นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากสถิติผลการดำเนินการ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 จนถึง 31 กรกฎาคม 2567 ได้ทำการตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวัง การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากเว็บไซต์ของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 31,561 หน่วย
“ตำรวจไซเบอร์” เตือนภัยจาก “มิจฉาชีพ” แอบอ้างเป็น กสทช. ส่ง SMS แนบลิงก์ปลอม หลอกลงทะเบียนยืนยันตัวตน พร้อมย้ำไม่มีนโยบายรับลงทะเบียนซิม เพื่อยืนยันตัวตนผ่านทุกช่องทาง
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ระบุว่า PDPC เรียกกระทรวงสาธารณสุขเข้าชี้แจงด่วน กรณีแฮกเกอร์ประกาศขายข้อมูลหน่วยงานสาธารณสุข 2.2 ล้านรายชื่อ โดย PDPC ได้ให้ศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC Eagle Eye) หรือสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)
กสทช. ระงับเบอร์โทรศัพท์ผู้ถือครองซิมการ์ด 101 เบอร์ขึ้นไป ซึ่งนับหลังจากที่ สำนักงาน กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค. 2567 มาถึงวันนี้ 14 ก.พ. 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายสำหรับกลุ่มผู้ถือซิมการ์ด 101 เบอร์ขึ้นไป หากไม่มีการยืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกระงับการใช้งาน และถูกเพิกถอนไปในที่สุด
วันที่ 9 ม.ค. 67 เรียกว่าแก๊งมิจฉาชีพ ปรับเล่ห์เหลี่ยมมาหลอกเงินจากคนที่หลงเชื่อไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุด พบว่ามีการปลอมเฟซบุ๊กเป็นหน่วยงานของตำรวจไซเบอร์ เพื่อรับแจ้งความออนไลน์ เหมือนเป็นการหลอกผู้เสียหายซ้ำไปอีก
มื่อเวลา 10.00 วันที่ 11 ธันวาคม พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร หนึ่งในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ รับหมอบหมายงานจาก น.ศ.นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. แถลงผลการกวาดล้างคลังอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อน กวนสัญญาณมือถือ มุ่งตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว