ภัยคุกคามยังมี! เพนตากอนสั่งคงกองกำลังทหารในวอชิงตันถึงกลาง มี.ค.

Loading

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศคงกองกำลังทหารรักษาดินแดนหลายพันนายไว้ในกรุงวอชิงตันต่อไปจนถึงกลางเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่าจะเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปแล้ว เนื่องจากภัยคุกคามต่อเนื่องยังคงดำรงอยู่ อย่างไรก็ดีกระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ระบุชัดเจนถึงสิ่งที่เป็นภัยคุกคามที่ยังคงมีอยู่ว่าคืออะไร โดยบอกเพียงว่าข้อมูลดังกล่าวได้มาจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เท่านั้น และว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงในหลายเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทางการสหรัฐยังคงวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังการบุกยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเชื่อว่าความกังวลดังกล่าวยังคงอยู่ไปจนถึงวันที่วุฒิสภาสหรัฐจะเริ่มต้นพิจารณาถอดถอนทรัมป์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้   —————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :  มติชน    / วันที่เผยแพร่  26 มกราคม 2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2547850

เปิดโปง QAnon ลัทธิคลั่งเบื้องหลังสาวกทรัมป์

Loading

อธิบายชัดๆ ที่มาที่ไปของลัทธิ QAnon ที่กำลังเขย่าประชาธิปไตยสหรัฐ     การบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันดี.ซี.ของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกตัวเองว่า “QAnon” เข้าร่วมวงด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เชื่อว่าเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มอย่าง เจค แองเจลี หรือ เจค็อบ แอนโธนี แชนสลีย์ ที่บุกเข้าไปถึงด้านในตัวอาคาร และแอชลีย์ แบบบิต อดีตทหารในกองทัพอากาศสหรัฐที่บุกคองเกรสจนถูกยิงเสียชีวิต คนเหล่านี้ทำให้ชื่อของ QAnon ถูกพูดถึงอีกครั้ง ต่อไปนี้คือสรุปที่มาที่ไปและความเชื่อของกลุ่ม QAnon 1. QAnon คือทฤษฎีสมคบคิดที่ปราศจากมูลความจริงของกลุ่มขวาจัดที่เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐ ร่วมมือกับนักการเมืองพรรคเดโมแครต มหาเศรษฐี และคนดังในวงการฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น ฮิลลารี คลินตัน, บารัก โอบามา, จอร์จ โซรอส หรือโอปราห์ วินฟรีย์ พยายามสร้างรัฐซ้อนรัฐ (deep state) เพื่อครอบงำสหรัฐ และยังกล่าวหาว่าคนกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก รวมถึงเชื่ออีกว่าทรัมป์กำลังทำสงครามกับคนกลุ่มนี้อย่างลับๆ เพื่อช่วยโลก 2. QAnon ยังเชื่อคำกล่าวอ้างอื่นๆ…

อึ้ง เผยทหารหน่วยรบพิเศษ SAS กำลังฝึกซ้อมต่อสู้ เอเลี่ยน อาจบุกโลก

Loading

  สื่ออังกฤษเผยทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ประมาณ 20 นาย กำลังฝึกซ้อมต่อสู้กับภัยคุกคามทุกอย่าง ทั้งก่อการร้าย อาวุธชีวภาพ ไปจนถึงมนุษย์ต่างดาวที่อาจบุกโลก เมื่อ 11 มกราคม 2564 เว็บไซต์เดลี่สตาร์ รายงานอ้างแหล่งข่าว ถึงเหตุการณ์ที่ชาวโลกส่วนใหญ่คงไม่อาจรู้ว่าขณะนี้ทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ชั้นหัวกะทิของอังกฤษ ประมาณ 20 นายกำลังมีการฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธร้ายแรงกับภัยคุกคามที่มีศักยภาพหลากหลาย ซึ่งรวมทั้งความเป็นไปได้ที่ เอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาวอาจบุกโลกมนุษย์ของเราด้วย แหล่งข่าวเผยกับเดลี่สตาร์ว่า หน่วยรบทหารพิเศษชั้นหัวกะทิของอังกฤษกำลังเตรียมตัวฝึกซ้อมรับมือกับภัยคุกคามทุกอย่างและทุกเรื่อง รวมถึงภัยจากการก่อการร้าย ภัยจากอาวุธชีวภาพปลิดชีวิตมนุษย์ ไปจนถึงภัยจากมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวดวงอื่น     ‘ผมรู้ว่ามันฟังดูแล้วเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก แต่ขณะนี้ หน่วย SAS กำลังฝึกซ้อมรับมือในทุกภัยคุกคาม ทหารหน่วยรบ SAS นี้สามารถใช้อาวุธไม่ร้ายแรง อย่างสเปรย์ ในการป้องกันไม่ให้ศัตรูเคลื่อนไหว’ แหล่งข่าวเผย พร้อมกับเข้าใจว่าทหารหน่วยรบพิเศษอังกฤษนี้ได้ฝึกซ้อมทักษะการสู้รบครั้งนี้ ร่วมกับทหารจากหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ส่วนแหล่งข่าวอีกคนหนึ่งยังพูดเสริมด้วยว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น แม้แต่ไอน์สไตน์ ยังเคยกล่าวว่า ทำไมโลกถึงจะเป็นแค่ดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่? และถ้าคุณเชื่อในเรื่องว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น คุณต้องยอมรับว่าสักวันเอเลี่ยนอาจมายังโลกในฐานะภัยต่อมนุษย์อย่างหนึ่ง   —————————————————————————————————————————- ที่มา…

คาร์บอมบ์โจมตีภาคกลางอัฟกานิสถาน เจ้าหน้าที่ดับ 30

Loading

รอยเตอร์ – เกิดเหตุคาร์บอมบ์โจมตีจังหวัดกาซนี( Ghazni) ภาคกลางของอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ 30 นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย ยังไม่มีผู้ใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ รอยเตอร์รายงานวันนี้(29 พ.ย)ว่า นายแพทย์ บาซ โมฮัมหมัด เฮหมัด ( Baz Mohammad Hemat) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำจังหวัดกาซนี(Ghazni) ภาคกลางของอัฟกานิสถาน กล่าวให้ข้อมูลว่า มีร่างผู้เสียชีวิต 30 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน ได้ถูกส่งตัวเข้ามาที่นี่ และชี้ว่า “เหยื่อทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคง” ทั้งนี้พบว่าการระเบิดมีเป้าหมายที่ตั้งของกองกำลังปกป้องสาธารณะซึ่งเป็นปีกของกองกำลังความมั่นคงอัฟกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผย การโจมตีสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนพลเรือนโดยรอบที่ตั้งกองกำลังปกป้องสาธารณะ พวกเขายังชี้ว่า อาจจะมีตัวเลขสูญเสียที่นั่นเพิ่มมากขึ้น ขณะที่โฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานได้ออกมายืนยันเหตุโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดออกมา อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ รอยเตอร์รายงานว่า ซาบิฮุลลาห์ มูจาฮิด( Zabihullah Mujahid) โฆษกกลุ่มตอลิบานไม่ได้กล่าวยอมรับหรือปฎิเสธในความรับผิดชอบเมื่อถูกถามทางโทรศัพท์ นอกจากนี้ในวันอาทิตย์(29)ยังเกิดเหตุระเบิดอีกที่ในจังหวัดซาบูล( Zabul)ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน โดยมีเป้าหมายไปที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำจังหวัด แต่ทว่าการโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1 คน และบาดเจ็บอีก…

เปิดเเผนรัสเซียขยายอิทธิพลเพื่อ ‘แทรกซึมการเมืองสหรัฐฯ’ ต่อเนื่อง

Loading

Putin’s language สี่ปีหลังจากการเตือนภัยและเตรียมการต่อต้านการเเเทรกแซงของรัสเซียต่อการเลือกตั้งอเมริกัน หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ มั่นใจว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อปี ค.ศ. 2016 ที่รัสเซียสามารถเจาะล้วงระบบข้อมูลและขยายอิทธิพลต่อกระบวนการประชาธิปไตยอเมริกา อย่างไรก็ตาม ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่ารัสเซียยังคงพยายามขยายปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารในรูปแบบที่แยบยลกว่าในอดีต จากเดิมที่รัสเซียใช้บัญชีโซเชี่ยลมีเดียปลอมสร้างเนื้อหาและเผยเเพร่ข้อมูล ปัจจุบันกลวิธีใหม่ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อชี้นำความคิดในสังคมอเมริกัน เช่น การแทรกซึมเข้าไปในวงการข่าวและสื่อสังคมออนไลน์ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มขวาจัดและซ้ายจัดในอเมริกา เอวานา ฮู ซีอีโอ ขององค์กร Omelas ที่ศึกษาเกี่ยวกับความคิดสุดโต่งออนไลน์ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า วิธีการลักษณะนี้ของรัสเซียสามารถสร้างความสนใจและมีปฏิกิริยาตอบโต้บนสื่อออนไลน์โดยผู้ใช้สื่อจำนวนนับล้านคน เธอบอกว่าโพสต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อกระตุ้นความรู้สึก ทั้งทางบวกและทางลบต่อเป้าหมาย องค์กรของเธอซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน วิเคราะห์เนื้อหาที่รัสเซียปล่อยออกมาบนสื่อสังคมไลน์ 1 ล้าน 2 แสนโพสต์บน 11 แพลตฟอร์มช่วง 90 วัน ก่อนและหลังวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 พฤศจิกายน US-politics-vote-RALLY องค์กร Omelas พบว่าสื่อของรัสเซียที่ปล่อยข้อมูลออกมามากในอันดับต้นๆได้เเก่ RT, Sputnik, TASS และ Izvestia TV Omelas…

สหรัฐฯ – อิรัก ตึงเครียด! หลังเหตุจรวดโจมตีสถานทูตอเมริกันในกรุงแบกแดด

Loading

Security forces inspect the scene of a rocket attack at the gate of al-Zawra public park in Baghdad, Iraq, Nov. 18, 2020. Rockets struck Iraq’s capital on Tuesday with four landing inside its heavily fortified Green Zone. เกิดเหตุจรวดโจมตีบริเวณเขตอาคารสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด ในช่วงข้ามคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตเพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับอิรัก หลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่งจะประกาศถอนทหารอเมริกันอีก 500 นายออกจากอิรัก สื่อของอิรักรายงานว่า จรวดจำนวน 7 ลูกที่ยิงมาจากกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลอิหร่าน ตกลงในเขตปลอดภัยสูงสุด หรือ กรีนโซน ในกรุงแบกแดด โดยเชื่อว่ามีเป้าหมายโจมตีอาคารสถานทูตสหรัฐฯ…