อคติในอัลกอริทึม

Loading

    ด้วยกระแสก้าวกระโดดของเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) ของเอไอ ซึ่งทำให้พัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถตัดสินใจได้โดยอัตโนมัติ   ส่งผลให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในปัจจุบันได้อย่างกว้างขวาง แต่ทำอย่างไรเราจะแน่ใจได้ว่า อัลกอริทึมของการตัดสินใจโดยเอไอจะทำงานเพื่อตอบโจทย์มนุษย์อย่างแท้จริงแทนที่จะครอบงำการตัดสินใจของผู้ใช้งานอย่างมีอคติ?   อัลกอริทึม (Algorithm) เป็นคำที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งหมายถึงกระบวนการหรือชุดคำสั่งในการทำงานอัตโนมัติ โดยในอดีตอาจย้อนไปถึงการวางค่ายกลในพีระมิดโบราณ เพื่อป้องกันการโจรกรรม ซึ่งถือเป็นการออกแบบอัลกอริทึมที่ชาญฉลาดแบบหนึ่ง   ที่ผ่านมา ในการสั่งการคอมพิวเตอร์ให้ทำงานตามที่ต้องการได้นั้น จำเป็นต้องออกแบบอัลกอริทึมให้เป็นชุดคำสั่งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้   อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน คำว่าอัลกอริทึมมักถูกใช้เป็นวงกว้างในปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะอัลกอริทึมที่สร้างขึ้นมาจากข้อมูลผ่านกระบวนการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning)   บ่อยครั้งที่อัลกอริทึมสมัยใหม่ถูกใช้ในการคาดการณ์อนาคต เช่น คาดการณ์กลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่น่าจะซื้อสินค้าชนิดใหม่ คาดการณ์ภาพยนตร์ที่ผู้ใช้น่าจะชอบ หรือคาดการณ์ว่าอีเมลไหนจะเป็นสแปม เป็นต้น     การพัฒนาเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการให้ตรงเป้าหมายผู้ใช้มากขึ้น ช่วยการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ   อย่างไรก็ตาม เมื่อกระบวนการตัดสินใจกลายเป็นรูปแบบระบบอัตโนมัติมากขึ้น โดยมีอัลกอริทึมช่วยตัดสินใจอยู่ข้างใน เราจึงจำเป็นที่ต้องตระหนักและระมัดระวังว่า ผลการตัดสินใจที่เอไอให้ออกมานั้นสมเหตุสมผลและมีอคติหรือไม่?…

‘สมาคมธนาคารไทย’ เร่งพัฒนา AI – ตั้งศูนย์ตรวจสอบ ‘ธุรกรรมเสี่ยงทุจริต’ เสริมความปลอดภัยการทำธุรกรรมการเงิน

Loading

    ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ระบบธนาคารพาณิชย์กำลังดำเนินงานสร้างระบบกลางที่เรียกว่า ‘ศูนย์ตรวจเช็กธุรกรรมที่มีความเสี่ยงทุจริต’ (Central Fraud Registry) ซึ่งดำเนินการโดย ITMX ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบพร้อมเพย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยับยั้งความเสียหาย ผ่านการร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)   ประธานสมาคมธนาคารไทยกล่าวอีกว่า ปัจจุบันแต่ละธนาคารมีการเร่งพัฒนาและใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัยแล้ว เนื่องจากธุรกรรมส่วนมากมีขนาดเล็กจึงต้องใช้ AI เข้ามาช่วย ใช้มนุษย์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การส่งข้อมูลแจ้งธนาคารอื่นๆ ทราบยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากข้อจำกัดภายใต้ พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล   ทั้งนี้ ด้วยกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลในปัจจุบัน ผยงกล่าวว่าทำให้ธนาคารต่างๆ ไม่สามารถยับยั้งธุรกรรมที่ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็วพอ ทำให้ตอนนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการคลัง ได้เร่งออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. เพื่อก้าวผ่านข้อจำกัด เปิดทางให้ธนาคารให้ข้อมูลที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นข้อมูลอาชญากรรม ‘ข้ามธนาคาร’ เพื่อให้สิทธิแต่ละธนาคารดำเนินการยับยั้งได้เลย ไม่ต้องรอใบแจ้งความ เพียงแค่เจ้าของบัญชีได้รับการยืนยันเท่านั้น…

Amazon เตือนพนักงานห้ามเผยข้อมูลที่เป็นความลับกับ ChatGPT

Loading

    ทนายความของแอมะซอน แจ้งเตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT ในกรณีการแชร์ข้อมูลที่เป็นความลับ หลังพบว่ามีเนื้อหาใกล้เคียงกับความลับสำคัญของบริษัทหลุดออกไป   รายงานของสำนักข่าวบิสซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนที่แล้วในช่องทางสแลค (Slack) แพลตฟอร์มการทำงานภายในของบริษัทแอมะซอน ได้เต็มไปด้วยคำถามที่มีการพูดถึง ChatGPT   ในเวลานั้นมีพนักงานของแอมะซอน ได้ถามบริษัทว่า ได้มีแนวทางเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT หรือไม่ ขณะที่ พนักงานบางรายได้สอบถามว่า บริษัทจะอนุญาตให้ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาเป็นหนึ่งในเครื่องมือของการทำงานหรือไม่   ในไม่ช้า ทนายความของแอมะซอน เข้ามาเตือนพนักงานว่า ข้อมูลที่เป็นความลับใด ๆ ของแอมะซอน ไม่ว่าจะเป็นซอร์สโค้ดของงานในแอมะซอนที่ทำอยู่ ห้ามมีการใช้งานร่วมกับ ChatGPT เพราะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่พนักงานใช้ภายใน ChatGPT อาจเป็นการฝึกการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ได้ แน่นอนว่า แอมะซอนไม่ต้องการให้มีข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทรั่วไหลออกมา   พร้อมกันนี้ ทนายความของแอมะซอนกล่าวด้วยว่า เขาเคยเห็นข้อมูลจาก ChatGPT ซึ่งมีเนื้อหาใกล้เคียงกับความลับของบริษัทแอมะซอนด้วย   เพื่อเป็นการวางมาตรการป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า บิสซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยด้วยว่า แอมะซอนได้ติดตั้งระบบป้องกันภายในเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT เอาไว้แล้ว…

ผ่าแผนแม่บท ‘เอไอ’ แห่งชาติ ปลุกเศรษฐกิจดิจิทัล-ดันจีดีพี

Loading

      ผ่าแผนแม่บท ‘เอไอ’ แห่งชาติ กลไกใหญ่ปลุกเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐวางโรดแมป 6 ปี ยกระดับดัชนีความพร้อมด้านเอไอของไทย ไม่ต่ำกว่าลำดับที่ 50 ของโลก เกิดการลงทุนด้านเอไอเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี สร้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญไม่ต่ำกว่า 30,000 คน ไอบีเอ็ม ชี้ เอไอ เทรนด์ใหญ่ธุรกิจต้องมอง “นักวิชาการ” หวั่น ‘เอไอ’ อาจสร้างผลลบ โดยเฉพาะ “แรงงาน” หากไม่สร้างความตระหนักรู้ให้ดี   ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ คือ หนึ่งในเมกะเทรนด์โลกยุคใหม่ มีความสำคัญมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ หลายสิบปีก่อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วันนี้โลกกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ทำให้จินตนาการของเรา ที่สะท้อนผ่านภาพยนตร์ในอดีตเป็นจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ไร้คนขับ ร้านค้าไร้พนักงาน ระบบการเงิน การธนาคารที่ใช้เอไอวิเคราะห์แทนพนักงาน ไปจนถึงการบริการลูกค้าผ่านแชตอัจฉริยะ รวมไปถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์   ขณะที่…

ไมโครซอฟต์พัฒนา “VALL-E” เอไอเลียนเสียงคนได้เหมือนเป๊ะในเวลา 3 วิ!

Loading

  บริษัทไมโครซอฟต์เปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่ “VALL-E” เลียนเสียงคนได้ในเวลาแค่ 3 วินาที และใส่อารมณ์ลงไปในคำพูดได้ด้วย!   วงการเทคโนโลยีสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ออกมาประกาศเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า “VALL-E” (ไม่ใช่การ์ตูน WALL-E นะ!)   ความพิเศษของเอไอตัวนี้คือ มันสามารถจำลองเลียงของคนได้อย่างไร้ที่ติ เพียงป้อนตัวอย่างเสียงความยาวแค่ 3 วินาทีให้มัน มันก็จะสามารถเรียนรู้เสียงนั้นและสังเคราะห์เสียงนั้นออกมา     จุดเด่นของ VALL-E นอกจากเรื่องความเร็วในการเรียนรู้แล้ว มันยังสามารถใช้เสียงที่จดจำมาพูดอะไรก็ได้ และใส่ “อารมณ์” ไหนลงไปก็ได้ พูดง่าย ๆ มันจะไม่ใช่เสียงโมโนโทนแบบเอไออื่น แต่จะเป็นเสียงที่พูดราวกับเป็นคนจริง ๆ ที่มีอารมณ์ความรู้สึก   ทีมผู้พัฒนาคาดการณ์ว่า VALL-E อาจถูกนำไปใช้สำหรับแอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นคำพูด (Text-to-Speech) คุณภาพสูง หรือโปรแกรมแก้ไขดัดแปลงเสียงที่บันทึกไว้ จากที่พูดประโยคหนึ่ง ก็อาจตัดต่อให้พูดเป็นอีกประโยคหนึ่งโดยที่เสียงยังเป็นของผู้พูดคนเดิม   ไมโครซอฟต์เปิดเผยว่า VALL-E สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า…

“ม.ออสเตรเลีย” กลับไปสอบ “ปากกา-กระดาษ” สกัดนศ.ใช้ “AI” โกงข้อเขียน

Loading

  เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่สามารถคิดและวิเคราะห์ได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ หากใช้ผิดทางย่อมนำมาซึ่งผลเสียมหันต์ เช่น มหาวิทยาลัยชั้นนำในออสเตรเลีย จำต้องเปลี่ยนกลับมาใช้วิธีสอบด้วย “ปากกาและกระดาษ” หลังพบนักศึกษาทุจริตใช้เอไอเขียนเรียงความแทน   เมื่อไม่นานนี้ มีปรากฏการณ์แชทบอทอัจฉริยะที่พัฒนามาจากปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่เรียกว่า “ChatGPT” ของบริษัท OpenAI ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับความสามารถสุดน่าทึ่ง เช่น สนทนาโต้ตอบในหัวข้ออะไรก็ได้ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอยากรู้ ตั้งแต่ประเด็นเชิงประวัติศาสตร์ ปรัชญา ไปจนถึงวิทยาศาสตร์ และทฤษฎีวิชาการต่าง ๆ   ด้วยเหตุนี้ โรงเรียนรัฐหลายแห่งในนิวยอร์กของสหรัฐจึงสั่งห้ามนักเรียนใช้ ChatGPT ในทุกอุปกรณ์ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ “ผลกระทบเชิงลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน” และอาจมีการคัดลอกผลงานผู้อื่นด้วย   ล่าสุดในออสเตรเลีย สถาบันการศึกษาหลายแห่งได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับ ChatGPT และความสามารถของเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน ในการเลี่ยงซอฟต์แวร์ตรวจจับการคัดลอกผลงาน พร้อมกับช่วยนักศึกษาเขียนงานวิชาการได้อย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือเสมือนเขียนด้วยตัวเอง   Group of Eight หรือกลุ่ม 8 มหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยระดับชั้นนำของออสเตรเลีย ระบุว่า ได้แก้ไขวิธีสอบวัดผลในปีการศึกษานี้…