ตำรวจเบลเยียมจับกุม 116 คนจากเหตุลุกฮือประท้วงชายผิวดำเสียชีวิต!

Loading

  ตำรวจกรุงบรัสเซลล์ เบลเยียม จับกุมผู้ประท้วง 116 คน จากเหตุการณ์ประท้วงการเสียชีวิตของชายผิวดำผู้หนึ่งระหว่างการขัดขืนการจับกุมของตำรวจ การเดินขบวนในวันพุธที่กรุงบรัสเซลล์เริ่มต้นอย่างสงบ มีผู้เข้าร่วมราว 500 คน โดยผู้ประท้วงส่วนหนึ่งได้ถือป้าย Black Lives Matter ซึ่งสะท้อนถึงการประท้วงลักษณะเดียวกันในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศเมื่อปีที่แล้ว ต่อมาทางตำรวจเบลเยียมรายงานว่า มีผู้ประท้วงราว 50 – 100 คนที่เริ่มก่อเหตุรุนแรง ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด และเกิดการปะทะกันกับตำรวจ ทำให้มีตำรวจบาดเจ็บหลายคน แถลงการณ์ของตำรวจระบุว่า ผู้ประท้วงปาสิ่งของใส่ตำรวจ จุดไฟเผาและทำลายทรัพย์สินสาธารณะ รวมทั้งยานพาหนะของตำรวจหลายคัน นอกจากนี้ยังบุกทำลายหน้าต่างสถานีตำรวจแห่งหนึ่งด้วย มีผู้ถูกจับกุม 116 คนจากเหตุการณ์นี้ โดย 30 คนเป็นเยาวชน ทางด้านอัยการเบลเยียมเรียกร้องให้มีการแต่งตั้งผู้พิพากษาพิเศษเพื่อสืบสวนเหตุการณ์การเสียชีวิตของชายผิวดำวัย 23 ปี ซึ่งตำรวจระบุเพียงชื่อย่อว่า I.B. ผู้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 9 มกราคม หลังจากที่เขาพยายามวิ่งหนีตำรวจที่กำลังตรวจสอบกลุ่มคนซึ่งรวมตัวกันในกรุงบรัสเซลล์ภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 I.B.ถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจก่อนที่เขาจะเป็นลมหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้กำลังมีการชันสูตรศพของเขาว่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด   —————————————————————————————————————————————- ที่มา : VOA Thai…

สหรัฐฯ เดินหน้าสอบสวนผู้บุกรุกอาคารรัฐสภา

Loading

  เมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ประกาศเริ่มสืบสวนเหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ โดยมีเจ้าหน้าที่สืบสวนหลายร้อยคนเข้าร่วมระบุอัตลักษณ์และจับกุมผู้กระทำผิด ไมเคิล เชอร์วิน รักษาการอัยการสหรัฐฯ ประจำกรุงวอชิงตัน ระบุว่า มีบุคคล 15 คนถูกจับกุมตามหมายศาลรัฐบาลกลาง เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจลาจล และมีบุกคนอีก 40 คนถูกจับตามหมายศาลของศาลสูงกรุงวอชิงตัน โดยส่วนใหญ่ถูกจับเนื่องจากเดินทางเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตามกฎหมายรัฐบาลกลางที่ถูกใช้ดำเนินคดีทั้งนี้ มีข้อหาลักทรัพย์สินของรัฐบาล และข้อหาละเมิดกฎหมายปืน ชายคนหนึ่งถูกจับกุมบริเวณใกล้อาคารรัฐสภาด้วยข้อหาพกพาอาวุธจู่โจมกึ่งอัตโนมัติและระเบิดขวด 11 ขวดที่เชอร์วินระบุว่า “พร้อมใช้งาน”       เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตห้าคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน เชอร์วินกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งอาจกินเวลาอีกหลายเดือน เนื่องจากตำรวจประจำอาคารรัฐสภาปล่อยให้ผู้บุกรุกหลายร้อยคนออกจากอาคารไปได้ เขายังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนหลายร้อยคนกำลังรวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อระบุอัตลักษณ์ของผู้กระทำผิด โดยจะเร่งสืบสวนและดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เจฟฟรีย์ โรเซน รักษาการรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมรับรองว่าผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการ “โจมตีรัฐบาลและหลักนิติธรรม” จะต้องพบกับผลที่ตามมาอย่างเต็มรูปแบบภายใต้กฎหมาย “อัยการฝ่ายคดีอาญาของเราทำงานตลอดทั้งคืนกับเจ้าหน้าที่พิเศษและเจ้าหน้าที่สืบสวนจากตำรวจประจำอาคารรัฐสภา สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ สำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และอาวุธระเบิด สำนักงานตำรวจเมือง รวมถึงกับภาคสาธารณะ…

ตายแล้ว4 ม็อบบุกสภาสหรัฐ นักข่าวเผยนาทีโกลาหลในห้องประชุม

Loading

ตายแล้ว4 – จากกรณีมวลชนผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐ กรุงวอชิงตัน ขัดขวางการประชุมเพื่อรับรองการแต่งตั้งให้นายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ เกิดความโกลาหลไปทั่วเมืองหลวง จนทางการต้องประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพุธที่ 6 ม.ค. ตามเวลาสหรัฐ     บีบีซี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุโกลาหลนี้เพิ่มเป็น 4 รายแล้ว ผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นผู้ประท้วงหญิง ถูกยิงที่หน้าอก ขณะพยายามจะบุกเข้าห้องประชุมสภาผู้แทนในอาคารรัฐสภา ช่วงเวลา 15.00 น. และเสียชีวิตถูกส่งตัวถึงโรงพยาบาล ทราบชื่อต่อมา ว่า แอชลี แบ็บบิตต์ เป็นทหารผ่านศึกของกองทัพอากาศ และเป็นผู้สนับสนุนนายทรัมป์     ตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. เผยว่า ผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย เป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บขณะบุกอาคารรัฐสภา หรือ ยูเอส แคปิตอล ผู้ตายเป็นผู้หญิงหนึ่งราย และผู้ชายสองราย นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกจับกุม 52 คน ในจำนวนนี้ 47 คนถูกจับฐานฝ่าฝืนกฎเคอร์ฟิว…

สหรัฐเละ! ม็อบคลั่งทรัมป์บุกสภา โกลาหลขั้นสุด ขวางรับรองไบเดน

Loading

สหรัฐเละ! – 7 ม.ค. ซีเอ็นเอ็น และ เอพี รายงานสถานการณ์การเมืองสหรัฐอเมริกาสุดปั่นป่วนโกลาหล และน่าอับอายไปทั่วโลก เมื่อฝูงชนฝ่ายขวาจัดที่สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าอาคารรัฐสภา หรือ ยูเอส แคปิตอล กลางกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของประเทศ ขัดขวางการประชุมลงมติรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี จนล่มกลางคัน บรรดาส.ส.ต้องอพยพออกจากห้องประชุม และกรุงวอชิงตันต้องประกาศเคอร์ฟิว   สื่อมวลชนสหรัฐต่างรายงานความโกลาหลที่น่าตกตะลึงเกินคาดคิดเมื่อช่วงเย็นวันพุธ ตามเวลาสหรัฐ ทำลายภาพความเป็นผู้นำโลกประชาธิปไตยของสหรัฐอย่างยับเยิน โดยเฉพาะการนำและยุยงมวลชนให้ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของนายทรัมป์เอง ทรัมป์ชมมวลชนสุดพิเศษ แม้ว่าหลังจากเกิดเหตุสุดปั่นป่วนนี้ผ่านไปสองชั่วโมง นายทรัมป์โพสต์ทวิตเตอร์ช่วง 16.40 น. บอกม็อบกองเชียร์ว่า “ผมเข้าใจความเจ็บปวดของท่าน เข้าใจความเจ็บใจ แต่ท่านต้องกลับบ้านได้แล้ว” อย่างไรก็ตามข้อความต่อมายังชื่นชมว่าเป็นมวลชน “สุดพิเศษ” ที่ร่วมต่อต้านการโกงเลือกตั้ง     นายทรัมป์โพสต์ข้อความนี้หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ฝ่ายเดียวกับตนเอง ขอร้องให้ช่วยแสดงบทบาทห้ามปรามความรุนแรงที่รัฐสภา รวมถึงนายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีที่อยู่ในห้องประชุม ก็เรียกร้องให้มวลชนออกจากเมืองหลวงไปในทันที   เช่นเดียวกับนายไบเดนที่นอกจากประณามมวลชนใช้ความรุนแรงกลุ่มนี้ ว่าทำร้ายภาระหน้าที่อันทรงคุณค่าของชาวเมริกัน ยังเรียกร้องให้นายทรัมป์ออกโทรทัศน์บอกให้มวลชนที่สนับสนุนตนเองยุติความรุนแรงได้แล้ว “การโจมตีอาคารรัฐสภาไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้อง…

หวั่นนองเลือด! ตำรวจวอชิงตันเตือนแฟนคลับทรัมป์ ‘ห้ามพกปืน’ เข้าร่วมชุมนุมใหญ่ค้านผลเลือกตั้ง 6 ม.ค.

Loading

  เจ้าหน้าที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เตือนผู้สนับสนุนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อย่าพกปืนมาร่วมชุมนุมคัดค้านผลเลือกตั้งในวันที่ 6 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่สภาคองเกรสจะมีกำหนดรับรองผลมติคณะผู้เลือกตั้งให้ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ขณะเดียวกันก็มีการเรียกระดมกองกำลังเนชันแนลการ์ดหลายร้อยนายเพื่อควบคุมสถานการณ์ “เราได้รับข้อมูลมาว่า มีคนบางกลุ่มเตรียมที่จะนำอาวุธปืนเข้ามาในเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่รับไม่ได้” โรเบิร์ต คอนที ผู้บัญชาการตำรวจวอชิงตัน ระบุในงานแถลงข่าวที่ศาลาว่าการเมือง พร้อมเตือนว่าผู้ใดก็ตามที่ทำเช่นนั้นหรือพยายามปลุกปั่นความรุนแรงจะถูกจับทันที ด้านกองกำลังเนชันแนลการ์ดของ ดี.ซี. แถลงวานนี้ (4 ม.ค.) ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ราว 300 นายเข้ามาช่วยควบคุมฝูงชน และสนับสนุนภารกิจของของหน่วยดับเพลิงและกู้ชีพ ร่วมกับตำรวจวอชิงตัน, ตำรวจอุทยานแห่งชาติ (US Park Police) และหน่วยซีเคร็ตเซอร์วิส กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวดที่สุดในสหรัฐอเมริกา และห้ามมิให้ประชาชนพกปืนอย่างเปิดเผย หรือครอบครองอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตของท้องถิ่น ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคน รวมถึงกลุ่มชาตินิยมขวาจัดที่เคยพกปืนไปประท้วงในที่อื่นๆ มาแล้ว คาดว่าจะมารวมตัวกันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (5) ยาวไปจนถึงวันพุธที่ 6 ม.ค. เพื่อคัดค้านการรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พ.ย.…

กองทัพคุมเมืองหลวงเอธิโอเปีย หลังเหตุจลาจลคร่าไปกว่า 80 ชีวิต

Loading

Addis Ababa on farwell of singer hachalu สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) กองทัพเข้าควบคุมสถานการณ์ในกรุงอาดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย หลังจากที่มีการจลาจลรุนแรงบนท้องถนนเข้าสู่วันที่สอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 80 คน เบเดซซา เมอร์ดัซซา ผู้บัญชาการตำรวจแคว้นโอโรมิยา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีทั้งพลเรือน 78 คน สมาชิกกองกำลัง 3 คน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าตำรวจถูกสังหาร 1 คน และเกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 ครั้งในกรุงอาดดิสอาบาบา โดยยังไม่มีการระบุตัวเลขผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต การประท้วงถูกจุดชนวนจากการยิงสังหาร ฮาคาลู ฮันดีซ์ซา นักร้องชื่อดังของเอธิโอเปีย เมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย. โดยการประท้วงเริ่มในกรุงอาดดิสอาบาบา ก่อนจะขยายไปในอีกหลายเมืองของแคว้นโอโรมิยา ยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า งานศพของฮาคาลูในวันที่ 2 ก.ค. อาจจุดปะทุให้เกิดการจลาจลมากขึ้นกว่าเดิม FILE: Ethiopian musician Haacaaluu Hundeessaa poses…