ความขัดแย้งส่อลาม! ระเบิด 2 ครั้งทำลายเสาสัญญาณวิทยุใน ‘ทรานส์นีสเตรีย’ ดินแดนฝักใฝ่มอสโกใกล้พรมแดนยูเครน
รัฐบาลยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าพยายามยั่วยุให้สงครามขยายวงกว้าง หลังเกิดเหตุโจมตีขึ้นใน “ทรานส์นีสเตรีย” (Transnistria) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่แยกตัวออกจากสาธารณรัฐมอลโดวา และมีพรมแดนติดกับภาคตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน ฝ่ายบริหารทรานส์นีสเตรีย ระบุว่า เหตุระเบิดซึ่งเกิดขึ้นที่หมู่บ้านมายัก (Mayak) เมื่อเช้าวันอังคาร (26) ทำให้เสาสัญญาณวิทยุ 2 แห่งที่ออกอากาศเป็นภาษารัสเซียได้รับความเสียหาย และยังมีหน่วยงานทางทหารถูกโจมตีด้วย พวกเขาเชื่อว่า “ยูเครน” อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมดังกล่าว พร้อมประกาศยกระดับเฝ้าระวังการก่อการร้ายขั้นสูงสุด และตั้งจุดตรวจตามเมืองต่างๆ สำนักข่าว TASS ของรัสเซียอ้างคำแถลงของ วาดิม กราสโนเซลสกี (Vadim Krasnoselsky) ประธานาธิบดีแห่งทรานส์นีสเตรีย ซึ่งระบุว่า “ร่องรอยการโจมตีเหล่านี้บ่งบอกว่าเป็นฝีมือยูเครน” “ผมเดาว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ คงตั้งใจที่จะดึงทรานส์นีสเตรียเข้าสู่สงครามด้วย” รัสเซียซึ่งมีทหารและกองกำลังรักษาสันติภาพประจำการอยู่ในทรานส์นีสเตรีย ระบุว่ารู้สึก “กังวลอย่างยิ่ง” ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลยูเครนหวั่นเกรงมาตลอดว่ามอสโกอาจจะใช้ทรานส์นีสเตรียเป็นฐานโจมตีประเทศตน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนอ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือแผนของรัสเซียที่จะ “ทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค” ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศยูเครน “ประณามความพยายามดึงภูมิภาคทรานส์นีสเตรียของมอลโดวาให้เปิดสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครน” และชี้ว่าการโจมตีเพิ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่ทำเนียบเครมลินออกมาเปรยว่าต้องการขยายอิทธิพลเข้าไปสู่ทรานส์นีสเตรีย รัฐบาลมอลโดวาได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงเป็นการด่วนหลังได้รับรายงานเหตุโจมตีในทรานส์นีสเตรีย “จากข้อมูลที่เรามีในตอนนี้ มันเป็นความพยายามของกลุ่มต่างๆ ในทรานส์นีสเตรียที่สนับสนุนสงคราม และต้องการบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค” ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู…