หนุ่มคลั่งขับรถกระบะพุ่งชนเครื่องบินโดยสารที่ท่าอากาศยานสหรัฐฯ

Loading

     เอบีซีนิวส์ – ชายคนหนึ่งถูกตำรวจไล่ล่า หลังล่วงล้ำประตูรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานเอปเลย์ แอร์ฟิลด์ ในโอมาฮา มลรัฐเนแบรสกา สหรัฐฯ เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดี(25ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยระหว่างนั้นได้ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์ ขโมยรถกระบะบนรันเวย์และขับรถพุ่งชนบริเวณจมูกของเครื่องบินโดยสารสายการบินเซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส      ทิม โคนาแฮน ผู้บัญชาการตำรวจของการท่าอากาศยานโอมาฮา เปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ ว่าเหตุการณ์นี้เริ่มต้นตอนเวลาประมาณ 21.30น. เมื่อตำรวจ ณ สนามบินเอปเลย์ แอร์ฟิลด์ พบเห็นชายคนหนึ่ง มีพฤติกรรมประหลาดๆและกรีดร้องว่ามีคนพยายามฆ่าเขา      ต่อมาชายที่ยังไม่ทราบชื่อรายนี้ ก็วิ่งพรวดเข้าไปยังโรงจอดรถโดยมีเจ้าหน้าที่ไล่ตามไป ก่อนหนีออกไปทางประตูอีกด้านและปีนข้ามรั้วเข้าสู่รันเวย์ จากนั้นก็เขากระโดดขึ้นรถกระบะของสายการบินเซาต์เวสต์ที่ไม่ได้ล็อคประตูและติดเครื่องไว้ ตามการเปิดเผยของ โคนาแฮน พร้อมระบุว่าระหว่างการไล่ล่านั้น ชายคนนี้ได้ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์      จากนั้นชายคนนี้ก็ขับรถกระบะข้ามไปทางเหนือ จนกระทั่งถูกตำรวจเข้าสกัด เขาจึงถอยกลับและขับเข้าหาสะพานเทียบเครื่องบินของสายการบินเซาต์เวสต์ที่กำลังจอดรับผู้โดยสารขึ้นเครื่อง และพุ่งชนจมูกเครื่องบินอย่างแรง      จากข้อมูลของเซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส ระบุว่าในตอนที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารขึ้นไปอยู่บนเครื่องบินโบอิ้ง 737 เที่ยวมุ่งหน้าสู่เดนเวอร์…

ตำรวจมาลีสลายการชุมนุม ประชาชนเสียชีวิต 1

Loading

เมื่อ 17 ส.ค.59 กลุ่มหน่วยงานเพื่อสิทธิมนุษยชน 3 หน่วยงานของมาลี รายงานว่า จากการใช้กำลังควบคุมการชุมนุมประท้วงของประชาชนในกรุงบามาโก มาลี เป็นผลให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง การชุมนุมครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการจับกุมนาย Mohamed Youssouf Bathily นักจัดรายการวิทยุกระจายเสียงที่แถลงการต่อต้านนโยบายรัฐบาล ตำรวจทำการสลายการชุมนุมด้วยการใช้แกสน้ำตาและยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม   ——————————————————————- ที่มา : Voice of America / 17 สิงหาคม 2559 Link : http://www.voanews.com/a/one-dead-protest-mali-capital-arrest-talk-show-host/3469501.html

เมืองคานส์สั่งห้ามใส่ ‘เบอร์กินี่’ ชุดว่ายน้ำแบบมุสลิมลงเล่นน้ำชายหาด

Loading

สำนักข่าวบีบีซีไทย รายงานว่า นายกเทศมนตรีเมืองคานส์ของฝรั่งเศส ออกกฎห้ามใส่ “เบอร์กินี่” ซึ่งเป็นชุดว่ายน้ำที่ปกปิดร่ายกายแบบเต็มตัวของสตรีมุสลิม ลงเล่นน้ำตามชายหาดต่าง ๆ โดยอ้างเหตุผลด้านความสงบเรียบร้อยในสังคม หลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่เมืองนีซเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นายเดวิด ลิสนาร์ด นายกเทศมนตรีเมืองคานส์ กล่าวว่าชุดว่ายน้ำเบอร์กินี่ เป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอิสลามที่มีแนวคิดสุดโต่ง ทั้งยังอาจจุดชนวนความไม่พอใจให้แก่นักท่องเที่ยวคนอื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝรั่งเศสเพิ่งจะตกเป็นเป้าหมายการก่อการร้ายไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม กฎนี้ไม่ได้ห้ามการสวมใส่สัญลักษณ์ทางศาสนาอื่น ๆ เช่น หมวกแบบชาวยิว ไม้กางเขนของชาวคริสต์ และผ้าคลุมศีรษะของสตรีมุสลิม กฎระเบียบนี้เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อปลายเดือนก่อน โดยผู้ที่สวมใส่ชุดเบอร์กินี่เล่นน้ำตามชายหาดเมืองคานส์ จะถูกเตือนให้ไปเปลี่ยนชุดเล่นน้ำที่เหมาะสม หรือให้ออกไปจากเขตชายหาด แต่หากยังฝ่าฝืนก็จะถูกปรับ 38 ยูโร (ราว 1,500 บาท) อย่างไรก็ตาม นับแต่มีการบังคับใช้กฎนี้ยังไม่มีผู้ใดฝ่าฝืน กรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝรั่งเศสบังคับใช้ข้อจำกัดด้านการแต่งกายของชาวมุสลิม เพราะเมื่อปี 2554 ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ห้ามสตรีมุสลิมสวมผ้าคลุมศีรษะแบบปิดบังใบหน้าทั้งหมดในที่สาธารณะ ด้าน League of Human Rights กลุ่มเพื่อสิทธิมนุษยชนของฝรั่งเศส ระบุว่าจะยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการออกกฎระเบียบดังกล่าวเพราะถือเป็นการเลือกปฏิบัติ     —————————————————– ที่มา : มุสลิมไทยโพสต์ / 15 สิงหาคม…

“นายกฯลอนดอน” ขอให้อยู่ในความสงบ หลังเกิดเหตุไล่แทงกลางกรุง

Loading

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ออกมาขอร้องในวันนี้ (4 ส.ค.) ให้ช่วยกันระมัดระวังและอยู่ในความสงบไม่ต้องแตกตื่น ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธไล่แทงผู้คนในบริเวณใจกลางนครหลวงของอังกฤษแห่งนี้ เมื่อตอนดึกของคืนวันพุธ (3) ซึ่งทำให้หญิงสูงอายุผู้หนึ่งเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชายวัยรุ่นอายุ 19 ปี โดยใช้ปืนช็อตไฟฟ้าทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้ จากนั้นจึงพาไปรักษาในโรงพยาบาล ต่อมาผู้ต้องสงสัยผู้นี้ก็ถูกนำตัวมาสอบสวนที่สถานตำรวจแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน มาร์ก โรว์ลีย์ ผู้บังคับการด้านต่อต้านการก่อการร้ายของตำรวจลอนดอน ระบุว่า จากสิ่งบ่งชี้ต่าง ๆ ที่พบในเบื้องต้นนี้ ดูจะแสดงให้เห็นว่า “ปัญหาสุขภาพจิตเป็นปัจจัยประการหนึ่งในเหตุโจมตีอย่างสยดสยองคราวนี้” อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงหลัง ๆ มานี้ เกิดเหตุโจมตีอย่างต่อเนื่องขึ้นในยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจ และพร้อมพิจารณาถึงความเป็นไปได้อื่น ๆ โดยที่ เรื่องการก่อการร้ายยังคงเป็น 1 ในแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่จะต้องสำรวจตรวจสอบ โรว์ลีย์ บอกด้วยว่า จะส่งกำลังตำรวจออกไปตรวจตรารักษาการณ์ตามท้องถนนในเมืองหลวงของอังกฤษเพิ่มมากขึ้นในวันนี้ (4) โดยที่ส่วนหนึ่งจะเป็นตำรวจถืออาวุธ ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดปกติในอังกฤษ ที่ตามธรรมดาแล้วตำรวจจะไม่พกปืน ตำรวจลอนดอนเข้าจับกุมวัยรุ่นต้องสงสัยผู้นั้น ภายหลังมีรายงานข่าวเกิดเหตุไล่แทงกันในจัตุรัสรัสเซลล์ (Russell Square) อันเป็นย่านสงบซึ่งอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เป็นต้นว่า พิพิธภัณฑ์…

ตร.ลอนดอนเพิ่มกำลัง จนท.ติดอาวุธทั่วเมืองป้องกันก่อการร้าย

Loading

     รอยเตอร์ – กองกำลังตำรวจลอนดอนจะประจำการเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเพิ่มอีก 600 คนทั่วเมืองหลวงแห่งนี้เพื่อป้องกันการก่อเหตุโจมตี ทางการประกาศในวันนี้ (3 ส.ค.)      ระดับภัยคุกคามในกรุงลอนดอนยังคงอู่ที่ระดับ “ร้ายแรง” และการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ไม่ใช่การตอบสนองต่อข่าวกรองจำเพาะใดๆ แต่เป็นการตอบสนองระยะยาวต่อการโจมตีนองเลือดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มประเทศยุโรป      “ใครก็ตามที่ติดตามเหตุการณ์ในยุโรปตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเข้าใจว่าเหตุใดเราจึงต้องการแสดงให้เห็นความตั้งใจของเราที่จะปกป้องสาธารณะชน” ผู้กำกับการตำรวจนครบาล เบอร์นาร์ด โฮแกน-โฮเว กล่าวในถ้อยแถลง      ตามวิธีการรักษาความสงบเรียบร้องของอังกฤษ เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงลอนดอนส่วนใหญ่จะไม่พกอาวุธปืน      “ความเป็นจริงของการต้องรับมือกับคนร้ายที่มีอาวุธและเป็นอันตรายคือว่าคุณจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธซึ่งจะใช้กำลังเพื่อหยุดคนร้ายด้วยทักษะของพวกเขา เจ้าหน้าที่ติดอาวุธของเราเป็นกลุ่มคนที่จะวิ่งเข้าหาภัยอันตราย” โฮแกน-โฮวีกล่าว      กำลังตำรวจชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเฮอคิวลิส ซึ่งทางการอังกฤษทำการฝึกอบรมกำลังตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายจำนวนประมาณ 1500 นายขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุร้ายขึ้นในยุโรป และการเพิ่มจำนวนตำรวจในครั้งนี้มิได้มีสาเหตุมาจากการแจ้งเตือนทางด้านการข่าว      กรุงลอนดอนเคยถูกโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายประสานงานเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมปี 2005 เมื่อพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ 4 คนโจมตีรถไฟใต้ดิน 3 ขบวนและรถบัส 1 คัน…

สนามบินเวียดนามป่วนโดนแฮ็กเกอร์โจมตีโพสต์ข้อมูลทะเลจีนใต้

Loading

     รอยเตอร์/เอพี/แถ่งเนียน – เว็บไซต์สายการบินแห่งชาติของเวียดนาม และจอแสดงข้อมูลเที่ยวบินในสนามบินใหญ่ที่สุด 2 แห่งของประเทศ ถูกแฮ็กเกอร์โจมตีวันนี้ (29) ด้วยการโพสต์ข้อความที่สื่อทางการของเวียดนามระบุว่า เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม และการอ้างกรรมสิทธิ์ของสองประเทศในทะเลจีนใต้      ระบบเสียงที่สนามบินโนยบ่าย ในกรุงฮานอย และสนามบินเติ่นเซินเญิต ในนครโฮจิมินห์ ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินต้องปิดจอแสดงผลข้อมูลเที่ยวบิน และระบบเสียง ตามการระบุของเว็บไซต์ข่าว VnExpress      ส่วนกรมการบินพลเรือนของเวียดนามเปิดเผยว่า ผู้ควบคุมการดำเนินการสนามบินในกรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์ ต้องระงับการให้บริการเช็กอินอิเล็กทรอนิกส์เป็นระยะเวลาสั้นๆ หลังจากระบบถูกโจมตีในช่วงบ่ายของวันนี้ (29) เป็นผลให้หลายเที่ยวบินต้องล่าช้ากว่ากำหนด      สื่อของรัฐระบุว่า ข้อความที่แสดงบนจอในสนามบินนั้นเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ และการประณามเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ที่มีความขัดแย้งกับจีนเกี่ยวกับสิทธิอธิปไตยทางทะเล โดยสื่อของเวียดนามกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า 1937CN อ้างว่าอยู่เบื้องหลัง      ส่วนเว็บไซต์ของสายการบินเวียดนาม ที่เป็นสายการบินแห่งชาติก็ถูกโจมตีช่วงสั้นๆ ด้วยการโพสต์ภาพเดียวกันพร้อมข้อความที่มีเนื้อหาบิดเบือนเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์แถ่งเนียน      รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม ระบุว่า…