ยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ห้ามผู้โดยสารนำนกยูงขึ้นเครื่องบิน

Loading

  สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ ปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งนำนกยูงที่อ้างว่าเป็น สัตว์เลี้ยงเพื่อการบำบัดปลอบประโลมใจและสนับสนุนทางอารมณ์ (Emotional Support Animal) ติดตัวเข้าไปในห้องโดยสารของเครื่องบินด้วย แม้หญิงคนดังกล่าวจะเสนอซื้อตั๋วโดยสารให้กับนกยูงของตนต่างหากก็ตาม เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนูอาร์ก (Newark) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯ โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ระบุว่า ไม่สามารถให้นกยูงตัวดังกล่าวติดตามเจ้าของขึ้นเครื่องได้ เพราะมีขนาดและน้ำหนักไม่ตรงตามเกณฑ์พิกัดที่กำหนดไว้ และได้ชี้แจงเหตุผลดังข้างต้นต่อเจ้าของนกยูงก่อนที่จะเดินทางมาถึงสนามบินแล้ว มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ครั้งนี้ทางรายการทอล์กโชว์ “เดอะเจ็ตเซ็ต” (The Jet Set) ซึ่งเป็นรายการสนทนาว่าด้วยเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว โดยภาพแสดงให้เห็นนกยูงตัวใหญ่เกาะอยู่บนที่จับรถเข็นสัมภาระในสนามบิน โดยผู้คนจำนวนมากต่างพากันจ้องมองดูนกยูงตัวนี้ด้วยความพิศวงงงงวย “เดอะเจ็ตเซ็ต”ยังเผยแพร่ภาพเหตุการณ์อีกภาพหนึ่ง ซึ่งมีหญิงสาวยืนอยู่ใกล้กับรถเข็นสัมภาระที่นกยูงเกาะอยู่ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าหญิงในภาพคือเจ้าของนกยูงตัวนี้หรือไม่ มีรายงานด้วยว่านกยูงตัวนี้มีชื่อว่า เด็กซเตอร์ เป็นสัตว์ที่ถูกช่วยมาโดยศิลปินที่ชื่อว่า เวนติโก ซึ่งเขาเล่าถึงชีวิตของมันทางโซเชียลมีเดียด้วย ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สายการบินหลายแห่งอนุญาตให้ผู้โดยสารที่มีปัญหาทางสภาพจิตใจและอารมณ์ นำสัตว์เลี้ยงที่ช่วยบำบัดปลอบประโลมใจติดตามเข้าไปในห้องโดยสารได้ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารที่มีความต้องการดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จนมีเสียงวิจารณ์ว่าผู้โดยสารหลายคนใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อนำสัตว์เลี้ยงของตนขึ้นเครื่องบิน ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหารบกวนผู้โดยสารคนอื่น ๆ หญิงผู้หนึ่งถูกเชิญให้ลงจากเครื่องบินของสายการบินยูเอสแอร์เวย์สขณะกำลังเตรียมจะขึ้นบินในปี 2014 หลังจากหมู “โฮบี” ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอส่งเสียงร้องดัง ทั้งยังถ่ายมูลสกปรกออกมาด้วย หากเจ้าเด็กซเตอร์ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินได้ จะเท่ากับว่ามีนกอีกชนิดหนึ่งที่ได้ “บินสูง” โดยไม่ต้องออกแรงขยับปีกบินเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไก่งวงและเหยี่ยวเกือบร้อยตัวได้มีโอกาสเช่นนี้มาแล้ว ในปี 2015 นางโจดี้ สมอลลีย์…

ศาลเขมรปฏิเสธประกันตัวชาวออสซี่บินโดรนสปายเหนือพนมเปญ

Loading

เอเอฟพี – ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวออสเตรเลียที่ถูกควบคุมตัวในปีก่อนจากข้อหาเป็นสายลับหลังบังคับโดรนบินเหนือขบวนชุมนุมหาเสียงของพรรคฝ่ายค้านในกรุงพนมเปญ ถูกปฏิเสธการประกันตัวในวันนี้ (30) เจมส์ ริคเกตสัน อายุ 68 ปี ถูกจับกุมตัวในกรุงพนมเปญเมื่อเดือน มิ.ย. หลังบังคับโดรนถ่ายภาพเหนือขบวนชุมนุมหาเสียงของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งในเวลานี้พรรค CNRP ถูกศาลสูงสั่งยุบพรรคตามคำร้องของรัฐบาล ในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ผู้พิพากษาของศาลสูงระบุว่า คำร้องขอประกันตัวของริคเกตสัน ถูกปฏฺิเสธเนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ริคเกตสัน ถูกตั้งข้อหากระทำการรวบรวมข้อมูลที่อาจบ่อนทำลายการป้องกันประเทศ ซึ่งการบังคับโดรนบินเหนือกรุงพนมเปญนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามหากไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้สร้างภาพยนตร์ชาวออสเตรเลียรายนี้อาจเผชิญต่อโทษจำคุกระหว่าง 5-10 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานจารกรรม ครอบครัวของริคเกตสัน ต่างผิดหวังต่อผลการดำเนินการในวันนี้ และเป็นห่วงสุขภาพของชายวัย 68 ปี รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ในห้องขังที่ใช้ร่วมกับคนอื่นๆ ราว 140 คน —————————————————— ที่มา : MGR Online / 30 ม.ค.2561 Link : https://mgronline.com/indochina/detail/9610000009732

อังกฤษประดิษฐ์อุปกรณ์ต่อต้านอาชญากรไว้บนไหล่ทาง ใครขับหนีตำรวจเจอดีแน่!!

Loading

ปกติที่เวลาเราดูหนังที่มีการไล่ล่าของผู้ร้ายและตำรวจ เรามักจะเห็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายตะปูเรือใบ โดยพวกเขาจะวางไว้บนถนนเพื่อใช้เจาะยางรถของคนร้าย แต่พอใช้งานจริงๆ โจรก็หลบไอ้เจ้าอุปกรณ์นี้ได้ไปเสียทุกที โดยเฉพาะการหนีออกไหล่ทาง ด้วยเหตุนี้ Yannick Read จากสถานบัน Environmental Transport Association (ETA) จึงคิดค้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า CatClaw ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย CatClaw นั้นมีรูปแบบที่ง่ายมาก โดยมันจะมีหน้าตาเป็นลูกบอลทรงกลมที่มีแท่งแหลมคมซ่อนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการติดตั้งมันให้ทั่วฟุตบาทในอังกฤษ ในส่วนของการทำงานนั้นถ้าจะให้ยกตัวอย่างการทำงานจริงๆ มันก็ง่ายมาก สมมุติว่ามีรถผู้ร้ายหรือใครก็ตามที่ขี่รถเลยถนนเข้ามายังไหล่ทางจนเหยียบเข้ากับ CatClaw ลูกบอลทรงกลมที่ได้รับน้ำหนักจากยางรถก็จะยุบตัวลงโดยมีท่อเหล็กแหลมอยู่ข้างใน ฉะนั้นถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นยางรถคันดังกล่าวถูกปล่อยลมจนแบนทันที!! การป้องกันดังกล่าวยังไม่ได้ป้องแค่รถผู้ร้ายที่หนีตำรวจด้วย แต่มันยังสามารถป้องกันรถที่จะพุ่งเข้าหาผู้คนเช่นกัน ส่วนถ้าใครที่กลัวว่าคนจะเผลอไปเหยียบเข้าและเป็นอันตรายนั้น Yannick ก็ยืนยันว่าน้ำหนักของคนไม่พอที่จะทำให้เจ้า CatClaw นั้นทำงาน ฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้ Yannick ยังบอกอีกว่าวัสดุของเจ้า CatClaw นั้นมีราคาถูก ฉะนั้นงบที่รัฐจะต้องใช้เพื่อผลิตเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จึงถือว่าไม่แพงนักเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของมันนั่นเอง ——————————————————————————– ที่มา : CatDumb / 18/01/2018 Link : http://www.catdumb.com/tiny-device-stop-terrorists-tracks-044/

สหรัฐฯ ปัดฝุ่นระบบป้องกันการโจมตีแบบ “Star Wars” รับมือเกาหลีเหนือ !?

Loading

Space Defense Initiative หรือโครงการป้องกันตนเองในอวกาศแบบ “Star Wars” นี้ต้องใช้ดาวเทียมตรวจจับอย่างน้อย 1,600 ดวง โครงการ Star Wars หรือ Space Defense Initiative เป็นโครงการป้องกันตนเองของสหรัฐฯ ที่มีจุดเริ่มต้นในสมัยประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน โดยเป็นแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์กับองค์การนาซ่าในช่วงทศวรรษที่ 1980 หรือในยุคสงครามเย็น เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากสหภาพโซเวียต ด้วยการส่งดาวเทียมเพื่อตรวจจับขีปนาวุธขึ้นสู่อวกาศ แต่โครงการนี้ต้องล้มเลิกไปเพราะตัวเลขค่าใช้จ่ายที่สูงมากรวมทั้งจากการที่มีผู้ตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของโครงการนี้ และเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลง ความจำเป็นของโครงการดังกล่าวเพื่อรับมือกับการโจมตีด้วยจรวดขีปนาวุธจากสหภาพโซเวียตก็ลดน้อยลงไป อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามครั้งใหม่เรื่องการโจมตีด้วยจรวดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือในขณะนี้ ทำให้มีการหยิบยกแนวคิดดังกล่าวขึ้นมาพูดกันอีกครั้งหนึ่ง นาย Robert Scheder นักวิเคราะห์ระบบของ RAND Corporation ซึ่งเป็นองค์กรที่ออกแบบยกร่างแผนการ Star Wars นี้ตั้งแต่แรก บอกว่าโครงการนี้สามารถนำมาใช้ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน และให้คำอธิบายเกี่ยวกับองค์ประกอบของแนวคิดการป้องกันตนเองในอวกาศหรือที่เรียกกันว่าโครงการ Star Wars นี้ว่า จะต้องมีการส่งระบบดาวเทียมเพื่อตรวจจับการยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธขึ้นไปโคจรอยู่ในอวกาศให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลกอย่างน้อย 1,600 ดวง ซึ่งดาวเทียมเหล่านี้จะทำหน้าที่สอดส่องตรวจจับและทำลายขีปนาวุธที่มีทิศทางมุ่งเข้ามาโจมตีสหรัฐฯ แต่เงินลงทุนเพื่อส่งเครือข่ายดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศทั่วโลกนี้สูงถึงหนึ่งแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินกว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ในขณะนั้น และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โครงการนี้ไม่ได้ผ่านโต๊ะยกร่างออกไปถึงขั้นทำการทดลอง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนับสนุนเรื่องนี้ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจและชี้ว่า ในช่วงนั้นสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นประเทศมหาอํานาจสามารถยิงจรวดติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ครั้งละนับพันลูก…

คุมได้แล้ว ไฟไหม้สนามบินขอนแก่น เที่ยวบินขึ้น-ลงใช้สนามบินอุดรฯ แทน

Loading

ศูนย์ข่าวขอนแก่น – ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเผยเจ้าหน้าที่คุมเหตุไฟไหม้สนามบินได้แล้ว เสียหายไม่มากเร่งเคลียร์พื้นที่ แต่เที่ยวบินขาเข้าและขาออกกว่า 10 เที่ยวบินในภาคเช้าและบ่ายยังต้องบินขึ้นลงที่สนามบินอุดรฯ แทน โดยแต่ละสายการบินจัดรถรับส่งฟรี ส่วนจะเริ่มเปิดให้บริการได้เมื่อไหร่ต้องรอประกาศจากสนามบินอีกครั้งรายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (26 ม.ค.) เวลาประมาณ 07.00 น. ร.ต.อ.ภาสกร คำภู รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ท่าอากาศยานขอนแก่น จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยที่เกิดเหตุ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้เดินทางไปดูสถานการณ์ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันได้มีการระดมรถน้ำดับเพลิงจาก ทต.บ้านเป็ด และ ปภ.เขต 6 ขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น เข้าช่วยสกัดและควบคุมเพลิงทั้งนี้ จุดต้นเพลิงเป็นบริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออก มีกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่เต็มอาคาร เปลวเพลิงลุกไหม้บริเวณฝ้าเพดานของอาคาร และลุกลามไปตามระบบท่อส่งอากาศของอาคาร เจ้าหน้าที่จึงใช้โฟมทำการฉีดสกัด ใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะที่ผู้โดยสารที่มารอขึ้นเครื่องและประชาชนที่มารอรับญาติจำนวนหลายร้อยคน เมื่อได้รับแจ้งว่ามีเพลิงไหม้ต่างพากันวิ่งหนีออกจากตัวอาคารทั้งฝั่งขาเข้าชั้น 2 และฝั่งขาออกชั้น 3 กันอย่างอลหม่าน ทางด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงเหตุไฟไหม้สนามบินครั้งนี้ว่า…

‘สหรัฐฯ’จับ‘จนท.อเมริกัน’ 3 รายใน 1 ปี สงสัยส่งความลับให้‘หน่วยข่าวกรองจีน’

Loading

เอเอฟพี – รายงานข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่สหรัฐฯถูกจับกุมเป็นรายที่ 3 ภายในระยะเวลา 1 ปี เนื่องจากต้องสงสัยว่าช่วยเหลือสปายสายลับของจีน เป็นการเปลือยให้เห็นสงครามอันดุเดือดเข้มข้นระหว่างหน่วยงานข่าวกรองของมหาอำนาจใหญ่ 2 รายนี้  กรณีหน่วยงานรับผิดชอบของทางการอเมริกัน เข้ารวบตัว เจอร์รี ชุน ซิง ลี อดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ถูกระบุว่ามีความเกี่ยวข้องโยงใยกับการที่เมื่อ 5 ปีก่อนปักกิ่งกำจัดกวาดล้างเครือข่ายสายลับและสายข่าวภายในจีนของซีไอเออย่างสุดเหี้ยม ก่อนหน้านั้นในเดือนมิถุนายน 2017 ก็มีการจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯผู้หนึ่ง ชื่อ เควิน มัลลอรี ซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอเหมือนกัน เขาถูกตั้งข้อหาว่าส่งมอบความลับต่างๆ ของสหรัฐฯให้พวกสายลับจีนเพื่อแลกกับเงินทองจำนวน 25,000 ดอลลาร์ ย้อนหลังขึ้นไปอีก 3 เดือน แคนแดช ไคลเบิร์น นักการทูตสหรัฐฯซึ่งมีฐานอยู่ในจีน ถูกตั้งข้อหาเนื่องจากรับเงินสดและของขวัญคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นดอลลาร์จากหน่วยงานข่าวกรองจีน ตามรายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์ หน่วยงานต่อต้านการจารกรรมของสหรัฐฯต้องทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำอย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่ปี 2012 เพื่อสืบเสาะหาตัวคนที่อาจฝักใฝ่ปักกิ่ง ซึ่งแฝงฝังตัวอยู่ภายในหน่วยงานสืบราชการลับของอเมริกา นิวยอร์กไทมส์รายงานเอาไว้เมื่อปีที่แล้วว่า เริ่มตั้งแต่ปี 2010 จนกระทั่งถึงสิ้นปี 2012 ฝ่ายจีนสามารถเปิดโปงและสังหารแหล่งข่าวของซีไอเอซึ่งอยู่ภายในประเทศจีนไปเป็นจำนวน “อย่างน้อยที่สุดสิบกว่าคน”…