ยักษ์ใหญ่เทคโนฯ ต้านกฎหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกง ให้อำนาจรัฐเซ็นเซอร์โลกออนไลน์

Loading

สำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางการจีนเริ่มเดินหน้าใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกง ในการเซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ตและการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานในฮ่องกง โดยแผนการสกัดกั้นบนโลกออนไลน์ของกฎหมายใหม่นี้ ถูกเผยแพร่ออกมาในเอกสารของรัฐบาล 116 หน้าเมื่อช่วงคืนวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งยังชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มอำนาจให้แก่ตำรวจในการออกหมายเพื่อบุกค้นและเฝ้าระวัง โดยก่อนหน้านี้ จีนไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงต่อฮ่องกง ยกเว้นเรื่องการห้ามการก่อการร้าย การล้มล้าง การแยกตัว และการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการออกมารับรองว่าจะมีกลุ่มคนที่ตกเป็นเป้าของกฎหมายนี้จำนวนไม่มาก แต่รายละเอียดที่ออกมาแสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเรื่องเสรีภาพและสิทธิของผู้คนในฮ่องกง นับตั้งแต่อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน เมื่อปี ค.ศ.1997 โดยกฎหมายใหม่ ยังให้อำนาจแก่รัฐบาลในเรื่องโลกออนไลน์อย่างเต็มที่ ตำรวจจะมีอำนาจในการควบคุมและยกเนื้อหาออนไลน์ออกได้ หากมีเหตุผลมากพอว่าเป็นข้อมูลที่ต้องสงสัยว่าจะละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และบริษัทอินเตอร์เน็ต รวมทั้งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต สามารถถูกสั่งให้ถอดเนื้อหา และถูกยึดอุปกรณ์ ถูกปรับเงิน รวมทั้งถูกจำคุก 1 ปี หากปฏิเสธที่จะทำตามกฎหมาย และอาจจะต้องให้บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยถอดรหัสการเข้าถึงด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากอเมริกา อย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล และทวิตเตอร์ ต่างออกมาปฏิเสธการที่รัฐบาลหรือตำรวจฮ่องกงจะมาขอข้อมูลผู้ใช้งาน เนื่องจากเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปกป้องกฎหมายความมั่นคงใหม่สำหรับฮ่องกง ที่รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งผ่านร่างกฎหมายไป ว่า เป็นกฎหมายที่จะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของฮ่องกง ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงจะนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้อย่างเข้มแข็ง พร้อมกับขอเตือนล่วงหน้าสำหรับพวกสุดโต่งว่าอย่าได้พยายามที่จะละเมิดกฎหมาย…

ผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นชี้ การใช้โดรนสังหารพล.อ.โซไลมานี “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ”

Loading

REUTERS/Aziz Taher/File Photo สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยการสอบสวนเหตุการณ์ที่สหรัฐใช้โดรนโจมตีในอิรักและสังหารพล.อ.คาเซม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน และพรรคพวกอีก 9 คน ว่า เป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ นางอักเนส์ คาญามาร์ ผู้เสนอรายงานการประชุมพิเศษของยูเอ็น ว่าด้วยการสังหารอย่างไม่เคารพกฎหมาย การประหารชีวิตอย่างรวดรัด หรือประหารตามอำเภอใจ ระบุว่า สหรัฐอเมริกาไม่สามารถหาหลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องหรืออย่างจวนเจียนต่อผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีขบวนรถของพล.อ.โซไลมานี ขณะออกจากสนามบินในกรุงแบกแดด และว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการละเมิดต่อกฎบัตรของยูเอ็น โดยคาญามาร์ ได้เขียนในรายงานเรียกร้องให้มีการออกมารับผิดชอบการต่อการสังหารโดยใช้โดรนเป็นอาวุธและเรียกร้องให้มีกฎบังคับเกี่ยวกับอาวุธที่เข้มงวดขึ้น คาญามาร์ ผู้สอบสวนอิสระ บอกกับรอยเตอร์ด้วยว่า ตอนนี้โลกอยู่ในช่วงวิกฤต และอาจจะเป็นช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ เมื่อมีการใช้โดรน คณะมนตรีความมั่นคงพลาดอะไรไปบางอย่าง ขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศ ต่างพากันเงียบในเรื่องนี้ ซึ่งคาญามาร์ เตรียมนำเสนอรายงานดังกล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าว ————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์ / 7 กรกฎาคม 2563 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2257157

ทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory): นัยของความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

ที่มาภาพ: https://www.dw.com/en/coronavirus-how-do-i-recognize-a-conspiracy-theory/a-53492563 Written by Kim ทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory) อาจส่งผลให้เกิดการรวมกันของกลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง (white supremacists) รวมทั้งกลุ่ม QAnon[1] และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่เห็นว่าไวรัส COVID-19 เป็นโอกาสเดียวที่จะต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคมอย่างเฉียบพลัน สำหรับทฤษฎีสมคบคิดกลุ่มต่อต้านยิว (anti-Semitic conspiracy theories) ปรากฏตัวบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมหลัก (mainstream social media) และซอกหลืบของอินเทอร์เน็ต ส่วนทฤษฎีสมคบคิดกลุ่ม 5G และการต่อต้านวัคซีนถูกใช้กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งนี้ การแพร่ขยายและการทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเข้าสู่ภาวะเป็นปกติ (normalization) เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อสื่อกระแสหลักลดน้อยลงหรือการผสานความเป็นพิษ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ[2]           นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤติไวรัส COVID-19 รัฐและตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actors) ได้ผลักดันทฤษฎีสมคบคิดอย่างหลากหลาย โดยสร้างเรื่องเท็จเพื่อประณามศัตรูเก่า คุกคามผู้ที่ตน (คิดว่า) เป็นศัตรูใหม่และกล่าวโทษรัฐบาล มีประเด็นทับซ้อนทางความคิดระหว่างกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งและกลุ่มต่อต้านรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเล่าผิด ๆ เกี่ยวกับ COVID-19 ทำให้กลุ่มดังกล่าวบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ชุมชนคนขาวผู้สูงส่งเห็นว่า COVID-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการสร้่างเชื้อชาติสหรัฐฯที่บริสุทธิ์ กลุ่ม QAnon ซึ่งเป็นการรวมตัวแบบหลวม ๆ ของความเชื่อเกี่ยวกับวันสิ้นโลกและการจุติใหม่ของพระเยซูเห็นว่า COVID-19 จะทำให้เกิดการตื่นรู้ครั้งใหญ่ (Great Awakening) ส่วนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมองว่า COVID-19 เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่จะถอดถอนเสรีภาพของพลเรือนและเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐพันลึก (deep state) ที่จะขับไล่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง สำหรับกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายทหารและมีแนวคิด “สงครามกลางเมือง” เช่น ขบวนการBoogaloo เห็นว่า COVID-19 ทำให้มั่นใจว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ถูกช่วงชิงไป…

นานาชาติหวั่นใจการบังคับใช้กม.ความมั่นคงใหม่ของจีนในฮ่องกง

Loading

กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่รัฐบาลจีนอนุมัติให้ฮ่องกงมีผลบังคับใช้แล้ว ทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลและกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะกลุ่มนักเคลื่อนไหวและผู้ที่มีความเห็นต่าง ด้วยความกลัวบทลงโทษที่นำมาใช้จากนี้ไป สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ลงนามรับรองกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ที่คณะกรรมาธิการสภาประชาชนแห่งชาติจีนมีมติอนุมัติใช้ในฮ่องกงในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น โดยรายงานข่าวระบุว่า หลังจากนี้ ทางการจีนจะเพิ่มเติมมาตรการใหม่ต่างๆ ของกฎหมายนี้เข้าไปในอนุรัฐธรรมนูญของฮ่องกงต่อไป นางแครี่ แลม ผู้บริหารเกาะฮ่องกง เผยว่า กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในช่วงค่ำของวันอังคาร ซึ่งเป็นวันก่อนวันครบรอบ 23 ปีที่อังกฤษส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงให้จีน กฎหมายฉบับใหม่ที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งผ่านออกมาใช้งานในฮ่องกงนี้ มีจุดประสงค์เพื่อหยุดยั้งการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ดำเนินมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่มีความผิดฐานพยายามแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างการปกครอง ก่อการร้าย และสมคบคิดกับต่างชาติเพื่อทำการใดๆ สำนักข่าวซินหัว รายงานโดยอ้างคำพูดของ หลี่ จานชู ประธานคณะกรรมาธิการสภาประชาชนแห่งชาติจีน ว่า กฎหมายใหม่นี้ร่างออกมาตามหลักการของ “การลงทุนคนกลุ่มน้อยเพื่อปกป้องคนส่วนใหญ่” และเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงระยะยาวของฮ่องกง ขณะที่ยังไม่มีใครได้เห็นรายละเอียดของกฎหมายความมั่นคงฉบับล่าสุดนี้ รายงานข่าวสื่อท้องถิ่น อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับกรณีนี้ว่า ผู้บริหารของฮ่องกงและหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติใหม่ที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งตั้งขึ้นในฮ่องกงสามารถส่งตัวผู้กระทำความผิด “ร้ายแรง” ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงไปขึ้นศาลในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ และว่าโทษของผู้กระทำความผิดนั้นเป็นการจำคุกที่เริ่มตั้งแต่ 3 ถึง 10 ปี รวมทั้งการจำคุกตลอดชีวิตในบางกรณีด้วย หลังมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่ ตัวแทนกลุ่มเคลื่อนไหวด้านการเมืองที่เป็นที่รู้จักกันทั่ว อาทิ โจชัว หว่อง นาธาน…

กองทัพคุมเมืองหลวงเอธิโอเปีย หลังเหตุจลาจลคร่าไปกว่า 80 ชีวิต

Loading

Addis Ababa on farwell of singer hachalu สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) กองทัพเข้าควบคุมสถานการณ์ในกรุงอาดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย หลังจากที่มีการจลาจลรุนแรงบนท้องถนนเข้าสู่วันที่สอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 80 คน เบเดซซา เมอร์ดัซซา ผู้บัญชาการตำรวจแคว้นโอโรมิยา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีทั้งพลเรือน 78 คน สมาชิกกองกำลัง 3 คน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าตำรวจถูกสังหาร 1 คน และเกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 ครั้งในกรุงอาดดิสอาบาบา โดยยังไม่มีการระบุตัวเลขผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต การประท้วงถูกจุดชนวนจากการยิงสังหาร ฮาคาลู ฮันดีซ์ซา นักร้องชื่อดังของเอธิโอเปีย เมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย. โดยการประท้วงเริ่มในกรุงอาดดิสอาบาบา ก่อนจะขยายไปในอีกหลายเมืองของแคว้นโอโรมิยา ยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า งานศพของฮาคาลูในวันที่ 2 ก.ค. อาจจุดปะทุให้เกิดการจลาจลมากขึ้นกว่าเดิม FILE: Ethiopian musician Haacaaluu Hundeessaa poses…

เผยรายละเอียด กม.คุมฮ่องกง จีนมีอำนาจศาลคดีร้ายแรง, ตั้งหน่วยงานความมั่นคงฯบนเกาะ

Loading

เอเอฟพี – จีนจะมีอำนาจศาลเหนือคดีอาชญากรรมความมั่นคงแห่งชาติ “ร้ายแรงมาก” ในฮ่องกง ในความผิดที่ต้องเผชิญโทษสูงสุด คือ จำคุกตลอดชีวิต จากเนื้อหาของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่เปิดเผยในวันอังคาร (30 มิ.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมันถูกบังคับใช้ในเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ กฎหมายซึ่งเป็นที่ถกเถียงฉบับนี้ ยังให้อำนาจจีนจัดตั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง โดยจะมีพนักงานเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะไม่อยู่ภายใต้ข้อผูกมัดของกฎหมายท้องถิ่น ยามที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ ชุดอำนาจใหม่นี้ถือเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและฮ่องกงอย่างรุนแรง โดยเป็นการโค่นปราการป้องกันทางกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกั้นระหว่างระบบศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระของฮ่องกงกับศาลที่ควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์ ในจีนแผ่นดินใหญ่ กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่กำหนดให้อาชญากรรมด้านความมั่นคงแห่งชาติ 4 ประเภทเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ประกอบด้วย การล้มล้างการปกครอง, แบ่งแยกดินแดน, ก่อการร้ายและสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติก่ออันตรายแก่ความมั่นคงแห่งชาติ เนื้อหาของกฎหมายได้หยิบยก 3 กรณีที่จีนอาจเข้าควบคุมกระบวนการพิจารณาคดี ได้แก่ คดีซับซ้อนที่ต่างชาติเข้าแทรกแซง, คดีร้ายแรงมากๆ และยามที่ความมั่นคงแห่งชาติต้องเผชิญกับภัยคุกคามเลวร้ายและเป็นจริง กฎหมายย้ำว่าทั้งหน่วยงานความมั่นคงแหงชาติ และฮ่องกง ต่างสามารถร้องขอส่งมอบคดีแก่จีนแผ่นดินใหญ่ และการฟ้องร้องคดีจะดำเนินการโดยอัยการที่ได้รับการแต่งตั้งจากอัยการสูงสุดของประชาชน และการพิจารณาคดีจะมีขึ้นในศาลที่กำหนดโดยศาลศาลสูงสุดของประชาชน “ไม่สำคัญว่ามีการใช้ความรุนแรงหรือไม่ หรือมีการข่มขู่ใช้ความรุนแรงหรือเปล่า แกนนำหรือผู้กระทำผิดร้ายแรงจะถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและขั้นต่ำสุดติดคุก 10 ปี” กฎหมายประกาศ “รัฐบาลฮ่องกงไม่มีขอบเขตอำนาจศาลเหนือหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานฯ ยามที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายนี้” เนื้อหาของกฎหมายระบุ กฎหมายระบุด้วยว่าคดีความมั่นคงแห่งชาติบางคดีจะพิจารณาคดีแบบลับในฮ่องกง โดยปราศจากคณะลูกขุน หากว่าคดีเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับความลับของรัฐ แต่จะมีการเปิดเผยคำพิพากษาต่อสาธารณะในภายหลัง ————————————————————–…