‘ก่อการร้าย’ แน่นอน!! ตร.อังกฤษยืนยันแล้ว เหตุไล่แทงคนสุดโหดในสวนสาธารณะเมืองเรดดิ้ง

Loading

ตำรวจนิติเวชศาสตร์ เดินอยู่ในสวนสาธารณะฟอร์บิวรี การ์เดนส์ เมืองเรดดิง ทางตอนใต้ของอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ (21 มิ.ย.) สวนแห่งนี้เป็นที่เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนในตอนค่ำวันเสาร์ (20) รอยเตอร์ – เหตุไล่แทงผู้คนในสวนสาธารณะที่เมืองเรดดิง ทางตอนใต้ของอังกฤษ ซึ่งมีผู้ถูกสังหารไป 3 คน และได้รับบาดเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาลอีก 3 คน คือพฤติการณ์ก่อการร้าย ตำรวจระบุในวันอาทิตย์ (21 มิ.ย.) พร้อมกับเรียกการโจมตีคราวนี้ว่าโหดเหี้ยมทารุณ พวกพนักงานสืบสวนสอบสวนของตำรวจระบุว่า คนร้ายซึ่งเป็นชายผู้หนึ่งได้วิ่งเข้าไปในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองเรดดิง ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันตกราว 65 กิโลเมตร ขณะมีชาวท้องถิ่นจำนวนมากกำลังเข้าไปพักผ่อนสังสรรค์ชื่นชมแสงแดดยามค่ำเมื่อวันเสาร์ (20) จากนั้นคนร้ายผู้นี้ก็ใช้มีดไล่ทำร้ายผู้คน ก่อนถูกจับกุมโดยพวกตำรวจที่ไม่มีอาวุธ ตามการแถลงของทางการตำรวจ ชายวัย 25 ปีผู้หนึ่ง ที่มิได้มีการระบุชื่อได้ถูกจับกุม เนื่องจากต้องสงสัยว่ากระทำฆาตกรรม แต่ในเวลาต่อมาก็ถูกจับกุมอีกครั้งตามกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย และเวลานี้บุคคลผู้นี้ยังคงถูกควบคุมตัว อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวด้านความมั่นคงฝ่ายตะวันตกรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม ได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ชายคนที่ถูกจับผู้นี้เป็นชาวลิเบีย มีชื่อว่า คาอิริ ซาอาดัลเลาะห์ (Khairi Saadallah) ในตอนแรกทั้งตำรวจและรัฐบาลต่างระบุว่า การโจมตีคราวนี้ดูไม่มีลักษณะเป็นการก่อการร้าย อย่างไรก็ดี…

เกาหลีเหนือระเบิดสำนักประสานงานร่วมกับเกาหลีใต้ หลังถูกกลุ่มผู้แปรพักตร์เคลื่อนไหวโจมตีจากชายแดน

Loading

  กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้บอกว่าระเบิดเกิดขึ้นที่สำนักประสานงานร่วม เมื่อ 14:49 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น เกาหลีเหนือเพิ่งขู่ว่าจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารบริเวณพรมแดน หลังจากความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ มาหลายสัปดาห์ อันมีจุดเริ่มต้นจากการที่กลุ่มผู้แปรพักตร์ในฝั่งเกาหลีใต้ที่เคลื่อนไหวโครงการโฆษณาชวนเชื่อจากพรมแดนข้ามกลับไปในฝั่งเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ระบุผ่านแถลงการณ์ว่าจะตอบโต้อย่างแข็งขันหากเกาหลีเหนือทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่านี้อีก และชี้ว่าการทำลายสำนักประสานงานร่วมนี้ “ทำลายความหวังของทุกคนที่อยากจะให้ความสัมพันธ์ของสองชาติเกาหลีพัฒนา และให้มีสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” รัฐบาลเกาหลีใต้บอกด้วยว่าเกาหลีเหนือเป็นต้นเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพิ่งออกมาขู่ว่าจะทำลายสำนักงานนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีความหวังว่าความสัมพันธ์สองประเทศจะดีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ พบกับนายคิมที่ชายแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับความยากลำบากหลังถูกสหรัฐฯ และสหประชาชาติคว่ำบาตรเพื่อกดดันไม่ให้พัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเกาหลีเหนืออาจจะพยายามสร้างวิกฤตเพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยเจรจาเรื่องอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ที่ยังไม่คืบหน้าไปไหน ส่วนสหรัฐฯ นั้นยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ลูกบอลลูนและโดรน ในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมักออกมาประณามเกาหลีใต้ที่อนุญาตให้กลุ่มคนที่แปรพักตร์ ส่งเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อผ่านลูกบอลลูน หรือแม้กระทั่งโดรนที่ลอยเข้าไปยังเกาหลีเหนือ เมื่อวันอังคารที่แล้ว ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศตัดช่องทางติดต่อทางการทั้งหมดกับเกาหลีใต้ และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายคิม จอง อึน ก็ขู่ว่าจะส่งทหารไปยังเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone –…

ประท้วงเรียกร้องสิทธิคนผิวสีลุกลามทั่วยุโรป!

Loading

Protest against police brutality and the death in Minneapolis police custody of George Floyd, in Nantes ตำรวจปราบจลาจลในหลายประเทศของยุโรปยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุมในหลายเมืองของยุโรปในสุดสัปดาห์ ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิให้กับคนผิวสีเช่นเดียวกับการประท้วงในอเมริกา ที่กรุงปารีส บรรดาผู้ประท้วงรวมตัวกันที่ Place de la Republique พร้อมตะโกนคำว่า “ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีความสงบ” และเกิดการปะทะกันกับตำรวจหลังจากการประท้วงอย่างสงบผ่านไปราวสามชั่วโมง การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ถูกตำรวจใช้เข่ากดคอไว้จนเสียชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากลุกขึ้นเพื่อต่อต้านการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมต่อประชาชนผิวสีในฝรั่งเศสเช่นกัน ส่วนที่เมืองมาร์กเซย์ล มีรายงานผู้ประท้วงจุดไฟเผาถังขยะและขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ และที่กรุงลอนดอน อังกฤษ เกิดการปะทะกันระหว่างผู้เดินขบวนสองกลุ่มคือกลุ่มเรียกร้องสิทธิคนผิวสีกับกลุ่มขวาจัด บริเวณสถานีรถไฟวอเตอร์ลู มีการจุดดอกไม้เพลิง และขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจในหลายพื้นที่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ทวีตข้อความประณามการก่อความรุนแรงตามท้องถนน และระบุว่าใครก็ตามที่ทำร้ายตำรวจจะต้องเผชิญกับการปราบปรามตามกฎหมาย ตำรวจอังกฤษแถลงว่าได้จับกุมผู้ประท้วง 5 คนที่ก่อเหตุรุนแรงและทำร้ายตำรวจ และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 6 ราย กลุ่มอนุรักษ์นิยมขวาจัด ระบุว่าพวกตนพยายามปกป้องวัฒนธรรมของอังกฤษ โดยเฉพาะอนุสาวรีย์ต่าง ๆ…

UN เผยขีปนาวุธร่อนที่ใช้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ มาจาก ‘อิหร่าน’

Loading

ภาพเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทอารามโกที่เมืองอับกอยก์ (Abqaiq) จังหวัดตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย หลังถูกโดรนโจมตีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ย. รอยเตอร์ – เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติยืนยันต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ว่า ขีปนาวุธร่อนที่ใช้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่และท่าอากาศยานนานาชาติของซาอุดีอาระเบียเมื่อปีที่แล้ว “มีต้นทางมาจากอิหร่าน” ขณะที่ทางการเตหะรานรีบออกมาปฏิเสธทันควัน อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ระบุว่า อาวุธและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลายชิ้นที่สหรัฐฯ ยึดได้ในเดือน พ.ย. ปี 2019 และ ก.พ. ปี 2020 “มาจากอิหร่าน” โดยบางชิ้นมีลักษณะตรงกับสินค้าที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาติอิหร่าน และมีอักษรภาษาฟาร์ซีกำกับ ขณะที่บางชิ้นถูกนำเข้าอิหร่านระหว่างเดือน ก.พ. ปี 2016 จนถึง เม.ย. ปี 2018 กูเตียร์เรส ชี้ว่า การจัดส่งอุปกรณ์เหล่านี้อาจละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นปี 2015 ที่รับรองข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 คณะทูตอิหร่านประจำยูเอ็นชี้ว่า รายงานฉบับนี้ “ผิดพลาดร้ายแรง และคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง” “รัฐบาลอิหร่านขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อรายงานที่ว่า อิหร่านมีความเกี่ยวข้องกับการส่งออกอาวุธและอุปกรณ์ที่ใช้ในการโจมตีซาอุดีอาระเบีย รวมถึงข้อมูลที่ว่าหลักฐานต่างๆ ที่สหรัฐฯ ยึดได้มีที่มาจากอิหร่าน” สหรัฐฯ เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น 15…

การซื้อขายโปรแกรมสายลับ (SPYWARE) ที่ยังไม่มีการควบคุม

Loading

The entrance to the London office of Israeli private investigation firm Black Cube.Raphael Satter / AP ที่มา: https://www.haaretz.com/us-news/farrow-turned-black-cube-investigator-shadowing-him-during-weinstein-probe-1.7951350 Written by Kim ในปี 2019 รัฐชาติ (nation-states) หรือบุคคลที่มีความมั่งคั่งสามารถจ่ายเงินให้ “นักรบรับจ้าง” ดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายรวมทั้งการจารกรรม ขโมยข้อมูล ข่มขู่และล่วงละมิดทางไซเบอร์ ทั้งนี้ บริษัทเอกชนผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลของตนก่อนส่งออกโปรแกรมสะกดรอย (surveillance software) หรือโปรแกมสายลับ (Spyware)[1] อย่างไรก็ดี มาตรการตรวจสอบของภาครัฐได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอที่จะสะกัดกั้นรัฐบาลที่ปกครองด้วยความเข้มงวด (draconian regimes) ให้ได้มาซึ่งซอฟต์แวร์เหล่านี้ ขณะที่ภูมิศาสตร์การเมืองในปัจจุบันถูกกำหนดโดยการกระจายอำนาจจากรัฐชาติ และเร่งตัวขึ้นโดยเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่ถูกควบคุมโดยกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น การแพร่ขยายและการใช้โปรแกรมสะกดรอยของรัฐอำนาจนิยม จึงสมควรได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ           บทความสามตอนที่เผยแพร่ใน The New Yorker[2] เปิดเผยข้อมูลการทำงานของบริษัทข่าวกรองเอกชนของอิสราเอลซึ่งรู้จักในชื่อ Black Cube[3] โดย Ronan Farrow นักข่าวสายสืบสวนอ้างว่าตนถูกสะกดรอยระหว่างการสืบสวนกรณี Harvey Weinstein[4] ผู้ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมรวมทั้งข่มขืนสตรีจำนวนมาก ตอนแรกของบทความ Farrow อธิบายว่าตนได้รับข้อความเสนอให้คลิกลิงก์และร่วมการสำรวจทางการเมือง ทั้งที่ตนไม่ได้คลิกลิงก์ดังกล่าว แต่นักสืบเอกชนของบริษัท Black Cube เริ่มได้รับข้อมูลพิกัดที่แน่นอนของตน ทำให้กระบวนการสะกดรอยทั้งหมดง่ายขึ้น การชักนำให้เป้าหมายคลิกลิงก์เป็นเทคนิคที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่โปรแกรมสะกดรอยซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเอกชนและใช้กันทั่วโลก…

‘ทรัมป์’ เตรียมประกาศให้กลุ่มซ้ายสุดโต่ง “แอนติฟา” เป็นกลุ่มก่อการร้าย

Loading

Demonstration in Minneapolis, Minnesota over the death of George Floyd ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ ยกย่องกองกำลังสำรองของรัฐ หรือ เนชันแนลการ์ด ว่าทำงานได้อย่าง “ยอดเยี่ยม” ในการตอบสนองต่อการประท้วงที่นครมินนีแอโปลิส ที่กลายไปเป็นความรุนแรงในช่วงหลายคืนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการใช้กำลังของตำรวจผิวขาวเพื่อจับกุมชาวผิวสี จอร์จ ฟลอยด์ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของชายผู้นี้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวหากลุ่มแนวคิดซ้ายสุดโต่ง แอนติฟา (Antifa) ว่าเป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ พร้อมกระตุ้นให้รัฐที่มีพรรคเดโมแครตเป็นผู้บริหารรัฐบาลส่วนท้องถิ่นให้ดูตัวอย่างการปราบปรามผู้ประท้วงในนครมินนีแอโปลิสเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลอเมริกันจะประกาศให้กลุ่ม “แอนติฟา” เป็นองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำกล่าวที่สร้างความกังวลว่ารัฐบาลกำลังพยายามควบคุมการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ซึ่งขัดกับบทบัญญัติที่ 1 ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กลุ่มแอนติฟา (Antifa) ซึ่งหมายถึงกลุ่มต่อต้านระบอบปกครองฟาสซิสต์ เป็นการรวมตัวของผู้ประท้วงรัฐบาล นักรณรงค์ฝ่ายซ้าย และผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตย ซึ่งล้วนต่อต้านแนวคิดขวาจัดด้วยความรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลทรัมป์มักกล่าวโจมตีกลุ่มนี้ว่าอยู่เบื้องหลังการประท้วงต่าง ๆ ในวันอาทิตย์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ มีแถลงการณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ…