ไอเดียใหม่ ตำรวจใช้ ลูกดอก GPS ติดตามรถคนร้าย แทนไล่ล่า

Loading

เราอาจจะเคยเห็นในข่าวต่างประเทศ ที่รถตำรวจหลายสิบคัน ขับไล่ล่ารถคนร้ายคันเดียว และบางครั้งก็ชนกันระเนระนาด แต่ตอนนี้ อาจไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นแล้ว

NYPD ใช้หุ่นยนต์ K5 ลาดตระเวนแทนตำรวจ อาชญากรรมลดลง แถมจับกุมได้เพิ่มขึ้น

Loading

NYPD ตำรวจนิวยอร์ก เริ่มใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะ K5 ลาดตระเวนแทนตำรวจเพื่อตรวจวัตถุและบุคคลต้องสงสัย ที่น่าสนใจคือสถิติล่าสุดได้ชี้ให้เห็นว่าการลาดตระเวนด้วยหุ่นยนต์ได้ผลดีมากกว่าการใช้เจ้าหน้าที่ NYPD หรือตำรวจนิวยอร์ก เริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟใต้ดินไทม์สแควร์ ซึ่งตัวนี้มีชื่อว่า หุ่นยนต์ K5 ตัวนี้สามารถลาดตระเวนขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ตำรวจยุคใหม่ ใช้โดรนส่องหลังคาบ้าน ท้าทายความเป็นส่วนตัว

Loading

  ในระหว่างที่ชาวนิวยอร์ก กำลังใช้วันหยุดไปกับการจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวที่สวนหลังบ้าน ช่วงนั้นเองก็มีโดรนติดกล้องจากทางเจ้าหน้าที่ บินมาร่วมแจมด้วย…   กรมตำรวจนครนิวยอร์กประกาศใช้แผนส่งโดรนสำรวจบนท้องฟ้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ โดยเลือกติดตามบ้านที่มีการงานปาร์ตี้กลางแจ้ง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย หากได้รับการโทรแจ้งเข้ามาเป็นจำนวนมาก   อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวก็ถูกตั้งคำถามถึงความเป็นส่วนตัว รวมถึงการละเมิดกฎหมายควบคุมการสอดแนมในพื้นที่ด้วยหรือไม่ และการบินสองปาร์ตี้หลังบ้านในเมือง ดูเป็นเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ หรือ   ทางด้านกรรมการบริหารของ Surveillance Technology Oversight Project (STOP) ในสหรัฐฯ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นคล้าย ๆ กัน โดยมองด้วยว่าตัวโดรนของเจ้าหน้าที่ อาจบินไปดูส่วนที่เป็นห้องนอนโดยมิชอบ   มีข้อมูลเผยว่า ที่ผ่านมาทางตำรวจนิวยอร์คได้ใช้โดรนบินเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ แต่มีการใช้โดรนเพื่อความปลอดภัยในที่สาธารณะหรือเหตุฉุกเฉินเพียงสี่ครั้ง ในขณะที่ตัวเลขขึ้นบินมีมากถึง 124 ครั้ง และจะเพิ่มมากขึ้นในวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์นี้   แนวคิดการเฝ้าระวังบนท้องฟ้าด้วยโดรน นับว่าเป็นเรื่องดีที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สองส่องดูแลได้ทั่วถึงขึ้น แต่การไปสอดส่องบริเวณที่อยู่อาศัย ที่ที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของชาวเมือง จึงไม่แปลกที่จะเกิดเสียงต่อต้าน วันดีคืนดีอาจมีโดรนตำรวจถูกสอยเข้าสักวันเป็นแน่     ที่มา : Techspot       —————————————————————————————————————————————————…

ตำรวจนิวยอร์กใช้โดรนตระเวนตรวจ ‘ปาร์ตี้วันแรงงาน’ สุดสัปดาห์นี้

Loading

ตำรวจรัฐนิวยอร์กดูแลความปลอดภัยบริเวณสวนเซนทรัล พาร์ค ใจกลางนครนิวยอร์ก   สุดสัปดาห์นี้ ชาวอเมริกันในรัฐนิวยอร์กที่ออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในช่วงวันหยุดเนื่องในวันแรงงาน หรือ Labor Day ในสหรัฐฯ อาจจะสังเกตเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญแอบมาสอดส่องงานปาร์ตี้ของพวกเขา ในรูปแบบของโดรนตำรวจ   เจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจนครนิวยอร์ก หรือ NYPD เผยแผยส่งโดรนหลายลำออกลาดตระเวนเพื่อสอดส่องการจัดงานปาร์ตี้กลางแจ้งในเขตชุมชนต่าง ๆ หลังจากมีการร้องเรียนเรื่องการจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์วันแรงงานในช่วงไม่กี่ปีมานี้   “หากมีคนโทรมาแจ้งว่ามีฝูงชนเข้าร่วมงานปาร์ตี้หลังบ้าน เราจะส่งโดรนขึ้นไปตรวจสอบทันที” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครนิวยอร์ก แคซ ดอจทรีย์ แถลงต่อสื่อมวลชนในวันพฤหัสบดี   อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากตำหนิวิจารณ์มาตรการนี้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเป็นการกระทำที่ขัดกับกฎหมายของรัฐนิวยอร์กหรือไม่?   เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดรัฐนิวยอร์ก นำโดรนมาใช้ในการตรวจดูฉลามนอกชายฝั่งโจนส์ บีช สเตท พาร์ค รัฐนิวยอร์ก (ภาพจากเอพี)   คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการแถลงเรื่องการรักษาความปลอดภัยในงานฉลองประจำปีของประชาชนที่มีเชื้อสายแคริบเบียนเพื่อรำลึกถึงการเลิกทาส ซึ่งเป็นงานที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากและมีขบวนพาเหรด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของตำรวจตามท้องถนนในย่านบรูคลินของนิวยอร์ก   ปัจจุบัน หลายเมืองในอเมริกา รวมทั้งนิวยอร์ก นำโดรนมาใช้มากขึ้นในงานของตำรวจ ข้อมูลชี้ว่า ตำรวจนิวยอร์กใช้โดรนในงานรักษาความปลอดภัยประชาชน หรืองานฉุกเฉินต่าง ๆ 124 ครั้งในปีนี้ เพิ่มจากจำนวนเพียง…

ตำรวจนิวยอร์กออกเตือนประชาชน หลังมีคนถูกสะกดรอยตามด้วย AirTag 2 คดีแล้ว

Loading

  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตำรวจแคนาดาออกเตือนประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพใช้ AirTag สะกดรอยตามเพิ่อขโมยรถ หลังจากนั้นก็ยังคงมีข่าวออกมาต่อเนื่องเกี่ยวกับผู้ไม่หวังดีที่ใช้ AirTag สะกดรอยตามเหยื่อ โดยรายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่น WGRZ ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากกรมตำรวจ เวสต์ เซเนกา ในนิวยอร์กออกมาเตือนประชาชนว่า AirTag ถูกนำมาใช้ในการสะกดรอยตามจริง โดยมีคดีที่เกิดขึ้น 2 คดีแล้ว คดีแรก ผู้เคราะห์ร้ายเป็นเพศหญิงที่เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจเวสต์ เซเนกา (West Seneca Police Department) หลังจากเธอได้รับการแจ้งเตือนว่ามี AirTag กำลังเคลื่อนที่ไปพร้อมกับเธอ โดยมีการแจ้งเตือนผ่าน iPhone โดยหลังการตรวจสอบก็พบว่ามี AirTag อยู่ใต้ท้องรถของเธอจริง สำหรับคดีที่ 2 ก็มีผู้เคราะห์ร้ายเป็นเพศหญิงเช่นเดียวกัน ซึ่งได้เข้าแจ้งความว่า มีข้อความแจ้งเตือนลักษณะเดียวกันเด้งขึ้นมาบน iPhone ของเธอ แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว กลับไม่พบ AirTag แม้แต่อันเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็ขาดการเชื่อมต่อไป จึงไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่า AirTag อยู่บนรถด้วยหรือจริง ๆ แล้วเป็นเพียง AirTag ที่เข้ามาอยู่ใกล้ ๆ เท่านั้น…