สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่า รัฐบาลสิงคโปร์เสนอ “ร่างกฎหมายป้องกันการหลอกลวง” ต่อรัฐสภา ซึ่งอาจเป็นกฎหมายฉบับแรกในโลก ที่มอบอำนาจให้ตำรวจควบคุมบัญชีธนาคารของเหยื่อการหลอกลวงที่ดื้อรั้น ซึ่งยืนกรานว่าพวกเขาไม่ได้ถูกหลอก แม้มีหลักฐานที่ชัดเจนก็ตาม
ช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 8 ตุลาคม เครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานหรือโทรศัพท์บ้านที่เชื่อมต่อผ่านระบบสายในสิงคโปร์ของบริษัท Singtel ได้เกิดการขัดข้อง ส่งผลให้โทรศัพท์พื้นฐานทั่วสิงคโปร์ติดต่อไม่ได้ ทำให้การติดต่อขอความช่วยเหลือต่อสายด่วนฉุกเฉิน 999 และ 995 รวมทั้งการใช้บริการสนทนาผ่านระบบสายได้รับผลกระทบรวมจำนวนเกือบ 3,000 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่า สิงคโปร์ควบคุมการประท้วงอย่างเข้มงวด และไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วงในที่สาธารณะ เพื่อสนับสนุนชนวนของประเทศอื่น ๆ แม้ทางการสิงคโปร์ เรียกร้องให้ประชาชนไม่จัดการประท้วงเกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซา และสนับสนุนการเข้าร่วมการเจรจากับการบริจาค
สิงคโปร์เป็นอีกประเทศที่เจอปัญหา scam หลอกลวงเงิน แบบเดียวกับประเทศไทย ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์มีมาตรการหลายอย่างเพื่อป้องกันปัญหา เช่น ระบบล็อคเงินห้ามถอนออนไลน์, ความร่วมมือกับกูเกิลบล็อคแอปใน Play Store, ทำฐานข้อมูลชื่อผู้ส่ง SMS ทั้งประเทศ
ทีมกู้ระเบิดของกองทัพสิงคโปร์ปลดชนวนระเบิด ระเบิดนี้มีน้ำหนัก 100 กก. คาดว่าเป็นระเบิดที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่ระเบิด ที่พบในไซต์ก่อสร้าง ถูกขุดพบเมื่อสัปดาห์ก่อนในพื้นที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมในย่านบูกิตติมาห์ (Bukit Timah) ซึ่งทำให้ต้องประชาชนอพยพหลายพันคน
หลังจากสำนักงานตำรวจสิงคโปร์ (SPF) ได้รับการแจ้งเตือนขู่ว่าจะมีวางระเบิดในสถานที่ 18 แห่งทั่วสิงคโปร์ เมื่อเวลา 09.10 น.วันพุธ (23 ส.ค.66) รวมถึงสถานที่ราชการ สถานทูต และสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เกรซ ฟู รัฐมนตรีกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เขียนบนเฟซบุ๊กในภายหลังว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่พบวัตถุต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังสืบสวนคดีนี้ คาดว่าน่าจะเป็นอีเมลหลอก ความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือปรับสูงสุด 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (36,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ ที่เกาหลีใต้ก็เกิดกรณีขู่วางระเบิดผ่านอีเมลในลักษณะคล้ายกัน และดูเหมือนว่าจะเป็นฝีมือคนเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายปรากฏว่าเป็นเพียงเรื่องโกหก ตำรวจสิงคโปร์ ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ทั้ง 18 แห่ง แต่กระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม (MSE) ยืนยันว่าได้รับแจ้งเหตุและพร้อมที่จะทำงานร่วมกับตำรวจอย่างเต็มที่ เนื่องจาก ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และพนักงานเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการประเมินและตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยและวิธีการควบคุมสถานการณ์ ขณะที่…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว