สังคมโลก : ไม่มีวี่แวว

Loading

    นับตั้งแต่การสู้รบในซูดานปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา กรุงคาร์ทูมในอีก 1 เดือนต่อมา คือพื้นที่สงครามอันอ้างว้าง ซึ่งยังมีหลายครอบครัวที่หวาดกลัวหลบอยู่ในบ้านของพวกเขา ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังสนั่นบนท้องถนนด้านนอกที่รกร้างและเต็มไปด้วยฝุ่น   ทั่วกรุงคาร์ทูม ผู้รอดชีวิตต่างหลบภัยในบ้านที่เสริมการป้องกัน โดยหวังว่าพวกเขาจะไม่โดนลูกหลง และอดทนต่อการขาดแคลนอาหารและสิ่งของพื้นฐานที่สิ้นหวัง เช่นเดียวกับการเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ, การขาดเงินสด, การสื่อสารที่ขาดหาย และภาวะเงินเฟ้อที่ควบคุมไม่ได้   ขณะที่ทหารสองฝ่ายกำลังต่อสู้กัน บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่เหลืออยู่ต่างถอยร่น ไปปักหลักที่เมืองพอร์ตซูดาน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงคาร์ทูมประมาณ 850 กิโลเมตร และเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้อพยพจำนวนมาก ทั้งชาวซูดานและพลเมืองชาวต่างชาติ     ซูดานมีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับการรัฐประหารมาอย่างยาวนาน แต่ความหวังของประเทศเพิ่มขึ้นหลังเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย จนนำไปสู่การประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ เมื่อปี 2562 แม้มีรัฐบาลพลเรือนในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่เป็นได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารครั้งล่าสุด ในปี 2564   สำหรับชนวนเหตุของสงครามกลางเมืองในซูดานครั้งนี้ เป็นผลจากความตึงเครียดเกี่ยวกับการผนวกรวมกองกำลังเพื่อจัดตั้งกองทัพแห่งชาติ โดย พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของซูดาน ซึ่งอยู่ในฐานะผู้นำประเทศคนปัจจุบัน และ พล.อ.โมฮาเหม็ด…

ซูดานสู้รบเดือด กองทัพถล่มโจมตีทั้งทางบกและทางอากาศ แม้ข้อตกลงหยุดยิงยังไม่สิ้นสุด

Loading

    การสู้รบในซูดานยังคงดุเดือดโดยเฉพาะในกรุงคาร์ทูมเมืองหลวงของประเทศซูดาน แม้ข้อตกลงหยุดยิงครั้งล่าสุดยังไม่สิ้นสุดลงก็ตาม โดยในวันนี้ (30 เมษายน) กองทัพซูดานเปิดเผยว่า ทหารฝ่ายตนได้เปิดฉากโจมตีทุกทิศทางทั้งทางอากาศและภาคพื้น เพื่อเอาชนะกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF)   สำหรับการหยุดยิงระยะเวลา 72 ชั่วโมงที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำข้อตกลงกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เมษายน จะมีกำหนดสิ้นสุดลงในช่วงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ชาติต่างๆ ยังคงเดินหน้าเร่งอพยพพลเมืองของตนออกจากซูดานท่ามกลางสถานการณ์โกลาหล ส่วนประชาชนหลายล้านคนยังคงปักหลักอยู่ในกรุงคาร์ทูมที่มีสภาพไม่ต่างจากสมรภูมิรบ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือน้ำและอาหารในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ   ส่วนสถานการณ์เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 เมษายน) การสู้รบในซูดานเป็นไปอย่างดุเดือด โดยกองทัพซูดานระบุว่า มีการโจมตีกองกำลัง RSF ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้สำนักข่าว Reuters ฟังว่า โดรนของกองทัพเข้าโจมตีกองกำลัง RSF ซึ่งประจำอยู่ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ของประเทศ   พอล อดัมส์ ผู้สื่อข่าวทางการทูตของสำนักข่าว BBC เปิดเผยว่า กองทัพซูดานไม่สามารถขับไล่กองกำลัง RSF ออกจากกรุงคาร์ทูมได้โดยง่าย เพราะถึงแม้กองทัพจะมีอาวุธที่ทรงพลังกว่า แต่กองกำลัง RSF นั้นมีความคล่องตัวสูง และเชี่ยวชาญการสู้รบในเขตเมืองมากกว่า  …

นานาประเทศแห่นำนักการทูต-พลเมือง ออกจากซูดานท่ามกลางสงครามกลางเมือง

Loading

    จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย รวมทั้งหลายประเทศในยุโรปและตะวันออกกลาง ต่างพยายามนำพลเมืองและนักการทูตของตนออกจากซูดานในวันจันทร์ ท่ามกลางการสู้รบอย่างหนักระหว่างกองทัพบกซูดานกับกองกำลังกึ่งทหาร ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา   การต่อสู้ระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว อาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 427 คน สร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาลและหน่วยงานหลายแห่ง และทำให้เขตที่อยู่อาศัยหลายแห่งกลายเป็นพื้นที่สงคราม   ในวันจันทร์ การต่อสู้ในกรุงคาร์ทูมปะทุขึ้นอีกครั้ง ควันไฟลอยขึ้นจากสนามบินระหว่างประเทศในเมืองหลวงของซูดาน ซึ่งติดกับที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพบก ขณะที่มีเสียงปืนและปืนใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง   การสู้รบบรรเทาลงในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ และอังกฤษ อพยพเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากซูดาน นำไปสู่การแห่อพยพครั้งใหญ่ของเจ้าหน้าที่การทูตของอีกหลายประเทศในวันจันทร์     กองทัพบกซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร อาร์เอสเอฟ ผนึกกำลังกันก่อรัฐประหารเมื่อปี 2021 แต่ผู้นำทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้เรื่องการร่วมจัดตั้งรัฐบาลพลเรือน นำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด   ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความกังวลว่าหลายฝ่ายอาจถูกดึงเข้าสู่สงครามกลางเมืองครั้งนี้ด้วย เนื่องจากซูดานอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 7 ประเทศ และอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ระหว่างอียิปต์ และทะเลแดง   กองกำลังทั้งสองฝ่ายปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่กังวลความปลอดภัยต่อพลเมืองของตน     หลายประเทศ รวมทั้ง…

นานาชาติอพยพพลเรือนพ้น “ซูดาน” สู้รบยืดเยื้อ-ตายกว่า 400 คน

Loading

    เหตุการณ์กองทัพซูดานปะทะกับกองกำลังกึ่งทหาร ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คน รัฐบาลหลายประเทศเร่งอพยพพลเมืองออกจากซูดาน หลังการสู้รบยืดเยื้อ   วันนี้ (23 เม.ย.2566) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การปะทะกันระหว่างกองทัพซูดาน และกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหาร เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 413 คน   ขณะที่ทำเนียบขาว เผยแพร่แถลงการณ์ของ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้อพยพเจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหรัฐฯ และครอบครัวออกจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้หยุดยิงทันที   ด้านกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า ได้เริ่มเปิดภารกิจอพยพพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากซูดานอย่างเร่งด่วน รวมไปถึงพลเรือนของยุโรปและชาติพันธมิตรด้วย แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม   ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศแรกที่อพยพพลเรือนออกจากซูดาน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า พลเรือนของหลายประเทศที่เป็นพี่น้องและเป็นมิตรกัน จะได้รับการอพยพพร้อมพลเรือนของซาอุดีอาระเบีย   ปฏิบัติการของซาอุดีอาระเบียได้อพยพผู้คนกว่า 150 คน…

ชาติแรก! ญี่ปุ่นประกาศอพยพพลเมือง หนีแดนมิคสัญญีซูดาน

Loading

    เมื่อวันที่ 19 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมอพยพพลเมืองของตนเองออกจากประเทศซูดาน ที่ยังคงเต็มไปด้วยการปะทะสู้รบระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารอย่างรุนแรงต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 นับเป็นชาติแรกที่ประกาศแผนจะอพยพพลเมืองของตนออกจากประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งนี้   นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นราว 60 คนที่อยู่ในประเทศซูดานขณะนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสถานทูตญี่ปุ่นด้วย และระบุว่า กระทรวงกลาโหมได้เริ่มเตรียมการที่จำเป็นสำหรับการอพยพแล้ว โดยสถานการณ์ความมั่นคงในขณะนี้กำลังเลวร้ายลง ซึ่งรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัยให้กับชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในต่างประเทศ     ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้ร้องขอให้พลเมืองของตนเองที่พำนักอยู่ในประเทศซูดาน ติดต่อแจ้งชื่อและรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับทางสถานทูตของตนเองเอาไว้   โดยสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูม ได้เริ่มรวบรวมรายละเอียดข้อมูลของพลเมืองชาวอเมริกัน พร้อมขอให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ภายในอาคารและอยู่ให้ห่างจากหน้าต่าง   “เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่ไม่แน่นอนในกรุงคาร์ทูมและการปิดสนามบิน ยังไม่มีแผนสำหรับการอพยพที่มีการประสานกับรัฐบาลสหรัฐ” สถานทูตสหรัฐประกาศผ่านทางทวิตเตอร์   ขณะที่นานาชาติเรียกร้องให้ยุติท่าทีเป็นปฏิปักษ์กันในซูดาน โดยที่ประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี 7) ได้เรียกร้องในวันอังคาร (18 เม.ย.) ให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในทันที   ขณะที่ในวันพุธ (19 เม.ย.) มีรายงานว่าประชาชนหลายพันคนพากันอพยพออกจากกรุงคาร์ทูม…