โซเวียตทำหนังสือถึงยูเครน กรณีกลุ่มผู้ประท้วงโจมตีสถานทูตโซเวียตประจำกรุงเคียฟ

Loading

     รายงานข่าวจากกรุงเคียฟ ยูเครน เมื่อ 6 มี.ค.59 กลุ่มผู้ประท้วงพร้อมอาวุธทำการโจมตีสถานทูตโซเวียตประจำกรุงเคียฟในเวลากลางคืน จนทหารรักษาความปลอดภัยต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นการเตือน จึงยุติ โดยทำความเสียหายแก่รถยนต์ของสถานทูต 3 คัน ทั้งนี้ทางสถานทูตโซเวียตได้ทำหนังสือประท้วงถึงกระทรวงการต่างประเทศยูเครนแล้ว เป็นที่คาดว่าสาเหตุการประท้วงครั้งนี้เกิดจากศาลโซเวียตตัดสินจำคุก Nadezhda Savchenko นายทหารหญิงของยูเครน ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่โซเวียต กรณีมีส่วนในการสังหารนักหนังสือพิมพ์ชาวรัสเซีย 2 คน ———————————- ที่มา : TASS WORLD / 6 มีนาคม 2559

ไคย์กีสถานให้ความรู้ทางศาสนาแก่เด็กเพื่อลดความรุนแรง

Loading

เมื่อ 29 ก.พ.59 รัฐบาลไคย์กีสถานเห็นชอบที่จะให้สตรีสอนหนังสือและความรู้ทางศาสนาแก่เด็ก เพราะคาดจะช่วยลดความคิดเห็นด้วยความรุนแรงหรือความนิยมการก่อการร้ายลงได้   —————————————– ที่มา : Voice of America / 29 กุมภาพันธ์ 2559

ฝรั่งเศสอนุมัติให้ตำรวจพกอาวุธหนัก หวังรับมือก่อการร้ายทันท่วงที

Loading

     เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุเมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่าตำรวจปารีสจะเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกของเมืองหลวงแดนน้ำหอม ที่ได้รับอาวุธไรเฟิลจู่โจม กับโล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟไปใช้งาน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้ว      แบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า ที่ผ่านมาอาวุธเหล่านี้ถูกสงวนไว้ให้เฉพาะกองกำลังระดับหัวกะทิ แต่ตอนนี้จะเปิดโอกาสให้ตำรวจได้ใช้ เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที คอยหนุนให้กับทีมเจ้าหน้าที่ตรวจตรา โดยเฉพาะเวลาที่เจอกับการสังหารหมู่      “อาชญากรบางรายที่คุณต้องเผชิญหน้าด้วยนั้น พวกเขาไม่ลังเลใจที่จะใช้อาวุธหนักกับคุณ ดังนั้นคุณจะต้องพกพาอาวุธหนักเพื่อยิงตอบโต้กลับไป รวมถึงต้องมีการป้องกันที่เหมาะสมด้วย” คาเซเนิฟ บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจปารีส      ตำรวจหน่วยต่อต้านอาชญากรรม (บีเอซี) ที่มักจะปฏิบัติการในชุดสวมใส่ธรรมดา จะได้รับไรเฟิลจู่โจม “Heckler & Koch G36” จำนวน 204 กระบอก, เสื้อเกราะกันกระสุน 1,800 ตัว, โล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟ 241 อัน อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ยังรวมถึงปืนไฟฟ้า “เทเซอร์” กับของอื่นๆ รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าราว 17 ล้านยูโร…

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยอีเมล์ชุดสุดท้ายของคลินตัน

Loading

     วอชิงตัน 1 มี.ค.- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐนำอีเมล์ชุดสุดท้ายจากเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวที่นางฮิลลารี คลินตันใช้ส่งเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศมาเปิดเผยในเว็บไซต์      โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อีเมล์ชุดสุดท้ายมีประมาณ 3,800 หน้า รวมเป็นอีเมล์ที่เปิดเผยแล้วกว่า 52,000 หน้า บางหน้าผ่านการตรวจทานเนื้อหาบางส่วนเนื่องจากเป็นการติดต่ออย่างเป็นทางการ อีเมล์ชุดท้ายไม่มีเนื้อหาที่เป็นเอกสารลับ หนึ่งในนั้นเป็นอีเมล์เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐแย้งว่าควรถือว่าเป็นความลับ แต่กระทรวงพิจารณาแล้วสรุปว่าไม่ใช่ ส่วนอีเมล์ระหว่างนางคลินตันกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาถูกนำออกจากอีเมล์ชุดสุดท้ายก่อนเผยแพร่ แม้เนื้อหาไม่ถือว่าเป็นความลับแต่จัดเป็นบันทึกภายในของทำเนียบขาว นอกจากนี้มีอีเมล์หนึ่งหน้าที่ไม่นำมาเปิดเผยเพราะเป็นไปตามคำขอของหน่วยงานด้านกฎหมาย      นางคลินตันหวังว่า การเปิดเผยอีเมล์จะช่วยสยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เธอไม่ใช้บัญชีอีเมล์ของทางการขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ และกลายเป็นประเด็นให้ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐใช้โจมตีเธอ อย่างไรก็ตาม คณะสอบสวนรัฐบาลกลางจะยังเดินหน้าสอบสวนต่อไปว่า การที่เธอใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่งถือเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ ————————————– ที่มา : สำนักข่าวไทย / 1 มีนาคม 2559 Link : http://www.tnamcot.com/content/414601

สหรัฐบังคับใช้กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ คุมเข้ม 38 ประเทศ หวั่นก่อการร้าย

Loading

     กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ของสหรัฐ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ส่งผลให้ประชาชน 38 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่า ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะเดินทางเข้าสหรัฐ ขณะที่อิหร่าน ได้ออกมาร้องเรียนว่าเป็นกฎหมายที่ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ทำไว้กับ 6 ชาติมหาอำนาจ      ปัญหาการก่อการร้ายจากการโจมตีกรุงปารีส ของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีก่อน ได้ทำให้สหรัฐตัดสินใจทบทวนโครงการยกเว้นวีซ่ากับ 38 ประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัย จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ในการคุมเข้มสำหรับชาวต่างชาติ ส่งผลให้ประชาชนในประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าภายใต้โครงการดังกล่าว ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะเดินทางเข้าสหรัฐ      กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่นี้ มีผลบังคับใช้ทันทีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ลงนามรับรองเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติรับรองร่างกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดต่อโครงการยกเว้นวีซ่าเข้าสหรัฐอย่างท่วมท้นด้วยคะแนนเสียง 407 ต่อ 19 เสียง      โดยการลงมติครั้งนี้ ได้ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดใหม่เรื่องการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองชาวอิรัก ซีเรียและประเทศอื่นๆที่เชื่อได้ว่าเป็นแหล่งของพวกก่อการร้ายตลอดจนใครก็ตามที่เดินทางไปยังประเทศเหล่านั้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนประชาชนที่เคยเดินทางไปอิหร่านและซูดานที่สหรัฐกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อการร้ายจำเป็นต้องขอวีซ่าด้วย นอกจากนี้ มาตรการใหม่ยังกำหนดให้ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการยกเว้นการขอวีซ่าทำการตรวจสอบนักเดินทางที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลของตำรวจสากล เพื่อพิจารณาว่าคนเหล่านั้นเป็นที่ต้องการของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายฐานมีความสัมพันธ์กับการก่อการร้าย หรือการก่ออาชญากรรมใดๆ หรือไม่      ทั้งนี้ภายใต้โครงการดังกล่าว…

ม็อบประท้วงสภาโคโซโวเลือกผู้นำฝักใฝ่เซอร์เบีย

Loading

สภาโคโซโวเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ที่มีแนวคิดฝักใฝ่เซอร์เบีย ท่ามกลางการประท้วงอย่างหนักของฝ่ายค้านที่โยนแก๊สน้ำตาป่วนการประชุม เมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) ที่ประชุมสภาแห่งชาติของโคโซโวมีมติเสียงข้างมาก 71 เสียง จากทั้งหมด 120 เสียง เลือกนายฮาชิม ธาซี อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการต่างประเทศ ให้เตรียมรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป ท่ามกลางความวุ่นวายภายในสภา จากการที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านบางคนโยนแก๊สน้ำตาใส่กลางที่ประชุม ส่งผลให้การอภิปรายต้องหยุดชะงัก แต่ตำรวจนอกเครื่องแบบสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดออกนอกสถานที่ได้ ขณะที่บรรยากาศด้านนอกอาคารมีการประท้วงของประชาชนราว 1,000 คน ซึ่งคัดค้านการให้ธาซีรับตำแหน่งผู้นำโคโซโวคนใหม่ ซึ่งจะมีการทำพิธีสาบานตนในวันที่ 7 เม.ย. นี้ โดยสถานการณ์ทวีความรุนแรงเป็นการปะทะอย่างดุเดือดระหว่างตำรวจปราบจลาจลซึ่งมีการยิงแก๊สน้ำตา กับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งขว้างปาสิ่งของรวมถึงระเบิดเพลิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ฝ่ายค้านและกลุ่มผู้ประท้วงหวั่นเกรงท่าทีของธาซีซึ่งสนับสนุนการเจรจาสันติภาพร่วมกับเซอร์เบีย อาจนำมาซึ่งการเพิ่มอิทธิพลของกลุ่มชาวเซิร์บในโคโซโว ธาซี วัย 47 ปี เป็นอดีตผู้นำกองกำลังปลดปล่อยโคโซโว ซึ่งประกาศการแบ่งแยกดินแดนออกจากเซอร์เบียเมื่อปี 2551 หลังผ่านพ้นช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างปี 2541-2542 แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าธาซี มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหลายคดี รวมถึงการค้าอวัยวะ ทว่าเจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธ ขณะที่เซอร์เบียและประเทศส่วนใหญ่บนโลกยังคงไม่ยอมรับโคโซโวในฐานะรัฐเอกราช ——————————————- ที่มา : โลกวันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2559 Link : http://www.lokwannee.com/web2013/?p=204862