ไต้หวันเผยหน่วยงานรัฐไม่ควรใช้ AI ของ DeepSeek
กระทรวงกิจการดิจิทัลของไต้หวันเผยว่าหน่วยงานของรัฐบาลไม่ควรใช้บริการ AI ของ DeepSeek เจ้าของแชตบอตในชื่อเดียวกันที่มาจากจีน เนื่องจากมีความเสี่ยงในด้านความมั่นคง
กระทรวงกิจการดิจิทัลของไต้หวันเผยว่าหน่วยงานของรัฐบาลไม่ควรใช้บริการ AI ของ DeepSeek เจ้าของแชตบอตในชื่อเดียวกันที่มาจากจีน เนื่องจากมีความเสี่ยงในด้านความมั่นคง
ฟิลิปปินส์จับกุมพลเมืองจีน 5 คน ฐานต้องสงสัยล้วงข้อมูลทางทหาร เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฟิลิปปินส์ยืนยัน การจับกุมสายลับชาวจีนเพิ่มอีก 5 คน ภายในเวลาไม่นาน หลังมีการควบคุมตัวพลเมืองจีนคนหนึ่งในข้อหาจารกรรม
ในศึกเทคโนโลยีระหว่าง “จีน” กับ “สหรัฐ” หนึ่งในอาวุธที่จีนจะหยิบมาสู้กับกำแพงภาษี คือ “แร่หายาก” ซึ่งเป็น “วัตถุดิบที่ขาดไม่ได้” สำหรับชิป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จนถึงขีปนาวุธ โดยจีนครองการผลิตแร่หายากทั่วโลกถึง 70% จากเหมืองแร่ในหลายประเทศ ตามข้อมูลจาก Now-Gmbh องค์กรวิจัยของรัฐบาลเยอรมนี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงจีนประเทศเดียวที่มีแร่หายาก อเมริกาก็มีเช่นกัน สูงถึง 1.8 ล้านตัน รวมถึงพันธมิตรสหรัฐอย่างออสเตรเลียก็มีถึง 5.7 ล้านตัน แต่คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมเหล่าชาติตะวันตกถึงยังไม่สามารถแยกขาดจากจีนด้านแร่ได้ เหตุใดยังคงพึ่งพาแร่จากจีนจนถึงปัจจุบัน พบว่ามี “3 เหตุผลหลัก” ดังนี้ 1. จีนครองแร่แบบครบวงจรทั่วโลก ถึงแม้ว่าชาติอื่นมีแร่หายาก แต่การจะมีกระบวนการแปลงแร่ดิบให้ใช้งานได้กลับมีไม่ครบถ้วน ขณะที่จีนมีอย่าง “ครบวงจร” ตั้งแต่การขุด สกัด และแปรรูป แม้กระทั่งแร่หายากดิบที่ถูกขุดนอกประเทศจีน ก็มักจะต้องส่งไปแปรรูปในจีน เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ อีกทั้งจีนมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วย ย้อนไปในปี 1992 ขณะเยือนเมืองเปาโถว…
การผงาดขึ้นมาของ DeepSeek AI จีนที่เป็นกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในตอนนี้ ไม่เพียงทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนทั่วโลก แต่ยังมาในจังหวะที่สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนรัฐบาลพอดี เสมือนเป็นการ ‘สะบัดหาง’ ครั้งสำคัญของปีงูเล็กเลยกว่าว่าได้ และอาจมีผลกระทบในวงกว้างอีกด้วย
TikTok ที่ถูกทางการสหรัฐฯ สั่งแบน หันไปใช้ RedNote ว่าให้ระวัง RedNote ในเรื่องการถูกสอดแนม โดยมีคนหันไปใช้แอพ RedNote เพิ่มขึ้นมากกว่า 700,000 บัญชี อย่างไรก็ตาม TikTok ยังคงกลับมาใช้งานได้ในสหรัฐฯ หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกการแบนชั่วคราว
ชมความล้ำของการใช้งานหุ่นยนต์ในประเทศจีน เปิดตัวหุ่นยนต์ตำรวจที่สามารถใช้เดินตรวจลาดตระเวนได้ แถมติดตั้งอาวุธเป็นตาข่ายสำหรับใช้ยิงดักจับคนร้ายได้ทันที เพิ่มความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ไปอีกขั้น จีนเปิดตัวการใช้งานหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยอเนกประสงค์ ที่สามารถทำงานได้ทั้งบนบกและในน้ำ โดยทำหน้าที่ออกลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อย เคียงข้างเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตการค้าที่พลุกพล่าน เริ่มใช้งานแล้วในเมืองเวินโจว (Wenzhou City) มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน การพัฒนาหุ่นยนต์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของประเทศในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาช่วยงานด้านความปลอดภัย ตัวหุ่นยนต์เป็นทรงกลม ติดตั้งกล้องและแฟลช สามารถกลิ้งและเอียงไปมาได้โดยไม่ล้ม รูปร่างและฟังก์ชันออกแบบโดยเน้นไปที่ความคล่องตัว ช่วยให้เข้าถึงมุมต่าง ๆ ที่อุปกรณ์ลาดตระเวนแบบดั้งเดิม ไม่สามารถเข้าถึงได้ ตัวหุ่นยนต์ทำความเร็วสูงสุดของได้ที่ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถกดปุ่มให้เร่งความเร็วสูงสุดได้ภายใน 2 วินาที นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังสามารถขับเคลื่อนตัวเองได้ สามารถรวบรวมและส่งข้อมูลพิกัด GPS ณ สถานที่เกิดเหตุได้ และภายในหุ่นยนต์ยังติดตั้งปืนยิงตาข่าย เพื่อเล็งไปที่ผู้ต้องสงสัย และยิงตาข่ายเพื่อพันตัวเป้าหมายไว้ได้อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจของจีนกล่าวว่า จุดเด่นของหุ่นยนต์ตัวนี้ คือสามารถใช้ในสภาพแวดล้อมที่เผชิญหน้ากับผู้ร้ายได้จริง ทำให้มันสามารถช่วยงานรักษาความปลอดภัย จัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้ ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง หรือเมื่อมีผู้คนอยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยทีมผู้พัฒนาจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงกล่าวว่า พวกเขามีแนวคิดในการออกแบบหุ่นยนต์ทรงกลมแบบปิดสนิท…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว