เยอรมนีผวา! หลังสื่อใหญ่เผยว่าเรือดำน้ำทันสมัยของประเทศ กำลังใช้ระบบนำร่องที่ทำมาจากรัสเซีย

Loading

    German subs using Russian nav systems: report By DAVE MAKICHUK (เดฟ มาคิชุค) 05/04/2021   สื่อใหญ่เยอรมนีรายงานว่า เรือดำน้ำทันสมัยของประเทศหลายลำทีเดียวติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบนำร่องที่ทำในรัสเซีย ทำให้เกิดความกังวลกันว่าในกรณีเกิดการโจมตีทางไซเบอร์อย่างเลวร้ายที่สุด ข้อมูลด้านการเดินทางของเรือเหล่านี้อาจถูกแฮก และเรือเหล่านี้ก็จะสูญเสียความสามารถในการปฏิบัติการไปโดยสิ้นเชิง “บิลด์” (Bild) หนังสือพิมพ์รายวันขายดีที่สุดของแดนดอยช์เสนอข่าวเปิดโปงว่า เรือดำน้ำเยอรมนีที่ประจำการอยู่ในกองทัพเวลานี้ ติดตั้งระบบนำร่องที่ทำในรัสเซีย (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bild.de/themen/uebersicht/themenseiten/alle-themen-15838852.bild.html) รายงานนี้น่าที่จะทำให้เกิดความขนพองสยองเกล้าขึ้นในหมู่ชาติพันธมิตรนาโต้ด้วยกัน ไม่ใช่ว่ามันเป็นระบบนำร่องที่เลวร้ายย่ำแย่หรอก แต่สิ่งซึ่งเป็นประเด็นปัญหาอย่างชัดเจนก็คือ ระบบเหล่านี้อาจมีจุดอ่อนที่จะถูกก่อวินาศกรรมหรือถูกควบคุมบงการโดยพวกหน่วยงานข่าวกรองต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรัสเซีย ซึ่งถูกถือเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของนาโต้เสียด้วย ข่าวนี้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางความบาดหมางขมึงตึงระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตก ในประเด็นปัญหาต่างๆ อย่างเช่นเรื่องรัสเซียเข้าผนวกดินแดนแหลมไครเมีย และการปฏิบัติที่มอสโกกระทำกับพวกฝ่ายค้านภายในประเทศของตน ยิ่งกว่านั้น วังเครมลินยังกำลังระดมกำลังทั้งรถถัง, กองทหาร, และเฮลิคอปเตอร์ ไปอยู่ตรงแถวๆ ชายแดนรัสเซียที่ประชิดกับยูเครน กลายเป็นสัญญาณเตือนภัยอันตรายอย่างแรงขึ้นที่เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กองทัพเรือเยอรมนีที่ไม่มีการเอ่ยนามรายหนึ่งบอกกับ บิลด์ ว่า “แน่นอนล่ะ เรารู้สึกกังวลว่าข้อมูลของเราจะถูกแอบดักฟัง…

กระทรวงดิจิทัลฯ เตรียมหารือไทยคม-อินทัช เคลียร์ปมหุ้นต่างชาติ

Loading

  “ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส เชิญผู้บริหารไทยคม และอินทัช เคลียร์ปมปัญหา-ขยับสัดส่วนถือหุ้นไทย-หุ้นต่างชาติในไทยคม ไม่ต่ำกว่า 51% หวังเร่งให้จบดันวาระเข้า ครม. ทันก่อนหมดอายุสัมปทานในเดือน ก.ย. 64 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 4 และ 6 ซึ่งจะสิ้นสุดอายุสัมปทานในเดือนกันยายน 2564 ว่า อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดรอบด้าน ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร็วที่สุด ก่อนวันครบอายุสัมปทาน เพื่อเดินหน้าการโอนถ่ายการบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม ให้กับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการของวิสาหกิจสื่อสารทั้ง 2 แห่งของรัฐ คือ บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม เพื่อให้สามารถเดินหน้าให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีประเด็นสำคัญบางข้อ ที่จำเป็นต้องได้ข้อสรุป คือ โครงสร้างผู้ถือหุ้นในปัจจุบันของ บมจ.ไทยคม ซึ่งเมื่อดูในรายละเอียดเชิงลึกแล้วบริษัทแม่ของไทยคม คือ…

นายกฯ อังกฤษกร้าว รัสเซียเป็นภัยสูงสุด-เตรียมเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์

Loading

  นายกฯ อังกฤษเผยนโยบายต่างประเทศและกองทัพ ยืนยันรัสเซียเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 เล็งเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์ และพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร เผยแพร่รายงานนโยบายต่างประเทศและกองทัพของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ในวันอังคารที่ 16 มี.ค. 2564 ระบุว่า รัสเซียเป็นความท้าทายทางความมั่นคงระดับสูงสุดของประเทศ และอังกฤษจะผลิตหัวรบนิวเคลียร์เพิ่ม รวมทั้งจะขยายบทบาทของประเทศในเรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงเกี่ยวกับอวกาศและระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว นายจอห์นสันบอกว่า รัฐบาลอังกฤษจะเพิ่มงบประมาณกลาโหมอีก 2.4 หมื่นล้านปอนด์ตลอดช่วง 4 ปีข้างหน้า และจะลงทุนเงินหลายหมื่นล้านปอนด์ในด้านอื่นๆ รวมถึง 1.5 หมื่นล้านปอนด์สำหรับการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสนาและเทคโนโลยี, 1.7 หมื่นล้านปอนด์สำหรับการต่อสู้กับภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และอีก 1.3 หมื่นล้านปอนด์เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 รายงานดังกล่าวยังย้ำจุดยืนว่า การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและกลาโหมระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก และพวกเขาจะรับผิดชอบอย่างแรงกล้าต่อกลุ่มพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แต่ในขณะเดียวกันก็จะขยายบทบาทของอังกฤษไปทั่วโลก โดยโน้มเอียงไปทางภูมิภาค อินโด-แปซิฟิก ในช่วงทศวรรษหน้า รายงานความยาว 116 หน้าฉบับนี้ ยังระบุถึงความท้าทายจากประเทศจีนด้วยว่า “อำนาจที่เพิ่มพูนและการกล้าแสดงออกต่อนานาชาติของจีน อาจเป็นปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีนัยสำคัญที่สุดในช่วงทศวรรษที่ 2020” และระบุด้วยว่า…

ฮ่องกงขีดเส้นตายสั่งขรก. เซ็นเอกสารคุณธรรม-จริยธรรม

Loading

  รัฐบาลฮ่องกง “ขีดเส้นตาย 4 สัปดาห์” ให้ข้าราชการทุกคนต้องลงนามในเอกสาร ว่าด้วยความซื่อสัตย์และความภักดี ต่อเบสิกลอว์ คณะผู้บริหาร และรัฐบาลแผ่นดินใหญ่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ว่าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนฮ่องกงออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าข้าราชการประมาณ 180,000 คน ในเขตบริหารพิเศษ “มีเวลาทั้งสิ้น 4 สัปดาห์” ในการลงนามรับรองเอกสาร “ยืนยันความซื่อสัตย์สุจริต” และ “ความภักดี” ต่อเบสิกลอว์ ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง คณะผู้บริหารฮ่องกง และรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง ทั้งนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า “ความลังเลหรือการปฏิเสธ” ที่จะลงนามในเอกสารดังกล่าว อาจสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับผู้บังคับบัญชา เกี่ยวกับความพร้อมและความเต็มใจของข้าราชการผู้นั้นว่า “สมควร” ได้รับความไว้วางใจ” จากผู้บังคับบัญชา” ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหรือไม่   เนื้อหาตอนหนึ่งในเอกสารระบุด้วยว่า “การสนับสนุนหรือมีส่วนร่วม” ต่อการเคลื่อนไหว “เพื่อเอกราชของฮ่องกง” ที่รวมถึงการปฏิเสธยอมรับ “อำนาจอธิปไตยของจีน” ที่อยู่เหนือฮ่องกง และ “การเรียกร้อง” ให้รัฐบาลต่างชาติหรือ “กองกำลังจากภายนอก” เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในฮ่องกง และการดำเนินกิจกรรมที่จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ…