เวเนซุเอลารวบ “สายลับสหรัฐ” ใกล้โรงกลั่นน้ำมัน

Loading

รัฐบาลเวเนซุเอลาประกาศการจับกุมพลเมืองสหรัฐ “ปฏิบัติการจารชน” ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันทางตอนเหนือของประเทศ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ว่าประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา แถลงเมื่อวันศุกร์ ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลการากัสสามารถจับกุม “สายลับชาวอเมริกัน” ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันอามวย และการ์ดอน ในรัฐฟัลกอน ทางเหนือของประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทั้งนี้ มาดูโรให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ที่ถูกจับกุมได้เป็นอดีตนาวิกโยธินซึ่งเคยปฏิบัติภารกิจให้กับสำนักข่าวกรองกลาง ( ซีไอเอ ) ในอิรัก โดยของกลางซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดได้มีทั้งอาวุธปืน และเงินสดจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะเปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติมอย่างแน่นอน “ภายในอีกไม่นานนี้” ขณะเดียวกัน ผู้นำเวเนซุเอลาเตือนให้บุคลากรประจำโรงกลั่นน้ำมันทุกแห่งในประเทศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากการจับกุมพลเมืองสหรัฐรายนี้เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังเจ้าหน้าที่สามารถปลดชนวนระเบิด ซึ่งมีผู้นำมาวางไว้ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันเอล ปาลิโต ในรัฐการาโบโบ ไม่ห่างจากกรุงการากัส ด้านกระทรวงการต่างประเทศในกรุงวอชิงตันยังไม่มีท่าทีอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หากการประกาศของมาดูโร “เป็นความจริง” ถือว่าเวเนซุเอลาสามารถควบคุมตัวพลเมืองสหรัฐซึ่งพยายาม “ก่อความไม่สงบ” ภายในประเทศได้เป็นคนที่ 3 ภายใระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ต่อจากการจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่อดีตหน่วยรบพิเศษกรีนเบอเรต์ 2 นาย และศาลพิพากษาให้ทั้งสองคนรับโทษจำคุกเป็นเวลา 20 ปี…

ไมโครซอฟท์เตือน แฮ็กเกอร์จีน-รัสเซียพยายามป่วนเลือกตั้งสหรัฐ

Loading

บริษัทไมโครซอฟท์เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่าสามารถขัดขวางการโจมตีไซเบอร์จากจีน, รัสเซีย และอิหร่าน ที่พุ่งเป้าเจาะระบบของทีมหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีทั้งของรีพับลิกันและเดโมแครต คำประกาศของไมโครซอฟท์เกิดไล่หลังบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐขยับป้องกันการแทรกแซงเลือกตั้งจากต่างประเทศ โดยทวิตเตอร์เตรียมจะบังคับใช้นโยบายกำจัดข้อมูลเท็จหรือชี้นำแบบผิดๆ ที่มีเจตนาบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมถึงการอ้างชัยชนะที่ไม่ผ่านการพิสูจน์ยืนยัน และกูเกิลประกาศจะดำเนินมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าระบบการเติมคำค้นหาอัตโนมัติจะไม่ชี้นำแบบผิดๆ ไมโครซอฟท์แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายนว่า แฮ็กเกอร์หลายรายกำลังพุ่งเป้าโจมตีคณะทำงานหาเสียงทั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ทอม เบิร์ต รองประธานไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ไมโครซอฟท์ตรวจพบการโจมตีไซเบอร์ที่พุ่งเป้าหมายที่บุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 3 พฤศจิกายน ไม่เพียงแค่ในสหรัฐ ไมโครซอฟท์ยังพบว่า คนร้ายยังโจมตีผู้ทำงานการเมือง, หน่วยงานคลังสมอง, ผู้ให้คำปรึกษาและพรรคการเมืองในยุโรปด้วยเช่นกัน คำแถลงระบุชื่อกลุ่มแฮ็กเกอร์จากรัสเซีย “สตรองเทียม” ว่าโจมตีองค์กรมากกว่า 200 แห่ง ส่วน “เซอร์โคเนียม” ที่มีฐานอยู่ในจีนโจมตีบุคคลระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสหรัฐ รวมถึงผู้ที่ทำงานให้กับทีมหาเสียงของไบเดน และแกนนำคนสำคัญๆ ในประชาคมกิจการระหว่างประเทศ ส่วนของอิหร่านที่มีชื่อว่า “ฟอสฟอรัส” นั้นพุ่งเป้าโจมตีบัญชีส่วนบุคคลของผู้ที่ทำงานให้กับการหาเสียงของทรัมป์ ——————————————- ที่มา : ไทยโพสต์ / 11 กันยายน 2563 Link : http://www.thaipost.net/main/detail/77176

มะกันเพิกถอนวีซ่าชาวจีนกว่าพันคน หวั่นเป็นภัยคุกคามความมั่นคง

Loading

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาแถลงเมื่อวันที่ 9 กันยายน ว่า จนถึงวันที่ 8 กันยายน สหรัฐได้ทำการเพิกถอนวีซ่าของบุคคลสัญชาติจีนไปแล้วมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งเป็นไปภายใต้คำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่สั่งห้ามการเดินทางเข้ามาของนักศึกษาและนักวิจัยชาวจีนที่ดูเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ อันเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้จีนของสหรัฐกรณีจำกัดการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐชี้ว่านักศึกษาและนักวิจัยชาวจีนที่ถูกเพิกถอนวีซ่านี้เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ของชาวจีนที่เดินทางเข้ามาศึกษาและทำวิจัยในประเทศสหรัฐ ซึ่งนักเรียนนักศึกษาที่มีความถูกต้องชอบธรรมทางกฎหมายจะยังคงได้รับการต้อนรับจากสหรัฐต่อไป ก่อนหน้านั้นนายแชด วูล์ฟ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐกำลังยุติกการออกวีซ่าให้กับนักศึกษาและนักวิจัยชาวจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ของกองทัพจีน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลและงานวิจัยที่มีความอ่อนไหว นายวูล์ฟยังกล่าวเน้นย้ำในสิ่งที่สหรัฐกล่าวหาจีนว่าได้ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจและจีนยังจารกรรมข้อมูลด้านอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงความพยายามขโมยงานวิจัยเรื่องไวรัสโคโรนา ตลอดจนการใช้วีซ่านักเรียนเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสถานศึกษาของสหรัฐ ทั้งนี้ ผลจากมาตรการข้างต้นได้มีนักศึกษาชาวจีนบางรายที่สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของสหรัฐแล้ว ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาได้รับอีเมล์แจ้งจากสถานทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่งหรือสถานกงสุลสหรัฐในจีนว่าวีซ่าของพวกเขาถูกยกเลิกแล้ว ————————————————– ที่มา : มติชน / 10 กันยายน 2563 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2342637

การประมาณการและพยากรณ์ในงานข่าวกรอง: แยกแยะ “สัญญาณ” และ “สิ่งรบกวน” (ตอนที่ 3)

Loading

  ที่มาภาพ: https://www.nytimes.com/2012/10/24/books/nate-silvers-signal-and-the-noise-examines-predictions.html Written by Kim  ข้อเสนอประการที่สาม หนึ่งในความสำคัญลำดับต้น ๆ คือ การมุ่งเน้นความพยายามในการรวบรวมข่าวกรอง (intelligence collection effort) ควรได้รับการเน้นย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า หากช่องว่างระหว่างการวิเคราะห์บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือ ทันสมัย แม่นยำและการประมาณการบนพื้นฐานของการคาดคะเน (speculation) ด้วยข้อมูลที่อาจไม่น่าเชื่อถือน้อยลงเท่าใด ความเป็นไปได้ของการคาดการณ์จะมีความแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่เป็นไปได้ควรวางภาระไว้ที่ผู้รวบรวม (บุคคลากรที่ทำงานในระบบรวบรวม) ซึ่งจัดเตรียมข้อมูลดิบที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์เพื่อปิดช่องว่าง           แน่นอนว่ามีอันตรายแอบแฝงจำนวนมาก ระบบ (ปฏิบัติการ) รวบรวมมีความสามารถเพียงเล็กน้อยในการจำแนกความแตกต่างระหว่าง “ข้อมูลที่ตรงประเด็นและไม่ตรงประเด็น (relevant and not-relevant data)” ระหว่าง “เสียงรบกวน (noise)” และ “สัญญาณ (signal)”[1] การกรองข้อมูลที่เข้ามายังคงเป็นความรับผิดชอบนักวิเคราะห์ข่าวกรองเสมอ ภาพแคปจากไทยรัฐออนไลน์ ตัวอย่างการวิเคราะห์ข่าวกรองหรือการประมาณการข่าวกรองด้วยการแยกแยะ “สัญญาณ” และ “สิ่งรบกวน” ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในไทย คือ พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (ฉบับออนไลน์) เมื่อ 3 กันยายน 2563 เรื่อง จับสัญญาณ “ปฏิวัติ” ปฏิบัติการ “ลับ” ทบ.เคลื่อนพลฝึกซ้อม-พร้อมรบ เพื่อเรียความสนใจของ “ผู้บริโภค” ข่าวสาร[2] แต่ในฐานะนักวิเคราะห์มีความจำเป็นที่จะต้องแยกแยะสองสิ่งดังกล่าวซึ่งมีผลต่อการประมาณการที่ถูกต้อง แม่นยำ          ประการที่สี่หนทางปฏิบัติสุดท้าย ควรทำให้ระบบการรวบรวมข่าวกรองและนักวิเคราะห์มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด (close ties…

การประมาณการและพยากรณ์ในงานข่าวกรอง: เด็กชายจากโคเปนเฮเกน (ตอนที่ 2)

Loading

ที่มาภาพ: captured at: https://www.youtube.com/watch?v=GBKXTx45yGE Written by Kim บทความตอนที่แล้วได้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง “หมอดู” กับ “นักวิเคราะห์ข่าวกรอง” ในตอนนี้เราจะอภิปรายถึงการดำเนินหนทางปฏิบัติสำคัญ 4 แนวทาง เพื่อตอบสนองความต้องการที่จำเป็นของประชาคมข่าวกรองและผู้ที่พึ่งพาอาศัยการประมาณการให้ดียิ่งขึ้น ประการแรก ควรมีการจัดตั้งองค์การข่าวกรองที่ครอบคลุมเบ็ดเสร็จ (Comprehensive intelligence organizations) เพื่อบูรณาการการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการวิเคราะห์ ระบบแยกส่วนโดยมีหน่วยงานรับผิดชอบเฉพาะเรื่อง เช่น หน่วยงานหนึ่งจัดเตรียมประเด็นทางการเมืองเท่านั้น อีกหน่วยเตรียมการทางทหารและยังมีหน่วยวิเคราะห์ทางสังคม – เศรษฐกิจ จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการสังเคราะห์รายงานอย่างเป็นอิสระ ผลผลิตของระบบที่แยกจากกันเป็นการรวบรวมรายงานเป็นตอน ๆ อาจไม่มีการวางแผนหรือมุ่งเน้นแง่มุมด้านใดด้านหนึ่งมากเกินจริง[1] สถานการณ์อันตรายไม่แพ้กันที่ดำรงอยู่ เมื่อไม่มีหน่วยงานกลางทำหน้าที่สังเคราะห์รายงานวิเคราะห์อิสระของสำนักงานต่าง ๆ ให้ดีเพียงฉบับเดียว แต่ละหน่วยงานต่างรายงานการคาดทำนายของตนไปยังผู้ตัดสินใจโดยตรง ปัญหาคือ อุปมาเหมือนคนป่วยไข้ไม่สบายแยกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เช่น ประสาทวิทยา หัวใจ กระดูก แพทย์แต่ละคนก็ตรวจรักษาและวินิจฉัยซึ่งทำให้ผู้ป่วยเกิดความงงงวย ในการตัดสินใจเลือกการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างสาขา ประการที่สอง คัดเลือกนักวิเคราะห์ข่าวกรองทุกระดับด้วยความรอบคอบ (very carefully selected at all echelon) เนื่องจากองค์ประกอบของความไม่แน่นอนสูง จึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้นักวิเคราะห์ที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลงและเห็นคุณค่าความเป็นไปได้ที่มีนัยสำคัญของพัฒนาการใหม่ นักวิเคราะห์ข่าวกรองจะต้องสามารถเปลี่ยนการวิเคราะห์ครั้งก่อนอย่างรวดเร็วเมื่อข้อมูลบ่งชี้ถึงความจำเป็น หากปราศจากคุณภาพที่จำเป็นของความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์ ชะตากรรมของนักวิเคราะห์จะถูกชี้ด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเป็นคำถามของเวลาและโอกาส…

การประมาณการและพยากรณ์ในงานข่าวกรอง: “หมอดู” กับ “นักวิเคราะห์ข่าวกรอง” (ตอนที่ 1)

Loading

ที่มาภาพ: https://www.bangkokpost.com/life/social-and-lifestyle/1823259/your-horoscope-for-27-dec-2-jan Written by Kim ในอดีตกาลที่ผ่านมา “กษัตริย์” และ “นายพล” มักจะไปหารือขอคำแนะนำจากนักดาราศาสตร์หรือโหราจารย์ (หมอดู) ก่อนตัดสินใจเรื่องสำคัญ เช่น การทำสงครามหรือออกรบ ซึ่งเป็นความพยายามแก้ไขปัญหาแบบเก่าภายใต้เงื่อนไขความไม่แน่นอน แม้พวกเราหลายคนยังคงอ่านคำพยากรณ์รายวันเพื่อความสนุกและบันเทิงหรือไปหาหมอดู (ดูหมอ) แต่รัฐบาลในยุคสมัยใหม่แทบจะไม่ต้องพึ่งพาวิธีการ “ปรึกษา” แบบโบราณ           ปัจจุบันผู้มีอาชีพเกี่ยวกับการข่าวกรองได้สืบทอดบทบาทของบุคคลลึกลับเหล่านั้น ยกเว้นผู้ที่ถูกเรียกว่า นายทหารฝ่ายเสนาธิการ (staff officers) หรือข้าราชการพลเรือน (civil servants) แม้พวกเขาทำหน้าที่เป็นมือขวาของผู้มีอำนาจตัดสินใจ ทั้งนี้ ความพยายามใด ๆ ที่จะบรรยายรายละเอียดเชิงเปรียบเทียบระหว่าง “นักวิเคราะห์” และ “หมอดู” จะเปิดเผยให้เห็นมนุษย์สองจำพวกที่แตกต่างกัน           ผู้มีอาชีพด้านการข่าวกรองไม่เคยอ้างตนว่าสามารถทำนายอนาคตได้ แม้จะมีความลับรายล้อมอยู่รอบตัวอย่างสม่ำเสมอ งานข่าวกรองเป็นอะไรที่ตรงไปตรงมาแบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งตอบสนองความจำเป็นที่แตกต่างในการวิเคราะห์ งานข่าวกรองมีขีดความสามารถและความได้เปรียบอันเป็นที่เข้าใจและใช้ประโยชน์ได้ ขณะเดียวกันควรตระหนักถึงข้อจำกัด ผู้มีอำนาจตัดสินใจทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ต้องแบ่งปันความรับผิดชอบกับนักวิเคราะห์ข่าวกรองในกรณีที่ตัดสินใจแย่ ๆ บนพื้นฐานของการประมาณการแบบคาดเดา           บทความนี้[1]จะพูดถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างข่าวกรองกับ “ลูกค้า (clients)” หรือ “ผู้ตัดสินใจ” ที่อาจนำไปสู่การทำงานที่มีการบูรณาการเป็นอย่างดีและความพึงพอใจมากขึ้น ลักษณะพิเศษของนักวิเคราะห์ข่าวกรอง (The Special Traits of…