ศาลอินโดนีเซียจำคุก จนท. 2 ราย เหตุเหยียบกันตายในสนามฟุตบอล

Loading

  ศาลอินโดนีเซียตัดสินลงโทษจำคุกเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอล 2 คน ในความผิดฐานประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมในสนามฟุตบอลครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลของอินโดนีเซีย ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลในเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว   นายอับดุล ฮาริส ผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลจากทีม อารีมา เอฟซี ซึ่งเป็นทีมเหย้า ถูกศาลในเมืองสุราบายา ตัดสินว่ามีความผิดจากการประมาทเลินเล่อและถูกจำคุกเป็นเวลา 18 เดือน ผู้พิพากษายังตัดสินจำคุกนายซูโก ซูทริสโน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในความผิดฐานประมาทเลินเล่อ เขาถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี   ผู้พิพากษากล่าวด้วยว่า จำเลยไม่คาดคิดว่าจะเกิดความวุ่นวาย เพราะไม่เคยเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินมาก่อน จำเลยจึงไม่เข้าใจหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดีเพียงพอ ทั้ง 2 คน มีเวลา 7 วัน ที่จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาล นอกจากนี้ยังมีตำรวจอีก 3 นาย ที่ถูกตั้งข้อหาและกำลังรอคำตัดสินของศาล ส่วนอดีตผู้อำนวยการของบริษัทที่บริหารการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอินโดนีเซีย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและกำลังอยู่ในระหว่างการถูกสอบสวนความผิด   หลังคำตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดี ครอบครัวของเหยื่อแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินที่พวกเขากล่าวว่าเป็นการลงโทษแบบผ่อนปรน หลังจากอัยการเคยเสนอให้ลงโทษจำคุกเขาเป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน   เหตุเหยียบกันตายในสนามฟุตบอลอินโดนีเซีย เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมเปอร์เซบายา…

อินโดนีเซียสรุป’แก๊สน้ำตา’สาเหตุหลักเหยียบกันตายในสนามฟุตบอล

Loading

  อินโดนีเซียเผยผลการสอบสวนเหตุการณ์เหยียบกันตายในสนามฟุตบอล ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 130 ราย มีสาเหตุหลักจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตา และเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่า มีข้อห้ามใช้แก๊สน้ำตาในการแข่งขันฟุตบอล   มาห์ฟุด เอ็มดี รัฐมนตรีประสานงานด้านความมั่นคงของอินโดนีเซีย แถลงวันนี้เกี่ยวกับผลการสอบสวนโดยคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมในสนามกีฬา คานจูรูฮาน ในจังหวัดชวาตะวันออกเมื่อวันที่ 1 ต.ค. เขาระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด 32 ตัวช่วยยืนยันว่า เหยื่อเคราะห์ร้ายส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการเหยียบกันตาย หลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชน ภาพผู้เคราะห์ร้ายล้มทับกันน่ากลัวกว่าที่รายงานทางทีวีและปรากฏในโซเชียลมีเดีย   นอกจากนี้ รายงานผลการสอบสวน ยังระบุว่า ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นไม่รู้ว่าสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า มีข้อห้ามใช้แก๊สน้ำตาในการแข่งขันฟุตบอล และเจ้าหน้าที่ยังใช้กำลังเกินกว่าเหตุอีกด้วย   ขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลแห่งชาติ และพีที ลิกา อินโดนีเซีย บารู (PT Liga Indonesia Baru) ผู้จัดการแข่งขัน ถูกระบุว่าละเลยข้อบังคับด้วย   มาห์ฟุด เปิดเผยด้วยว่า รายงานผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะยาว 124 หน้าถูกยื่นต่อ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแล้ว และกระทรวงประสานงานเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนทางอาญาต่อทุกฝ่าย…