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบินโดยสารสายการบิน “รีพับลิก แอร์ไลน์ส” เที่ยวบินที่ 4817 ออกเดินทางจากเมืองอินเดียนาโพลิส สู่จุดหมายปลายทางในนครนิวยอร์ก จากการตรวจสอบ ไม่พบวัตถุต้องสงสัยที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน และผู้โดยสารบนเครื่อง และหลังจากนำตัวไปสอบปากคำ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตัดสินใจปล่อยตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ   ————————————————————————————————————————————————- ที่มา : pptvhd36    / วันที่เผยแพร่  11 ต.ค.2564…

“สหรัฐ-ยูเค” เตือนพลเมืองระวังอันตรายโรงแรมคาบูล

Loading

  สหรัฐและสหราชอาณาจักรเตือนพลเมืองอยู่ให้ห่างจากของอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะโรงแรมดัง “เซเรนา” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเตือนพลเมืองที่พักอยู่ในโรงแรมเซเรนาหรือบริเวณใกล้เคียงควรออกไปทันที โดยอ้างถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงในบริเวณนั้น เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร (ยูเค) เพิ่มเติมคำเตือนการห้ามเดินทางไปอัฟกานิสถานระบุ “เนื่องจากความเสี่ยงเพิ่มขึ้นขอแนะนำให้ท่านอย่าพักในโรงแรม โดยเฉพาะในกรุงคาบูล (เช่น โรงแรมเซเรนา)” เซเรนาเป็นโรงแรมหรูยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติก่อนที่กรุงคาบูลจะตกอยู่ในเงื้อมมือของตาลีบันเมื่อ 8 สัปดาห์ก่อน และเคยตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มสุดโต่งถึง 2 ครั้ง คำประกาศจากทางการสหรัฐและยูเคเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่า ตนเองอยู่เบื้องหลังการระเบิดครั้งใหญ่ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองคุนดุซทางภาคเหนือของอัฟกานิสถานระหว่างการละหมาดเมื่อวันศุกร์ (8 ต.ค.) ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐถอนทหารออกไปในเดือน ส.ค.   —————————————————————————————————————————————————- ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ          / วันที่เผยแพร่  11 ต.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/965121

In Clip : ฮือฮา! แดนลอดช่องทดลองใช้โรโบคอป “หุ่นยนต์ตำรวจ” คอยตรวจการเตือนพวกละเมิดระยะห่างทางสังคม

Loading

  เอเอฟพี – หุ่นยนต์โรโบคอป “ซาเวียร์” คอยวิ่งตรวจการไปมาในสิงคโปร์เป็นโครงการนำร่องล่าสุดของแดนลอดช่องในการใช้หุ่นยนต์ตำรวจในการตรวจตราคนกระทำผิดไม่ว่าจะเป็นพวกสูบบุหรี่ในพื้นที่ไม่เหมาะสมหรือการละเมิดการเว้นระยะห่างทางสังคม สร้างความวิตกปัญหาความเป็นส่วนตัว   เอเอฟพีรายงานวันนี้(6 ต.ค)ว่า เครื่องมือสอดแนมล่าสุดของรัฐบาลสิงคโปร์ที่กำลังทดลองใช้คือหุ่นยนต์ตำรวจหรือโรโบคอปที่เคลื่อนที่ด้วยล้อที่มีกล้องถึง 7 ตัวคอยส่งเสียงเตือนไปยังสาธารณะชนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทั้งหลาย ซึ่งพฤติกรรมที่ว่าได้แก่การสูบบุหรี่ในเขตหวงห้าม การจอดจักรยานอย่างไม่เหมาะสม และการละเมิดกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมอันเป็นมาตรการโควิด-19   โดยหนึ่งในโรโบคอปของสิงคโปร์ที่อยู่ในช่วงเริ่มทดลองงานคือ หุ่นยนต์โรโบคอปซาเวียร์(Xavier) ได้วิ่งไปยังบ้านการเคหะและหยุดลงตรงหน้ากลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังเล่นหมากรุกอยู่ โดยเสียงที่ออกมาจากโรโบคอปซาเวียร์มีใจความว่า “ได้โปรดเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นระยะ 1 เมตร และได้โปรดมีผู้ร่วมกลุ่มสูงสุดแค่ 5 คนเท่านั้น” ขณะเดียวกันพบว่ากล้องเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านบนคอยจับจ้องไปที่ผู้สูงอายุแดนลอดช่องเหล่านี้   รัฐบาลสิงคโปร์ได้ชื่อว่าถูกตำหนิจากการที่มักใช้มาตรการริดรอนสิทธิเสรีภาพพลเมืองของตนเองและพลเมืองสิงคโปร์มักจะอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวด และเริ่มที่จะอดรนทนไม่ได้จากการที่รัฐบาลสิงคโปร์เริ่มใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาใช้เพื่อบุกรุกสิทธิความเป็นส่วนตัวที่รวมไปถึงกล้องทีวีวงจรปิดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าจำนวนมากตามเสาไฟ   เอเอฟพีรายงานว่า ทั้งนี้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาสิงคโปร์ได้ทดลองใช้หุ่นยนต์ตำรวจ 2 ตัววิ่งตรวจการบ้านพักการเคะและศูนย์การค้าแห่งหนึ่งเป็นเวลา 3 สัปดาห์   ด้านแฟรนนี เทียว( Frannie Teo)ผู้ช่วยนักวิจัยวัย 34 ปีกำลังเดินอยู่ในห้างระหว่างที่หุ่นยนต์ตำรวจกำลังออกลาดตระเวน และได้แสดงความเห็นออกมาว่า “มันทำให้ดิฉันคิดไปถึงหุ่นโรโบคอป” และเสริมต่อว่า “มันทำให้ต้องตระหนักถึงโลกในอนาคตที่ไม่น่าปราถนาของพวกหุ่นยนต์…ซึ่งดิฉันมักจะลังเลไม่แน่ใจเกี่ยวกับไอเดียพวกนี้”   ด้านลี ยี่ ถิง( Lee Yi…

มอสโกขู่ปิดสถานทูตสหรัฐ ถ้าไบเดนขับนักการทูตรัสเซีย 300 คน

Loading

  รัฐบาลมอสโกขู่ปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ หากกระแสเรียกร้องของวุฒิสมาชิก ให้มีการเนรเทศนักการทูตรัสเซียมากถึง 300 คน “เป็นความจริง” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียออก แถลงการณ์ เมื่อวันพุธ มีเนื้อหาเพียงว่า “แม้ยังเป็นเพียงการเสนอแนะ” แต่หากการเนรเทศนักการทูตของรัสเซียจำนวน 300 คนออกจากสหรัฐ “เป็นความจริง” มาตรการเดียวที่รัฐบาลมอสโกจะตอบโต้ คือการปิด “สำนักงานการทูตอีกหลายแห่งของสหรัฐ” ในรัสเซีย ซึ่งอาจรวมถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลมอสโกเกิดขึ้น หลังวุฒิสมาชิกสหรัฐกลุ่มหนึ่งทั้งจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ร่วมกันส่งหนังสือถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ระบุว่า ปัจจุบันในสหรัฐมีนักการทูตรัสเซีย “มากกว่า 400 คน” ขณะที่ในรัสเซียมีนักการทูตสหรัฐประจำการ “ประมาณ 100 คน” ซึ่งเป็นเรื่องที่ “ไม่ยุติธรรม” หากไบเดนยังไม่มีแนวทางจัดการที่มีประสิทธิภาพ วุฒิสมาชิกกลุ่มนี้เสนอให้มีการเนรเทศนักการทูตรัสเซีย “เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม”   US senators (Democrats and Republicans) calling on Biden…