กต.สหรัฐฯ ออกคำเตือนระวังภัยโจมตีทางไซเบอร์จากเกาหลีเหนือ

Loading

The Harry S. Truman Building, headquarters for the State Department กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำเตือนให้ภาคธุรกิจธนาคารและการเงินระวังภัยการโจมตีทางไซเบอร์จากเกาหลีเหนือ ที่อาจมุ่งเป้าไปยังกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในประเทศ คำเตือนจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ออกมาในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับวันที่ชาวเกาหลีเหนือฉลองวันคล้ายวันเกิดของอดีตผู้นำ คิม อิล-ซุง เป็นผลของการทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และ FBI โดยไม่มีการระบุถึงห้วงเวลาที่ต้องมีการระวังภัยใดๆ ในคำเตือนล่าสุดนี้ ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ความพยายามด้านไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่มีมาต่อเนื่องนั้น ถือเป็นภัยอันใหญ่หลวงต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบการเงินระหว่างประเทศอย่างยิ่ง คำเตือนนี้ยังย้ำด้วยว่า แฮคเกอร์ของเกาหลีเหนือมีความสามารถที่จะป่วนและสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้ด้วย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือ ทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดผลกระทบจากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือให้ได้ ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ให้ความเห็นว่า เกาหลีเหนืออาจจ้างคนภายนอกทำการโจมตีทางไซเบอร์ได้ เพราะที่ผ่านมา การสอบสวนต่างๆ ไม่ค่อยสามารถสาวไปถึงผู้สั่งการที่เป็นคนในรัฐบาลใดๆ ได้เลย ——————————————————————- ที่มา : VOA Thai / 16 เมษายน 2563 Link…

วิกฤตไทย 2563 ! ข้อสังเกต 10 ประการ โดย สุรชาติ บำรุงสุข

Loading

โดย สุรชาติ บำรุงสุข ประเทศไทยไม่แตกต่างจากหลายประเทศทั่วโลกที่วันนี้ตกอยู่ภายใต้วิกฤตการณ์ชุดใหญ่ อันเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้กำลังเปลี่ยนแปลงสังคมโลกครั้งใหญ่เช่นไร สังคมไทยก็กำลังถูกความเปลี่ยนแปลงไปเช่นนั้นไม่แตกต่างกันด้วย หรือดังที่นักสังเกตการณ์ทั้งหลายมีความเห็นในระดับโลกร่วมกันก็คือ โลกหลังยุคก่อนโควิดจะไม่หวนกลับมาหาเราอีก เช่นที่โลกยุคหลังโควิดก็จะแตกต่างออกไปจากยุคก่อนอย่างมาก และจะเป็นความเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ครั้งใหญ่อย่างคาดไม่ถึงด้วย ดังนั้นหากทดลองคาดการณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงของไทยในอนาคตแล้ว เราอาจจะเห็นประเด็นต่างๆ ที่จะมีความสำคัญต่อทิศทางการพลิกฟื้นประเทศหลังจากการสิ้นสุดของโรคระบาดชุดนี้ ได้แก่ 1) วิกฤตซ้อนวิกฤต: การเมืองไทยจะยังคงตกอยู่ในภาวะวิกฤต ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นก่อนการระบาดนั้น ไม่ได้หายไปไหน เป็นแต่เพียงจะถูกทับซ้อนจากสถานการณ์ใหม่ อันเป็นผลจากความอ่อนแอของรัฐบาลในการบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น อันอาจจะส่งผลให้วิกฤตที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว กลายเป็นวิกฤตที่มีความรุนแรงมากขึ้น และจะส่งผลต่อสถานะทางการเมืองของรัฐบาล โดยเฉพาะต่อตัวผู้นำรัฐบาลโดยตรง และจะเป็นวิกฤตที่มีนัยต่อความอยู่รอดของรัฐบาลอีกด้วย หรืออาจคาดได้ว่า การเมืองหลังจากการระบาดสิ้นสุดลงจะมีความเข้มข้นมากขึ้นอย่างแน่นอน และจะมีผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองด้วย 2) เศรษฐกิจพังทลาย: วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2563 จะมีความรุนแรงและหนักหน่วงมากกว่าวิกฤตในปี 2540 อย่างแน่นอน และความคาดหวังว่าวิกฤตเศรษฐกิจ 2563 จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นในปี 2540 อาจจะเป็นการคาดคะเนที่ง่ายเกินไป การพังทลายของเศรษฐกิจไทยกำลังเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน จนวันนี้กล่าวได้ชัดเจนว่า ไม่มีภาคส่วนใดที่ไม่ได้รับผลกระทบ และผลที่เกิดขึ้นกำลังพาเศรษฐกิจไทยสู่ “การ ถดถอย” ครั้งใหญ่ (economic recession) และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจะอยู่ในภาวะ “ติดลบ” อย่างแน่นอน…

ปากีฯจับกุมแพทย์กว่า50คน ชุมนุมประท้วงขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันสู้โควิด-19

Loading

เอเอฟพี – แพทย์มากกว่า 50 คนถูกจับกุมที่เมืองเกตตา ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถานในวันจันทร์(6เม.ย.) หลังร่วมชุมนุมประท้วงต่อกรณีขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันสำหรับต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากแพทย์และเจ้าหน้าที่ด้านการรแพทย์มากกว่า 100 คนเดินขบวนใกล้โรงพยาบาลหลักของเมืองเกตตา จากนั้นก็ย้ายไปประท้วงบริเวณด้านหน้าบ้านพักของมุขมนตรีแห่งรัฐ ตามรายงานของผู้สื่อข่าวเอเอฟพี ตำรวจใช้ตะบองเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากพวกเขาพยายามเข้าไปในเขตบ้านพักของมุขมนตรี ผลก็คือเกิดเหตุตะลุมบอนกระทบกระทั่งกันระหว่างสองฝ่าย “เรามีแพทย์ 53 คนที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวฐานละเมิดกฎหมาย” อับดุล ราซซัก ชีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสบอกกับเอเอฟพีหลังจากเกิดเหตุ พร้อมเผยว่าตำรวจควบคุมตัวแพทย์เหล่านั้นไว้นานหลายชั่วโมง ก่อนมีคำสั่งจากรัฐบาลท้องถิ่นให้ปล่อยตัวพวกเขา โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นบาลูจิสถาน เปิดเผยกับเอเอฟพีว่าแพทย์เหล่านั้นประท้วงต่อปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล(PPE)อย่างเช่นหน้ากากอนามัยและแว่นตานิรภัย “เราให้คำรับประกันว่าจะจัดหา PPE ให้พวกเขาเร็วๆนี้ แต่พวกเขาได้เริ่มประท้วงกันไปแล้ว” โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นกล่าว พร้อมบอกว่าเข้าหน้าที่กำลังวางแผนแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันให้แก่คณะแพทย์ หลังได้รับจัดมอบมาจากรัฐบาลกลางก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (6เม.ย.) เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทั่วปากีสถานคร่ำครวญมานานหลายสัปดาห์เกี่ยวกับปัญหาอุปกรณ์ป้องกันขาดแคลนอย่างรุนแรงตามโรงพยาบาลต่างๆ ในขณะที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้มันสำหรับรักษาคนไข้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ บาซีร์ อาชาไซ ประธานสมาคมแพทย์เกตตาระบุว่ารัฐบาลไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ในการปกป้องแพทย์และคนงานด้านสาธารณสุขอื่นๆ “พวกเขาบีบให้เราต้องประท้วงเพื่อสิทธิของพวกเราเอง” ปากีสถานพบผู้ติดเชื้อแล้ว 3,277 คน ในนั้นเสียชีวิต 50 คน อย่างไรก็ตามตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้หลายเท่า เนื่องจากชุดตรวจมีอยู่อย่างจำกัดในชาติยากจนซึ่งมีประชากรมากกว่า 215 คน เมื่อเดือนที่แล้ว แพทย์คนหนึ่งและพยาบาลอีกคนในปากีสถานเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นอกจากนี้แล้วยังมีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์อีกหลายสิบคนที่มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก…

ครั้งแรก! สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำกลุ่มคลั่งคนขาวเป็นองค์กร “ก่อการร้าย”

Loading

รอยเตอร์ – สหรัฐฯ กำหนดให้พวกชาตินิยมรัสเซียกลุ่มหนึ่ง นามว่า “รัสเซีย อิมพีเรียล มูฟเมนต์ (Russian Imperial Movement)” เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ จากการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศในวันจันทร์ (6 เม.ย.) ถือเป็นครั้งแรกที่อเมริกาขึ้นบัญชีดำพวก White Supremacist หรือกลุ่มที่เชื่อว่าเผ่าพันธุ์คนผิวขาวนั้นมีฐานะสูงส่งและเป็นเลิศกว่ากลุ่มเผ่าพันธุ์อื่นๆ “การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” นาธาน เซลส์ ทูตต่อต้านก่อการร้ายสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง มาตรการดังกล่าวมีออกมาหลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานประจำปีด้านก่อการร้ายฉบับล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งระบุว่า การก่อการร้ายที่มีแรงขับเคลื่อนด้านเชื้อชาติแลผิวสีเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลในปี 2018 ทั้งในสหรัฐฯและทั่วโลก ทั้งนี้ พวกรัสเซีย อิมพีเรียล มูฟเมนต์ ซึ่งเรียกตัวเองว่า กลุ่มชาตินิยม “รัสเซียน ออร์ธอด็อกซ์” อยากให้ฟื้นฟูระบอบกษัตริย์และให้สิทธิพิเศษแก่ชนเชื้อสายรัสเซีย, ยูเครน และเบลารุส โดยทั่วไปแล้วการกำหนดลักษณะนี้ ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะอายัดทรัพย์สินใดๆ ในสหรัฐฯของกลุ่มหรือตัวบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำ รวมถึงห้ามพลเมืองสหรัฐฯ ทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกับกลุ่มหรือบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การกำหนดลักษณะนี้ก็เสี่ยงเป็นเพียงความเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น หากว่ากลุ่มที่ถูกขึ้นบัญชีดำเหล่านี้มีธุรกรรมทางการเงินแค่เล็กๆ น้อยๆ ในสหรัฐฯ เซลส์บอกว่า เลือดผู้บริสุทธิ์เปื้อนมือพวกรัสเซีย อิมพีเรียล มูฟเมนต์…

อังกฤษเรียกข่าวโควิด-19 ระบาดมากับ 5G “ข่าวปลอมไร้สาระแต่อันตราย!”

Loading

ทางการอังกฤษระบุว่า ข่าวลือในลักษณะทฤษฎีสมคบคิด ที่ระบุว่าเครือข่ายโทรคมนาคมความเร็วสูง 5G มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น เป็นข่าวปลอม และเป็นอันตรายอย่างยิ่ง รัฐมนตรีประจำคณะรัฐบาลอังกฤษ ไมเคิล โกว์ฟ กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวไร้สาระ แต่ก็มีอันตรายแฝงมาด้วย หลังจากที่มีเสาส่งสัญญาณ 5G บางแห่งถูกเผาและทำลาย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และพนักงานของบริษัทโทรคมนาคมบางแห่งถูกข่มขู่คุกคาม ในแถบตอนกลางและตอนเหนือของอังกฤษ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ เสาส่งสัญญาณแห่งหนึ่งที่เมืองเบอร์มิงแฮม ของบริษัท BT ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ถูกเผาเสียหายเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า เชื้อโควิด-19 อาจเกี่ยวข้องกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G แม้ว่าเสาดังกล่าวที่ถูกเผาจะส่งสัญญาณเฉพาะ 2G 3G 4G แต่ไม่ใช่ 5G ก็ตาม ผอ.สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า ข่าวปลอมที่ว่านี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ มารองรับ แต่กลับมีคนเชื่อจริงจัง และสร้างปัญหาต่อระบบสื่อสารในยามที่ต้องการใช้เพื่อติดต่อกรณีเร่งด่วน ซึ่งรวมถึง เครือข่ายโทรศัพท์ที่บรรดาเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินและบุคลากรทางการแพทย์ต้องใช้ในช่วงที่กำลังเิกดการระบาดของโคโรนาไวรัสในขณะนี้ด้วย ————————————————- ที่มา : VOA Thai / 6 เมษายน 2563…

สงครามข่าวสารกับโควิด 19

Loading

โดย…ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ นักภูมิรัฐศาสตร์ฝรั่งสมัยก่อนกล่าวว่า “ใครคุมใจกลาง (Heartland) ของแผ่นดินได้ คนนั้นครองโลก” ซึ่งเรียกกันว่า “ทฤษฎีฮาร์ตแลนด์ กับริมแลนด์” ต่อมา มีนักภูมิรัฐศาสตร์ฝรั่งเช่นกันมองกลับกันว่า “ผู้ที่คุมชายขอบแผ่นดิน (Rimland) ต่างหาก ที่จะครองโลก” นักภูมิรัฐศาสตร์ฝรั่งขณะนั้นมองแผ่นดินยุโรปก็คือโลก ใครครองแผ่นดินใหญ่ยุโรปได้ ก็เท่ากับครองโลกนั่นเอง โรมเคยเป็นศูนย์กลางโลกที่ขยายอาณาเขตยึดครองยุโรปได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก สมัยฮิตเลอร์ก็เคยยึดยุโรปได้เกือบทั้งหมด ส่วนนักภูมิรัฐศาสตร์ฝรั่งที่กล่าวไว้ในเวลาต่อมาว่า ใครคุมชายขอบของแผ่นดินได้ก็เท่ากับครองโลก นักคิดกลุ่มนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน ซึ่งต่อมา อัลเฟรด เทเยอร์ มาฮาน ได้กล่าวไว้ว่า “ใครคุมทะเลได้ก็เท่ากับครองโลก” ประเทศที่ติดทะเลเช่น สเปน โปรตุเกส อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา มีกองเรือขนาดใหญ่ออกไปสำรวจดินแดนใหม่ ค้าขายต่างประเทศ และมีอาณานิคมซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญมากมาย เมื่ออเมริกาถือผงาดขึ้นในขณะที่ชาติมหาอำนาจทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ง่อยเปลี้ยลง คริสต์ศตวรรษที่ 20 จึงเป็นศตวรรษของอเมริกาแต่ผู้เดียว ศูนย์กลางของโลกมารวมศูนย์อยู่ที่สหรัฐที่เป็นทั้งฮาร์ตแลนด์และริมแลนด์ คุมสองฝั่งมหาสมุทรโดยเวลานี้ให้น้ำหนักมากที่ “ทรานส์แปซิฟิค” มากกว่า ทรานส์แอตแลนติค” เช่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สมัยสงครามเย็น ใครครองโลกเขาจะวัดกันด้วยพลังทางการทหาร ใครมีอาวุธนิวเคลียร์ จรวดติดหัวรบนิวเคลียร์ ใครครองอวกาศได้มากน้อยกว่ากัน หลังสงครามเย็นเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ โลกยุคนี้วัดกันด้วยพลังทางเศรษฐกิจ จึงเกิด “สงครามเศรษฐกิจ” และ “สงครามการค้า” เป็นครั้งคราว ประเทศไหนมีพลังอำนาจมากก็เป็นผู้ “จัดระเบียบโลก” แต่บางครั้งบางคราวธรรมชาติก็มาช่วยจัดระเบียบโลกให้กับมนุษย์ด้วย เช่น ครั้งนี้เป็นต้น…