ล้างเผ่าพันธุ์ด้วยกระสุนพิษยูเรเนียม

Loading

มกราคม 2022 เกิดวิกฤติในคาซัคสถาน แล้วก็พบห้องแล็บชีวภาพของสหรัฐฯ ที่เก็บข้อมูลที่ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นคนคาซัค รัสเซีย จีน ฯลฯ กุมภาพันธ์ 2022 เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน รัสเซียยึดค่ายทหารได้หลายแห่ง พบห้องแล็บแบบเดียวกับที่เจอในคาซัคสถาน แต่มีจำนวนมากมายหลากหลายกว่า กลุ่มตัวอย่างของคนที่ถูกเก็บข้อมูลเป็นพวกเผ่าพันธุ์สลาฟ ทั้งอูเครนและรัสเซีย เชื่อว่านี่คือการพัฒนาอาวุธชีวภาพ

ระเบิดลูกปราย (คลัสเตอร์บอมบ์) คืออะไร ทำไมสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งให้ยูเครน?

Loading

    สหรัฐอเมริกาประกาศว่าจะจัดส่ง ‘ระเบิดลูกปราย’ (Cluster Munitions) หรือ ‘คลัสเตอร์บอมบ์’ ให้กับยูเครนตามคำขอ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน เนื่องจากคลัสเตอร์บอมบ์ถูกมองว่าเป็นอาวุธร้ายแรงที่ปัจจุบันถูกแบนในกว่า 120 ประเทศ   คลัสเตอร์บอมบ์คืออะไร อันตรายอย่างไร?   ระเบิดลูกปรายหรือคลัสเตอร์บอมบ์ เป็นระเบิดที่บรรจุลูกระเบิดขนาดเล็กๆ ไว้ภายในจำนวนมาก วิธีการใช้ทำได้หลายวิธี คือ สามารถทิ้งลงจากเครื่องบิน ขีปนาวุธ หรือยิงโดยปืนใหญ่จากพื้นดินสู่พื้นที่เป้าหมายก็ได้ โดยคลัสเตอร์บอมบ์จะระเบิดกลางอากาศเพื่อปล่อยลูกระเบิดย่อยให้กระจายเป็นวงกว้าง   จากมุมมองด้านการทหาร ระเบิดลูกปรายมีประสิทธิภาพอย่างน่ากลัวเมื่อใช้โจมตีกองทหารราบที่ประจำการอยู่ในสนามเพลาะหรือหลุมที่ถูกขุดเพื่อเป็นที่มั่นในการต่อสู้ ตลอดจนที่ประจำอยู่ตามป้อมค่ายต่างๆ   อย่างไรก็ดี ความอันตรายของอาวุธชนิดนี้คือ ระเบิดลูกปรายมีความคลาดเคลื่อนผิดพลาดจากเป้าหมายและไม่ระเบิดในอัตราที่สูง หรือ ‘Dud Rate’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าระเบิดตกลงบนพื้นที่เปียกหรือนุ่ม   รายงานของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ระบุว่า ระเบิดลูกปรายที่ถูกนำมาใช้ในความขัดแย้งล่าสุดนั้น มีอัตราระเบิดด้านสูงถึง 40%   นั่นหมายความว่าลูกระเบิดขนาดเล็กอาจตกค้างบนพื้นดิน และอาจระเบิดขึ้นได้ในภายหลังเมื่อถูกหยิบหรือเหยียบ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ แม้ว่าจะผ่านไปอีกยาวนานหลายปีหรือหลายสิบปี ประชาคมระหว่างประเทศจึงพิจารณาเห็นว่า ระเบิดลูกปรายเป็นอาวุธที่ส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรมสูง   กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า…