เริ่มวันนี้! ญี่ปุ่นเพิ่มตรวจเข้ม ผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศ รับจัดกีฬารายการใหญ่

Loading

กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่น เริ่มต้นมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น ตามสนามบินต่างๆ ทั่วประเทศ ในวันนี้ (13 ก.ย.) ก่อนหน้าที่จะถึงการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ “รักบี้่ เวิลด์ คัพ” ในวันที่ 20 กันยายนนี้ และการแข่งขัน “โตเกียว โอลิมปิก” แลพาราลิมปิก กลางปีหน้า จากเดิมนั้น การตรวจสอบก่อนที่จะขึ้นเครื่องสำหรับผู้โดยสารในเที่ยวบินภายในประเทศ จะทำเฉพาะการตรวจสอบกระเป่าเท่านั้น แต่มาตรการใหม่ที่เริ่มขึ้นในวันนี้ ผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศจะต้องถอดเสื้อคลุม หรือเสื้อแจ็คเกตออกมา เพื่อตรวจสอบ เหมือนกับมาตรการตรวจสอบผู้โดยสารในเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทั้งในกรณีที่ใส่รองเท้าหุ้มข้อ ก็ต้องถอดออกเพื่อนำมาตรวจสอบเช่นกัน นอกจากนี้ ยังจะดำเนินการสุ่มตรวจร่างกายผู้โดยสารบางคน ซึ่งเป็นกระบวนการใหม่ ที่จะใช้กระดาษแบบพิเศษ สำหรับการตรวจสอบหาร่องรอยวัตถุระเบิดบนตัวผู้โดยสาร ระหว่างวันที่ 13 กันยายน – 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกนั้น ยังมีคำสั่งห้ามโดรนในห้องโดยสารของทุกเที่ยวบินด้วย กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นยังขอให้ผู้โดยสารเดินทางไปถึงสนามบินเร็วกว่าเดิม เพราะมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยนี้ อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนานขึ้น ——————————————– ที่มา : THE BANGKOK INSIGHT / 13 กันยายน 2562…

การบินไทยไม่ให้นำ MacBook Pro 15 นิ้ว ที่อยู่ในขั้นเรียกสินค้าคืนขึ้นเครื่อง เสี่ยงเกิดแบตร้อนจนเกิดอัคคีภัย

Loading

การบินไทยออกประกาศแจ้งเตือนคนเดินทาง ห้ามนำ MacBook Pro ขนาด 15 นิ้ว ที่จำหน่ายระหว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ซึ่งอยู่ในโปรแกรมการเรียกคืนแบตเตอรี่ของผู้ผลิตขึ้นเครื่องบิน ทั้งในสัมภาระติดตัวหรือสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อให้สอดคล้องตามข้อกำหนดของ EASA (องค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป) ตามที่ EASA ได้ออกประกาศให้สายการบินที่ทำการบินเข้าและออกจากสหภาพยุโรปปฏิบัติตาม Safety Information Bulletin SIB 2017-01 เรื่องมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการส่งหรือนำแบตเตอรี่ลิเธียม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบ โดยแบตเตอรี่นั้นมีการชำรุด มีข้อบกพร่อง หรือถูกเรียกคืนจากผู้ผลิต ซึ่ง Mac Book Pro 15 นิ้ว เข้าข่ายเกณฑ์ดังกล่าว ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบสถานะ Mac Book ของตัวเองได้ที่ support.apple.com ซึ่งทางแอปเปิลระบุว่า MacBook Pro 15 นิ้วรุ่นเก่าบางเครื่องอาจเกิดภาวะร้อนเกินไปและเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ———————————————————– ที่มา : blognone / 21 August 2019 Link…

ตร.สนามบินโรมาเนียล็อคตัว-ลากผู้โดยสารอียิปต์ลงจากเครื่อง

Loading

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินบูคาเรสต์ ลากผู้โดยสารอียิปต์ลงจากเครื่อง ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยสารทั้งลำ เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นที่สนามบินบูคาเรสต์ บนเครื่องบินสายการบิน ทารอม   ของโรมาเนีย ที่เดินทางจากปารีส แวะจอดสนามบิน Henri Coandă เมืองหลวงโรมาเนีย ก่อนมุ่งหน้ากรุงไคโร  ประเทศอียิปต์ คลิปแสดงให้เห็นนาทีการทะเลาะวุ่นวาย ระหว่างผู้โดยสารชาวอียิปต์ กับลูกเรือ ที่พยายามขัดขืนการจับกุม ต่อมา ตำรวจสนามบินเข้าแทรกแซง ใช้กำลังบังคับผู้โดยสารคนนั้นลงจากเครื่องแบบถูลู่ถูกังและสวมกุญแจมือ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของภรรยาและลูกชาย และเสียงโหวกเหวกของผู้โดยสารบนเครื่อง ที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ Viorica Hagagg ผู้โดยสารที่แชร์เรื่องนี้บนเฟซบุ๊ก เล่าเหตุการณ์ว่า สตรีคนหนึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ นั่งติดกับทางออกฉุกเฉิน แต่ไม่เข้าใจระเบียบทางออกฉุกเฉิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงให้ครอบครัวนี้ย้ายไปด้านหลัง ไม่กี่นาทีหลังย้ายไปแล้ว  ตำรวจขอให้สตรีคนดังกล่าวมอบหนังสือเดินทาง และสั่งให้ลงจากเครื่องบินทั้งครอบครัวตามคำร้องขอของกัปตัน แต่ผู้โดยสารหญิงท่านนั้นและครอบครัวยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการให้ทำอะไร ผู้โดยสารคนอื่น ขอให้รปภ.หรือลูกเรือจัดหาล่าม แต่ตำรวจบอกว่าไม่จำเป็น  และแสดงท่าที่ไม่เป็นมิตรตลอดเวลา คลิปแสดงให้เห็นหน่วยแพทย์รุดดูอาการของภรรยา หลังจากสามีถูกลากลงจากเครื่อง มีรายงานว่าเธอเป็นเบาหวานและเป็นลม ต้องได้รับยาปรับระดับน้ำตาล ต่อมา ลูกเรือแจ้งผู้โดยสารว่า สตรีคนดังกล่าวถ่มน้ำลายใส่พนักงานต้อนรับ สายการบินเข้าไปตอบโพสต์ของ Viorica Hagagg บนเฟซบุ๊กว่า เสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาจเพิกเฉยหรือยอมให้ผู้โดยสาร ละเมิดกฎและคุกคามความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่น ลูกเรือปฏิบัติตามขั้นตอนสำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้ เมื่อผู้โดยสารไม่ยอมย้ายที่นั่ง จึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ…

หวั่นภัยก่อการร้าย บริติชแอร์เวย์ระงับบินไคโร

Loading

สายการบินบริติชแอร์เวย์ของอังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินไปกรุงไคโรของอียิปต์ 7 วันเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ ภายหลังทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ขณะรัฐบาลอังกฤษเตือนมีความเสี่ยงสูงจากภัยก่อการร้ายในอียิปต์ รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคมกล่าวว่า สายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนีก็ระงับเที่ยวบินจากนครมิวนิกและแฟรงก์เฟิร์ตไปยังกรุงไคโรเมื่อวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม โดยคำแถลงไม่ได้ระบุเหตุผล แต่สายการบินนี้กลับมาให้บริการตามปรกติแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนบริติชแอร์เวย์ (บีเอ) ประกาศระงับการบินไปยังกรุงไคโรนาน 7 วัน โดยแถลงการณ์อ้างเหตุผลว่า สายการบินทบทวนการจัดการด้านความปลอดภัยของสนามบินทั่วโลกที่เราให้บริการทุกแห่งอย่างสม่ำเสมอ และได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินไปกรุงไคโร เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ระหว่างรอการประเมินเพิ่มเติม ว่ามีความปลอดภัยสำหรับการบินแล้ว “ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของลูกค้าและลูกเรือของเราเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอันดับแรกอยู่เสมอ และเราจะไม่ทำการบินจนกว่าจะปลอดภัย” แถลงการณ์กล่าว ด้านกระทรวงการบินพลเรือนของอียิปต์กล่าวว่า กระทรวงกำลังทำงานร่วมกับสถานทูตอังกฤษประจำกรุงไคโร และตัวแทนของบีเอในอียิปต์ และได้ส่งเที่ยวบินพิเศษของอียิปต์แอร์ไปยังกรุงลอนดอนทุกวันเพื่อรับผู้โดยสารที่ตกค้าง ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษมีคำแนะนำถึงชาวอังกฤษที่กำลังจะเดินทางไปอียิปต์ โดยเตือนว่ามีความเสี่ยงสูงของการก่อการร้ายโจมตีภาคการบิน และได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับเที่ยวบินจากอังกฤษไปยังอียิปต์แล้ว ขอให้พลเมืองอังกฤษให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของสนามบินต่างๆ อย่างเต็มที่ รัฐบาลอังกฤษแนะนำพลเมืองอังกฤษให้หลีกเลี่ยงการเดินทางทางอากาศทั้งขาเข้าและขาออกจากเมืองชาร์มเอลเชค เมืองพักตากอากาศของอียิปต์บนคาบสมุทรไซนาย หากไม่มีกิจธุระจำเป็น คำเตือนอ้างถึงความเป็นไปได้สูงที่ผู้ก่อการร้ายจะพยายามก่อเหตุในอียิปต์ แม้การโจมตีส่วนใหญ่จะเกิดในเขตไซนายเหนือ แต่ยังคงมีความเสี่ยงก่อการร้ายทั่วประเทศอียิปต์ รวมถึงในกรุงไคโร. —————————————————————– ที่มา : ไทยโพสต์ / 21 กรกฎาคม 2562 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/41555

คาดสายชาร์จไฟไหม้ ต้นตอเครื่องบิน “เวอร์จิ้น แอตแลนติก” ลงจอดฉุกเฉิน

Loading

เที่ยวบินสายการบินเวอร์จิ้น แอตแลนติก เส้นทางจากมหานครนิวยอร์ก ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติโลแกน ในนครบอสตัน หลังเกิดเหตุไฟไหม้ห้องโดยสาร ซึ่งทีมสืบสวนคาดว่าน่าจะมีต้นตอมาจากสายชาร์จโทรศัพท์เกิดลุกไหม้บนเครื่อง ผู้โดยสาร 217 ชีวิตและลูกเรืออพยพจากเที่ยวบิน สายการบินเวอร์จิ้น แอตแลนติก ที่สนามบินในนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ได้อย่างปลอดภัย โดยมีรายงานผู้บาดเจ็บที่ปฏิเสธการปฐมพยาบาลเนื่องจากภาวะสำลักควัน หนังสือพิมพ์ Washington Post อ้างข้อมูลจากตำรวจรัฐแมสซาชูเซตส์ รายงานว่า การสืบสวนเบื้องต้นพบว่าสาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะมาจากสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ ที่พบอยู่ระหว่างที่นั่งโดยสารในเกิดประกายไฟลุกไหม้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินจะเข้าควบคุมเพลิงไว้ได้ ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ หรือ FAA ห้ามไม่ให้นำแบตเตอรี่ลิเธียมพกพาโหลดลงในกระเป๋าสัมภาระใต้เครื่อง รวมทั้งมีรายงานว่าสายการบินหลายแห่ง สั่งห้ามนำกระเป๋า Smart Bag ที่บรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมสำหรับชาร์จสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์โหลดลงในกระเป๋าสัมภาระใต้เครื่อง เพราะมีความเสี่ยงที่อุปกรณ์ดังกล่าวอาจเกิดประกายไฟหรือระเบิดได้ แต่ข้อกำหนดดังกล่าวไม่ได้มีผลบังคับใช้กับการนำแบตเตอรี่พกพาเหล่านี้ขึ้นไปบนห้องโดยสารบนเครื่องบิน หรือใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางติดตัวขึ้นเครื่อง หรือ carry-on ปัจจุบัน สายการบินหลายแห่ง เริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายการบิน หลังเหตุไฟไหม้บนเครื่องบินที่มาต้นตอมาจากแบตเตอรี่พกพา ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์เมื่อปี ค.ศ. 2016 กับสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สด้วย และผู้โดยสารจะต้องแจ้งกับพนักงานบนเครื่องทันทีหากพบว่าแบตเตอรี่พกพาที่ตนนำมาเกิดความร้อนผิดปกติ ตกหล่นลงไปด้านใต้เบาะที่นั่งโดยสาร หรือเริ่มมีควันออกมาจากอุปกรณ์ดังกล่าว ————————————————————— ที่มา : VOA Thai /…