สหประชาชาติ เตือนทั่วโลกเพิ่มการป้องกันโจมตีทางไซเบอร์ ปล้นคริปโตของเกาหลีเหนือ
คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ รายงานการตรวจสอบตามข้อกล่าวหาที่ว่า เกาหลีเหนือดำเนินกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตราย เพื่อหารายได้เข้าประเทศ
คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ รายงานการตรวจสอบตามข้อกล่าวหาที่ว่า เกาหลีเหนือดำเนินกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตราย เพื่อหารายได้เข้าประเทศ
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรป (Committee on Economic and Monetary Affairs) ลงมติรับร่างกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินผ่านคริปโต ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ ธุรกรรมคริปโตทุกรายการ ต้องมีข้อมูลของผู้ทำธุรกรรมเพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตามรอยได้ หากเป็นกรณีซื้อผ่านตัวกลางหรือ exchange ต้องทำ KYC ทั้งหมด รวมถึงกระเป๋าเงินส่วนตัว (unhosted หรือ self-hosted wallet) กฎหมายก็ระบุให้ต้องตามรอยเช่นกัน หากกฎหมายผ่านแล้ว หน่วยงานกำกับดูแลจะมีหน้าที่หาโซลูชันทางเทคนิคเพื่อให้ตามรอยได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้มีข้อยกเว้นให้การทำธุรกรรมแบบ P2P ระหว่างบุคคลโดยตรงที่ไม่ผ่านตัวกลาง เดิมทีร่างกฎหมายฉบับนี้มีข้อยกเว้นให้ธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อยกว่า 1,000 ยูโร แต่สมาชิกกรรมาธิการลงมติยกเลิกข้อยกเว้นนี้ เท่ากับบังคับใช้ต่อทุกธุรกรรม ขั้นถัดไปร่างกฎหมายจะเข้ากระบวนการของสภายุโรป และน่าจะโหวตในที่ประชุมสภาช่วงเดือนเมษายนนี้ ที่มา – European Parliament , Coindesk , ภาพจาก European Parliament ที่มา : blognone / วันที่เผยแพร่ 1 เม.ย.65…
กลุ่ม NGO และแฮ็กเกอร์ที่สนับสนุนยูเครนได้รับบริจาคคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังเกิดวิกฤตตึงเครียดกับรัสเซีย Reuters อ้างรายงานจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านบล็อกเชน Elliptic ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ระบุว่า องค์กรเอกชนและกลุ่มนักแฮ็กข้อมูลทางไซเบอร์ที่ให้การสนับสนุนยูเครน สามารถระดมทุนในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังเกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครน ท่ามกลางความกังวลว่ายูเครนจะถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซีย รายงานระบุว่าในปี 2021 มีการบริจาคสกุลเงินดิจิทัลไปยังองค์กรเอกชนเหล่านี้มูลค่ากว่า 550,000 เหรียญสหรัฐ โดยบางส่วนใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ให้แก่กองกำลังยูเครน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 6,000 เหรียญสหรัฐในปี 2020 Elliptic ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลบนบล็อกเชน พบว่ากลุ่ม Come Back Alive ซึ่งมีฐานอยู่ในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เริ่มระดมทุนคริปโตในปี 2018 แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 ได้รับบริจาคคริปโตไปแล้วมูลค่าเกือบ 200,000 เหรียญสหรัฐ โดยกลุ่ม Come Back Alive กล่าวว่าได้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และเวชภัณฑ์ให้แก่กองทัพยูเครน รวมถึงโดรน กล้องติดปืนไรเฟิลซุ่มยิง และระบบเฝ้าระวัง “เราสร้างกระเป๋าเงิน…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว