ร้านจำหน่ายสินค้า it ในเครือบริษัทแอปเปิลได้รับ email ข่มขู่ให้ยุติการจำหน่ายสินค้า

Loading

ร้านจำหน่ายสินค้า it ในเครือบริษัทแอปเปิลได้รับ email ข่มขู่ให้ยุติการจำหน่ายสินค้ามิฉะนั้นจะทำการระเบิดร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าอพยพลูกค้า 150 คนออกจากพื้นที่ และเข้าตรวจพื้นที่เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ไม่พบสิ่งต้องสงสัย จากนั้นทางร้านจึงประกาศเปิดทำการ ร้านนี้อยู่ในย่านรอปปิงงิ โตเกียว เป็นย่านการค้าที่มีประชาชนและคนต่างชาติผ่านเข้า-ออกหนาแน่น ที่มา : NHK WORLD News Dec. 6, 2015 – Updated 23:22 UTC+7 Link : http://www3.nhk.or.jp/nhkworld/english/news/20151206_22.html

ญี่ปุ่นกับภัยก่อการร้าย

Loading

  จุดล่อแหลม      ทุกครั้งที่กลับเมืองไทย ถ้า 3 ทุ่มแล้วยังไม่ถึงบ้าน คุณแม่จะโทร.ตาม และผมก็ต้องถามเรื่อยมาตั้งแต่อายุยังไม่สามสิบจนเกือบจะสี่สิบเข้าไปทุกทีว่า “อีกไม่กี่ปีก็จะขึ้นเลขสี่แล้ว ยังโทร.ตามอีกเหรอแม่” คุณแม่ตอบว่า “ถ้าอยู่ญี่ปุ่นไม่โทร.หรอก แต่อยู่กรุงเทพฯ แม่เป็นห่วง” “อยู่ไกลถึงโตเกียวไม่เป็นห่วง แต่อยู่เมืองไทยนี่กลับเป็นห่วง” “ก็ใช่สิ ไปไหนมาไหนในกรุงเทพฯ ไม่ค่อยจะปลอดภัย” คุณแม่ให้เหตุผล      ผมไม่แน่ใจว่าคุณแม่รู้ข้อมูลทางสังคมหรืออะไรทำนองนั้นเกี่ยวกับญี่ปุ่นหรือไม่ แต่เมื่อตอบมาแบบนี้ ผมตีความว่าคุณแม่คิดว่าญี่ปุ่น หรือในกรณีของผมก็คือกรุงโตเกียว ปลอดภัยกว่ากรุงเทพฯ      อันที่จริง สภาพสังคมในญี่ปุ่นเท่าที่ผ่านมาก็ไม่ห่างไกลจากสิ่งที่คุณแม่เชื่อเท่าไร คนญี่ปุ่นเองก็คิดว่าประเทศนี้อยู่ได้อย่างอุ่นใจ ไม่ว่าจะลืมของหรือทำกระเป๋าสตางค์หล่นที่ไหน ประเดี๋ยวก็ได้คืน ระบบการเดินทางก็ปลอดภัยสูง ดูเหมือนคนที่จะก่ออันตรายต่อผู้อื่นมีไม่มาก สภาพชีวิตประจำวันโดยรวมค่อนข้างปลอดจากอาชญากรรม ซึ่งในจุดนี้สถิติก็ชี้ออกมาในแนวนั้นเหมือนกันว่า อัตราอาชญากรรมในญี่ปุ่นลดลงมาเรื่อยๆ ในระยะประมาณ 10 ปีนี้      คุณแม่คงเข้าใจถูกในจุดนั้น แต่ปัจจุบันภัยไม่ได้มีแค่จากภายใน ซึ่งผมก็ไม่ค่อยกล้าอธิบายละเอียด เพราะกลัวว่าคุณแม่จะเป็นห่วงลูกชายขึ้นมาทั้งตอนอยู่ในและนอกเมืองไทยจนต้องโทร.ตามข้ามประเทศทุกวัน เอาเป็นว่าจะพยายามระวังตัวให้ดีขึ้นครับ      ความปลอดภัยในญี่ปุ่นที่ผู้คนเคยชินมานานปีอาจกลายเป็นเรื่องเก่าไปแล้วในวันนี้ เพราะภัยใหม่กำลังส่อเค้าคุกคามญี่ปุ่นอยู่ และผู้คนก็รู้สึกได้ชัดเจนขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุโจมตีก่อการร้ายหลายจุดในกรุงปารีส ญี่ปุ่นจะชะล่าใจไม่ได้อีกแล้ว เพราะถูกกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามเอาปูนหมายหัวไว้เหมือนกัน…

ญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีใหม่ช่วยสืบหาอาชญากร

Loading

           ตำรวจญี่ปุ่นจะใช้เทคโนโลยีใหม่ช่วยสืบหาบุคคลที่กำลังหลบหนีคดีอาญา ซึ่งสามารถคาดคะเนรูปลักษณ์ใบหน้าของผู้ต้องหาได้แม้ว่าจะหลบหนีไปนานหลายปี        สถานีโทรทัศน์ NHK นำเสนอเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นโดยสถาบันวิจัยวิทยาการตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น โดยระบบคอมพิวเตอร์จะสร้างภาพ 3 มิติขึ้นมาจากภาพถ่าย และสามารถจะคาดคะเนว่าบุคคลคนนั้นน่าจะมีใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคต ระบบนี้สามารถคะเนการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าเนื่องจากอายุที่มากขึ้นได้ โดยเป็นการคาดคะเนปีต่อปี เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตาและริมฝีปาก รวมทั้งความเข้มของสีผิว               การติดตามหาตัวผู้หลบหนีคดีอาญาไปเป็นเวลานานเป็นเรื่องยากลำบากยิ่งแม้กระทั่งกับเจ้าหน้าที่สืบสวนที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดมานานหลายปีก็ตาม            ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปนานหลายปี เมื่ออายุมากขึ้นก็ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เช่น กรณีของนายคะสึยะ ทะกะฮะชิ อดีตสมาชิกกลุ่มลัทธิโอม ชินริเกียว ซึ่งหลบหนีคดีอาญานาน 17 ปี เมื่อเขาถูกจับตัวได้เมื่อ 3 ปีที่แล้วนั้น รูปลักษณ์ของเขาเหมือนเป็นคนละคนกับรูปถ่ายที่ปรากฏอยู่ในหมายจับของทางการ            ทุกวันนี้…

รถไฟญี่ปุ่นเตือนผ่านกระดาษชำระ “อย่าใช้สมาร์ทโฟนขณะเดิน!”

Loading

        อุบัติเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนบริษัทรถไฟญี่ปุ่นต้องจัดทำคำเตือนไว้บน “กระดาษชำระ” ให้ห้องน้ำภายในสถานี         ผู้ใช้ห้องน้ำภายในสถานีรถไฟในเขตกรุงโตเกียวและใกล้เคียงต้องแปลกใจเมื่อพบว่ากระดาษชำระในห้องน้ำ มีรูปภาพรอยเท้าบนสมาร์ทโฟนพร้อมข้อความว่า “โปรดงดใช้สมาร์ทโฟนขณะกำลังเดิน”         โครงการรณรงค์นี้เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทรถไฟอีสต์ เจแปน เรลเวย์ ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของญี่ปุ่นคือ NTT Docomo, KDDI, และ SoftBank รวมทั้งสมาพันธ์โทรคมนาคมแห่งญี่ปุ่น ซึ่งพบว่าการใช้ป้ายประกาศธรรมดาหรือเสียงประกาศภายในสถานี ไม่สามารถทำให้บรรดาผู้โดยสารให้ความสนใจได้มากพอ         บริษัทรถไฟญี่ปุ่นพบว่า ผู้โดยสารจำนวนมากเอาแต่ก้มหน้าหมกมุ่นอยู่กับโทรศัพท์ของตัวเอง จนอาจเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายกับทั้งตัวเองและคนที่อยู่รอบข้าง โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้โดยสารหนาแน่นอาจมำให้เกิดการหกล้มเป็นโดมิโน จนอาจกลายเป็นการเหยียบกันตายได้          นอกจากการพิมพ์ข้อความเตือนบนกระดาษชำระแล้ว ในสถานีรถไฟหลายแห่งยังมีโฆษณาเตือนขนาดใหญ่ทั้งตามขั้นบันไดและฝาผนัง ให้ผู้โดยสารงดใช้สมาร์ทโฟนขณะเดินด้วย           นอกจากการรณรงค์ให้งดใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินแล้ว สถานีรถไฟญี่ปุ่นกว่า 1,200…