สื่อเผย! รถไฟหุ้มเกราะของ “ผู้นำโสมแดง” เดินทางถึงจีนแล้ว

Loading

เอเอฟพี – รถไฟหุ้มเกราะของผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเดินทางถึงจีนเมื่อค่ำวันนี้ (23) ก่อนการประชุมซัมมิทของเขากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวียดนาม อ้างจากรายงานข่าว รถไฟขบวนดังกล่าวเดินทางถึงเมืองชายแดนตานตงหลังเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น อ้างจากสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้และสำนักข่าวเฉพาะทางเอ็นเคนิวส์ ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าคิมอยู่บนรถไฟขบวนดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม การข้ามเข้าสู่จีนของรถไฟขบวนนี้เกิดขึ้นภายหลังการคาดเดานานหลายวันเกี่ยวกับแผนการเดินทางของคิม ซึ่งยังคงถูกปิดเป็นความลับ ในขณะที่ทีมของเขารวมตัวกันในกรุงฮานอยก่อนการพูดคุยที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันพุธหน้า (27) และวันพฤหัสบดี (28) การรักษาความมั่นคงมีความเข้มงวดก่อนการมาถึงของรถไฟขบวนนี้ และตำรวจทำการปิดล้อมพื้นที่ริมแม่น้ำห่างจากสะพาน 100 เมตรด้วยเทปและรั้วเหล็ก และกันผู้สื่อข่าวเอเอฟพีคนหนึ่งออกนอกพื้นที่ แขกที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่มองเห็นสะพานทางรถไฟจากเกาหลีเหนือถูกขอให้ออกเมื่อวานนี้ (22) และได้รับแจ้งว่า โรงแรมปิดในวันนี้ (23) เนื่องจากมีการปรับปรุงฉับพลัน “รถไฟขบวนนี้มีความยาวและข้ามสะพานช้ากว่ารถไฟท่องเที่ยว แต่มันเป็นของเขาอย่างแน่นอน มีตำรวจวางกำลังจำนวนมาก” แหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ บอกกับเอ็นเคนิวส์ แหล่งข่าวระบุว่า หน้าต่างบนรถไฟถูกปิดมืดและมีเพียงไฟหน้าที่เปิดขณะมันข้ามสะพาน ก่อนหน้านี้ คิมเคยเดินทางด้วยรถไฟหุ้มเกราะไปยังปักกิ่ง หากเขาอยู่บนรถไฟ เขาอาจหยุดในเมืองหลวงของจีนเพื่อพบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก่อนการพบปะครั้งที่สองกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเวียดนาม หรือเขาอาจค่อยกลับมาพบกับสีระหว่างขากลับเพื่อเล่ารายละเอียดให้พันธมิตรหลักเพียงหนึ่งเดียวของประเทศเขาฟัง การประชุมซัมมิทที่ฮานอยเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์และคิมพบกันในสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน และจัดทำข้อตกลงว่าด้วยการปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่มีเนื้อหาคลุมเครือ แต่ขาดความคืบหน้าหลังจากนั้น…

คอมมานโดสังหารสลัดอากาศจี้เครื่องบินบังกลาเทศ

Loading

หน่วยคอมมานโดของบังกลาเทศบุกจู่โจมเครื่องบินโดยสารพร้อมสังหารสลัดอากาศซึ่งพยายามจี้เครื่องบินไปยังดูไบ สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือได้อย่างปลอดภัย สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองจิตตะกองประเทศบังกลาเทศเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ว่า พล.ต.โมติเออร์ ราห์มาน โฆษกกองทัพบกบังกลาเทศแถลงว่า หน่วยคอมมานโดได้บุกจู่โจมขึ้นไปบนเครื่องบินโดยสารของสายการบินพิมานของบังกลาเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังลงจอดที่สนามบินเมืองจิตตะกองทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และยิงต่อสู้กับผู้ต้องสงสัยเป็นสลัดอากาศ เป็นชายชาวบังกลาเทศอายุราว 25 ปี สามารถช่วยเหลือผู้โดยสาร 134 คนและลูกเรือ 14 คนของเที่ยวบินบีจี 147 จากเส้นทางบินระหว่างกรุงธากาเมืองหลวงของบังกลาเทศ แวะมารับผู้โดยสารเพิ่มเติมที่เมืองจิตตะกองก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ถูกสลัดอากาศจี้เครื่องบินลำดังกล่าว โฆษกกองทัพบกบังกลาเทศแถลงต่อไปว่า สำหรับสลัดอากาศผู้ก่อเหตุ ทราบแต่เพียงชื่อว่า มาฮาดี อายุราว 25-26 ปี ได้รับบาดเจ็บหลังถูกยิงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากการสอบถามหน่วยคอมมานโดแล้วพบว่า ได้สั่งให้สลัดอากาศยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่เขาปฏิเสธและแสดงท่าทีก้าวร้าวรุนแรงจึงถูกยิง ทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน 1 กระบอกในตัวเขา แต่ไม่พบอย่างอื่น กำลังทหารบก ทหารเรือและตำรวจได้ปิดล้อมสนามบินเอาไว้หลังทราบว่ามีการจี้เครื่องบินโดยสารมาลงที่สนามบินเมืองจิตตะกอง ซึ่งเครื่องบินถูกจี้หลังบินขึ้นมาได้ 10 นาทีจากสนามบินกรุงธากา โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงไปสองนัด ทั้งนี้จากการเปิดเผยของผู้โดยสารคนหนึ่ง พล.อ.ต.โมฟิด นายทหารอากาศระดับสูงของบังกลาเทศเปิดเผยว่า เขาได้ติดต่อพูดคุยต่อรองกับคนร้ายทางโทรศัพท์ เพื่อทำให้คนร้ายพะวงสับสนวุ่นวายขณะที่หน่วยคอมมานโดได้บุกขึ้นไป ซึ่งข้อเรียกร้องของคนร้ายคือ ขอพบกับนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา…

เวียดนามคุมเข้มความปลอดภัยรอบสถานีรถไฟก่อนผู้นำโสมแดงเยือน

Loading

รอยเตอร์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟติดชายแดนจีน ที่คาดว่าผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะเดินทางด้วยรถไฟมายังเวียดนามในสัปดาห์หน้า ก่อนการประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ  เวียดนามกำลังเตรียมการเพื่อรับการมาถึงของผู้นำโสมแดงที่เดินทางด้วยรถไฟ เพื่อร่วมการประชุมซัมมิตในวันที่ 27-28 ก.พ. ในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ ตามการระบุของแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในแผนการเดินทางและการรักษาความปลอดภัยรถไฟของผู้นำคิมจะจอดที่สถานีโด่งดัง (Dong Dang) บริเวณชายแดน และเดินทางต่อด้วยรถยนต์มายังกรุงฮานอย เป็นระยะทางราว 170 กิโลเมตร แหล่งข่าวระบุ แหล่งข่าวของรอยเตอร์ยังรายงานว่าบริเวณสถานีรถไฟโด่งดังมีคนงานก่อสร้างเข้าจัดระเบียบทำความสะอาดในวันนี้ (21) นอกจากนั้นยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าว โดยช่างภาพของรอยเตอร์ถูกเจ้าหน้าที่ 2 นาย เข้าขัดขวางไม่ให้บันทึกภาพและขอตรวจดูบัตรประชาชน กระถางดอกไม้วางเรียงในสถานีที่ดูเหมือนว่าเพิ่งได้รับการทำความสะอาดมาเมื่อไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการประชาชนในท้องถิ่นกล่าวกับรอยเตอร์ว่าเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดมีคำสั่งให้จัดระเบียบสถานีให้เรียบร้อย “เราได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อมสำหรับงานสำคัญที่อาจเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟ” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าว  รถไฟ 2 ขบวนที่ส่วนใหญ่บรรทุกสินค้าวิ่งผ่านสถานีนี้ทุกวันทั้งเที่ยวไปและกลับจากจีน แม้เวียดนามและจีนจะมีช่วงกว้างของรางรถไฟต่างกัน แต่ในเส้นทางมุ่งไปยังกรุงฮานอยจากชายแดนสามารถรองรับรถไฟจีนได้ อย่างไรก็ตาม คิม จอง อึน มักเดินทางด้วยรถไฟหุ้มเกราะน้ำหนักมากของตัวเอง ที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับเครือข่ายรางรถไฟสมัยอาณานิคมที่ล้าสมัยของเวียดนาม และกระทรวงคมนาคมเวียดนามระบุว่าในปีนี้มีอุบัติเหตุรถไฟตกรางในประเทศแล้ว 4 ครั้ง. ———————————————————— ที่มา : MGR Online / 21 กุมภาพันธ์ 2562…

อังกฤษจัดเซฟต์เฮาส์ให้“ควีนเอลิซาเบธ”รับจลาจลจากเบร็กซิท

Loading

ในฐานะองค์ประมุขประเทศ สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงวางพระองค์เป็นกลางในทางการเมือง และมักไม่แสดงความคิดเห็นส่วนพระองค์ในประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม สื่อชั้นนำอังกฤษสองแห่ง เผยแผนฉุกเฉินของรัฐบาล หากเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศจากกรณีเบร็กซิทไร้ข้อตกลงในเดือนหน้า ด้วยการประกาศใช้แผนฉุกเฉินช่วงสงครามเย็นอพยพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 ตลอดจนเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ให้แปรพระราชฐานไปประทับยังเซฟเฮาส์นอกกรุงลอนดอน “แผนอพยพฉุกเฉินนี้ถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น แต่ตอนนี้ได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่หากเกิดความไม่สงบ หรือเกิดจลาจลในประเทศจากกรณีของเบร็กซิทที่ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้”ซันเดย์ไทม์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งบริหารจัดการเกี่ยวกับปัญหาละเอียดอ่อน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะ เมล สื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังอีกฉบับของอังกฤษ รายงานตรงกันว่า รัฐบาลมีแผนที่จะให้บรรดาเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 แปรพระราชฐานไปประทับที่อื่นเช่นกัน เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2แห่งสหราชอาณาจักร มีพระราชดำรัสเรียกร้องให้ประชาชนแสวงหาความเห็นพ้องต้องกันที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และคารพ ความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งบรรดาผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่าพระราชดำรัสครั้งนี้ สื่อถึงประเด็นร้อนของประเทศคือการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (เบร็กซิท) ซึ่ง ส.ส.จะต้องลงมติในข้อตกลงเบร็กซิทของนายกรัฐมนตรีเทรีซา เมย์ ทั้งนี้ ในฐานะองค์ประมุข สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงวางพระองค์เป็นกลางในทางการเมือง และมักไม่แสดงความคิดเห็นส่วนพระองค์ในประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม แต่พระราชดำรัสครั้งล่าสุดในงานฉลองครบรอบ 100 ปีขององค์กรสตรีซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก สมเด็จพระราชินีนาถฯ ตรัสว่าการยึดถือความอดทนอดกลั้น มิตรภาพ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และการคำนึงถึงความต้องการของผู้อื่น ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต —————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / 4 กุมภาพันธ์…