เวียดนามเล็งแก้กฎหมาย ผู้ดูแลระบบต้องลบ “เฟคนิวส์” ภายใน 24 ชม.

Loading

  รัฐบาลเวียดนามเสนอการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย ให้การลบเนื้อหาอันเป็นเท็จต้องเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง จากเดิมคือสองวัน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า กระทรวงข่าวสารของเวียดนามออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการยกระดับความเข้มงวดของกฎหมายป้องกันและปราบปรามข่าวปลอม หรือเนื้อหาอันเป็นเท็จที่มีการเผยแพร่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยจะมีการเสนอปรับแก้กฏหมาย ให้ผู้ดูแลระบบต้องลบเนื้อหาที่มีลักษณะดังกล่าวออกจากระบบภายใน 24 ชั่วโมงหลังได้รับคำสั่ง จากเดิมคือ 48 ชั่วโมง   ทั้งนี้ รายงานของรัฐบาลเวียดนาม ระบุด้วยว่า บทลงโทษเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่กำลังใช้งานอยู่ในประเทศ ณ เวลานี้ มีความรุนแรงน้อยกว่าประเทศร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 10 เท่า และทางการเวียดนามกำหนดเป้าหมายให้กฎหมายซึ่งได้รับการปรับแก้แล้ว มีผลบังคับใช้ภายในปี 2566   Vietnam to require 24-hour take-down for "false" social media content https://t.co/NowInryEpJ pic.twitter.com/pH9xxI69l4 — Reuters (@Reuters) November 4, 2022…

“ดีอีเอส” แจงแนวทางระงับการเผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย

Loading

    ดีอีเอส ร่วมกับ กสทช. และ 35 หน่วยงาน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หาแนวทางแจ้งเตือน ระงับการเผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย หลังประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ใน 60 วัน   วันที่ 3 พ.ย. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ (ดีอีเอส) ได้เชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ จำนวน 35 ราย รับทราบ และชี้แจงประกาศกระทรวงดิจิทัลฯ เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2565 เพื่อระงับเนื้อหาข้อมูลเท็จ ความมั่นคง ลามกอนาจาร หลังรับแจ้งการกระทำผิด   นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์…

ศาลสูงสุดบราซิลลงมติ “แบนข่าวปลอม” ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดี

Loading

  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศาลสูงสุดของรัฐบาลกลางบราซิลได้ลงมติสนับสนุนคำตัดสินของศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้ง (TSE) ในการเร่งติดตามการลบข่าวปลอมออกจากสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี   ศาลสูงสุดของรัฐบาลกลางบราซิล ประกาศยกคำร้องที่ยื่นโดยสำนักงานอัยการระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) เพื่อระงับมติของศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้งบางส่วน โดยอ้างว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกเซ็นเซอร์   คณะผู้พิพากษา 6 คนลงมติเห็นชอบคำตัดสินดังกล่าว ซึ่งเป็นเสียงส่วนมากอันเพียงพอที่จะสนับสนุนมาตรการนี้ ขณะที่สมาชิกศาลสูงสุดคนอื่น ๆ ยังคงมีเวลาในการลงคะแนนจนถึงเที่ยงคืน   มติของศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้งมอบอำนาจสั่งการให้เว็บไซต์ต่าง ๆ ลบเนื้อหาที่ถูกจัดเป็นข่าวปลอมภายในเวลา 2 ชั่วโมง โดยข่าวปลอมต่าง ๆ จะต้องถูกลบออกภายในเวลา 1 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ (29 ต.ค.) ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี (30 ต.ค.)   นอกจากนี้ ศาลสูงสุดแผนกคดีเลือกตั้งยังสามารถระงับช่องทางที่เผยแพร่ข่าวปลอมซ้ำ ๆ ได้     ———————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …

เว็บสื่อก็ไม่รอด แฮ็กเกอร์เล็งเป้าโจมตี ปล่อยข่าวปลอม มากับภาพโป๊

Loading

  หากใครชอบอ่านข่าวต่างประเทศ น่าจะเคยผ่านตากับเว็บที่ชื่อว่า Fast Company มาบ้างนะ โดยตอนนี้ เว็บดังกล่าวได้ถูกแฮกเกอร์โจมตี และปล่อยข่าวปลอม ข้อความเหยีดผิว และรูปภาพโป๊อนาจารไปยังผู้อ่านผ่านแพลทฟอร์ม Apple News   ในการตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าว Apple ได้ให้ข้อมูลว่า เว็บไซต์ FastCompany ถูกแฮก ทำให้ Apple ได้ทำการปิดการใช้งาน FastCompany บน Apple News ทันทีครับ   ทั้งนี้ Fast Company ได้แพร่แถลงการณ์ที่ยืนยันการโจมตีจริง ๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนตอนนี้ ต้องปิดการใช้งานหน้าเว็บ และรอการแก้ไขครับ   เห็นแบบนี้แล้ว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะการเผยแพร่ข่าวที่สร้างความเกลียดชังหรือสร้างกระแสลบใด ๆ ออก การจะแก้ข่าวก็อาจเป็นเรื่องที่ยากกว่า เห็นได้ชัดกับกรณี Fake News ในบ้านเรา ซึ่งถ้าหากว่าวันหนึ่ง เว็บไซต์สื่อดัง ๆ โดนแฮกแล้วเผยแพร่ข่าวปลอม มันอาจจะสร้างความเสียหายมาก ๆ…

เมื่อ TikTok ถูกใช้หาข้อมูลแทน Google! มีรายงานชี้ว่า 1 ใน 5 ของวิดีโอนำเสนอข้อมูลที่ผิด

Loading

  TikTok สำหรับหลายคนเป็นแหล่งรวมวิดีโอสนุก ๆ ไว้ดูคั่นเวลาว่าง เป็นเหมือนพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจเอาไว้สำหรับความบันเทิง ซึ่งตัวแพลตฟอร์มมีอัลกอริทึมที่เรียนรู้ความชอบของผู้ใช้งานแต่ละคนและนำเอาวิดีโอที่คิดว่าเราน่าจะสนใจมาป้อนให้ดูอย่างไม่มีวันหมด (ซึ่งบางทีก็ติดพันดูไปเป็นชั่วโมงได้เหมือนกัน)   แต่อย่างที่เราทราบกันดีครับว่า TikTok ไม่ใช่แหล่งรวมวิดีโอเพื่อความบันเทิงเพียงเท่านั้น มันยังเป็นพื้นที่ของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากที่ต่าง ๆ ทั้งเชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้รวมกันไว้ในนี้ด้วย รายงานล่าสุดของนักวิจัยจาก NewsGuard (เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว) บอกว่า 1 ใน 5 (หรือ 20%) ของวิดีโอบน TikTok นั้นแสดงข้อมูลที่เป็นข่าวปลอมหรือมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง   ยกตัวอย่างถ้าค้นหาเรื่อง ‘mRNA Vaccine’ จะมีวิดีโอที่มีข้อมูลผิด ๆ ขึ้นมาถึง 5 คลิปใน 10 คลิปแรก อย่างเช่นวิดีโอหนึ่งบอกว่าวัคซีน Covid-19 นั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายกับอวัยวะสำคัญของเด็กแบบที่รักษาไม่หาย ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีข้อพิสูจน์หรือหลักฐานใด ๆ มาอ้างอิงเลย   แถม TikTok ยังแสดงคำค้นหาที่ส่อถึงอคติอันเอนเอียงด้วยอย่างเช่น ถ้าเราคนหา “Covid Vaccine” อัลกอริทึมของ TikTok ก็จะแนะนำขึ้นมาเพิ่มว่า “Covid…

เตือน! อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมทำแบบสอบถามแลกเงินหมื่น

Loading

  กระทรวงดีอีเอส วอนประชาชนหยุดหลงเชื่อเฟคนิวส์ตอบแบบสอบถามแลกเงินหมื่น ส่องสถานการณ์ข่าวปลอมรอบสัปดาห์ล่าสุด พบติด 2 อันดับในท็อป 10 ข่าวปลอมที่คนสนใจมากสุด   น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ดีอีเอสได้ สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 12-18 ส.ค. 65 จากการประสานงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข่าวที่ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 67 เรื่อง ในจำนวนนี้พบว่าข่าวปลอมที่ติดกระแสความสนใจของคนส่วนใหญ่ เกาะกลุ่มอยู่ที่เรื่องการเงินถึง 9 เรื่อง จากการจัดอันดับข่าวคนสนใจมากสุด   สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับ ในรอบสัปดาห์ล่าสุดนี้ ได้แก่   อันดับ 1 เรื่อง PTT Company Limited เชิญชวนให้ตอบแบบสอบถามเพื่อได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท อันดับ 2 เพจปล่อยเงินกู้ธนาคารกรุงไทย อันดับ 3 ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน…