ไทยจับมืออินโดฯแบ่งปันข่าวกรอง จำกัดความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อความไม่สงบ

Loading

รอยเตอร์ – ไทยและอินโดนีเซียในวันอังคาร (14 ม.ค.) ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรอง ที่ทางผู้บัญชาการทหารของไทยบอกว่าจะช่วยจำกัดความเคลื่อนไหวของพวกก่อความไม่สงบที่ปฏิบัติการทางภาคใต้ของไทย รอยเตอร์อ้างเอกสารอย่างเป็นทางการที่พบเห็น ระบุว่าไทย ซึ่งมีชาวพุทธเป็นคนกลุ่มใหญ่แลอินโดนีเซีย อันมีชนกลุ่มใหญ่เป็นมุสลิม จะแบ่งปันข้อมูลความเคลื่อนไหวต่างๆของพวกหัวรุนแรง กบฏและกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหลาย ซึ่งบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ การลงนามมีขึ้นระหว่างที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกเดินทางเยือนจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียในวันอังคาร (14 ม.ค.) “มันเป็นการจำกัดความเคลื่อนไหวโดยเสรีของกลุ่มต่างๆ เพราะว่าเราจะแบ่งปันข้อมูลและเฝ้าระวังบุคคลทั้งหลาย” พล.อ.อภิรัชต์ ระบุต่อว่าอินโดนีเซีย โดยเฉพาะจังหวัดอาเจะห์ เคยถูกพวกกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มต่างๆในไทยใช้เป็นแหล่งฝึกฝน ซ่อนตัวและวางแผนปฏิบัติการต่างๆโจมตีไทย จากข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ไทยสู้รบกับกลุ่มก่อความไม่สงบแบ่งแยกดินแดนมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยะลา, ปัตตานีและนราธิวาส มานับตั้งแต่ปี 2004 คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 7,000 ศพ ด้านพลเอกเปอร์กาซา แห่งกองทัพอินโดนีเซีย ไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงว่ากลุ่มนักรบใดที่อินโดนีเซียได้รับการร้องขอจากไทยให้เฝ้าสังเกตการณ์เป็นพิเศษ แต่เน้นย้ำถึงความร่วมมือระดับภูมิภาค “ในการจัดการกับประเด็นความมั่นคงใดๆ เราควรร่วมมือกัน” อินโดนีเซียเองก็เผชิญกับภัยคุกคามของกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ต่างๆเช่นกัน อาทิเจมาห์ อิสลามิยาห์ (Jemaah Islamiah) และกลุ่มอื่นๆที่ได้แรงบันดาลใจจากพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) อาเจะห์ เคยถูกห้อมล้อมไปด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบมานานกว่า…

เตือนชาติเอเชียพร้อมรับมือ ‘สหรัฐ-อิหร่าน’ ก่อ ‘สงครามไซเบอร์’

Loading

โดย : KANYAPORN PHUAKVISUTHI ผู้เชี่ยวชาญเตือนบริษัทข้ามเสี่ยงได้รับความเสียหายจาก “สงครามไซเบอร์” ระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน แม้การที่ฝ่ายอเมริกันสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่าน จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารอย่างเต็มรูปแบบก็ตาม นายเกร็ก ออสติน หัวหน้าฝ่ายโครงการความไซเบอร์ อวกาศ และความขัดแย้งในอนาคน สถาบันความมั่นคงศึกษาระหว่างประเทศ ในสิงคโปร์ กล่าวว่า แม้ในตอนนี้ ทั้งสหรัฐ และอิหร่านจะถอยคนละก้าวไม่มีการปฏิบัติการทางทหารเพิ่มเติม แต่บรรดาตลาดซื้อขายเงินดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน และซัพพลายเชนของบริษัทอเมริกัน และซาอุดีอาระเบีย ต่างมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มแฮคเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และต้องการที่จะจัดการทางอ้อมต่อการคว่ำบาตรของสหรัฐ และสร้างความวุ่นวายให้กับเครือข่ายของรัฐบาล และบริษัท “ชาวอิหร่านแสดงให้เห็นมาตั้งแต่ปี 2555 แล้วว่า พวกเขาสามารถมุ่งไปยังเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงอย่างมากได้ ด้วยการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อก่อกวน ซึ่งการเผชิญหน้าในโลกไซเบอร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ ที่มากอยู่แล้ว จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปอีก” ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บรรดาแฮคเกอร์อิหร่านต่างดำเนินการโจมตีเป้าหมายเอกชนในโอกาสต่างๆ จำนวนหนึ่ง โดยในปี 2555 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Cutting Sword of Justice” ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีทางไซเบอร์ “ซาอุดี อาแรมโก” บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ราว 30,000 เครื่องใช้งานไม่ได้ และพนักงานของซาอุดี อาแรมโก…

Travelex ถูกแฮกเกอร์โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าไถ่ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Loading

Travelex บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของสหราชอาณาจักรถูกแฮกเกอร์โจมตีเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนทำให้บริษัทต้องถอดเว็บออก ตอนนี้พนักงานต้องเขียนใบเสร็จรับเงินด้วยมือแทนที่จะทำด้วยคอมพิวเตอร์ Travelex ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร มีสาขามากกว่า 1,200 แห่งทั่วโลก มีการแลกเงินมากกว่า 5,000 สกุลเงินทุกชั่วโมง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2019 แฮกเกอร์เรียกเงินค่าไถ่ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้บริษัทเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของตนเองได้ หลังจากที่แฮกเกอร์โจมตีระบบโดยใช้แรมซอมแวร์ Sodinokibi แฮกเกอร์ขู่ว่าจะปล่อยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่มีทั้งเลขประกันสังคม วันเกิดและข้อมูลการจ่ายบัตรเครดิต รวม 5 กิกะไบต์ ถ้าบริษัทไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ เว็บไซต์ให้บริการแลกเงินของ Travelex ปิดมาแล้ว 1 สัปดาห์ ลูกค้าจะเจอข้อความว่า “ระบบออนไลน์ปิดบริการ เนื่องจากการปรับปรุงระบบตามแผน ระบบจะกลับมาดำเนินการตามปกติได้ในเร็วๆ นี้” ส่วนบนเว็บไซต์ของสำนักงานเองขึ้นข้อความว่า “เว็บไซต์นี้ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว ระหว่างที่เรากำลังปรับปรุงบริการเพื่อคุณ” ขณะที่บริษัทยังคงให้บริการแลกเงินที่สาขาอยู่ เรื่องนี้ทำให้ธนาคารต่างๆ ที่ใช้บริการของ Travelex ต้องหยุดใช้งานแลกเปลี่ยนออนไลน์ Travelex เปิดเผยว่าถูกโจมตีเมื่อวันที่ 2 มกราคม ตอนที่มั่นใจว่า ไม่มีข้อมูลของลูกค้ารายใดรั่วไหล บริษัทใช้ผู้เชี่ยวชาญไอทีและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ใ้ห้พยายามแยกไวรัสและนำระบบที่ติดไวรัสออกมา แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงและจัดการกับแฮกเกอร์ได้…

สถานทูตออกประกาศเตือนคนไทยใน ‘อิสราเอล’

Loading

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลออกประกาศเตือนคนไทยให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกประกาศ เรื่อง การเพิ่มความระมัดระวังของคนไทยในอิสราเอล ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอความร่วมมือทุกท่านให้ติดตามข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลีกเลียงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยง รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นของท่าน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้ทราบเป็นระยะ ๆ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตฯ www.thaiembassy.org/telaviv และ Facebook Page “ทุกเรื่องเมืองยิว” www.facebook.com/thaiembassytelaviv/ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 054-636-8650 หรือ 054-550-1141 จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน —————————————– ที่มา : The bangkok insight / 8 มกราคม 2563 Link : https://www.thebangkokinsight.com/269184/

ไทยหนีไม่พ้น เราจะต้องระวังอะไรจากความขัดแย้งอิหร่าน-สหรัฐ

Loading

บทวิเคราะห์โดย กรกิจ ดิษฐาน อิหร่านหักปากกาเซียนด้วยการโจมตีสหรัฐแบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่วิธียืมมือกลุ่มติดอาวุธที่ตัวเองสนับสนุนอย่างที่บางคนคาดการณ์ไว้ การโจมตีด้วยขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก คือการทำสงครามแบบ Conventional warfare หรือ “สงครามในรูปแบบ” นั่นคือการรบโดยใช้อาวุธโจมตีกันไปมา ไม่ว่าจะเป็นอาวุธแบบมาตรฐาน เช่นจรวดหรือแบบล้ำสมัยเช่นโดรน บรรดาเซียนการเมืองเชื่อว่าอิหร่านอาจจะรบแบบ Unconventional warfare หรือสงครามนอกระบบ โดยเฉพาะการใช้ตัวแทนรบกับสหรัฐ (Proxy war) ด้วยการบ่อนทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐเป็นจุดๆ ไป อย่างที่สหรัฐเรียกว่า “การก่อการร้าย” อิหร่านควรใช้วิธีนี้เพราะมีแสนยานุภาพด้อยกว่าสหรัฐแต่มี “บริวาร” ที่เป็นเครือข่ายติดอาวุธที่ทำงานครอบคลุมไปทั่วโลก เช่น ฮิซบุลลอฮ์ แต่อย่างที่เราทราบ อิหร่านเลือกที่จะปะทะตรงๆ ทั้งๆ ที่แสนยานุภาพของอิหร่านเมื่อเทียบกับสหรัฐแล้วเหมือนหนูกับช้าง นั่นแสดงว่าอิหร่านกำลังเลือดเข้าตา และเห็นแก่ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามมากกว่าจะมองความเป็นจริงในการรบ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าอิหร่านจะไม่รบนอกแบบ และใช้ตัวแทนรบกับสหรัฐ Quds Force ของอิหร่านซึ่งผู้บัญชาการเพิ่งจะถูกสังหารไป มีสายสัมพันธ์กับกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ (Hezbollah) จากการรายงานของ Institute for Near East Policy ในกรุงวอชิงตัน ในระยะหลังทั้งสองกลุ่มนี้ทำงานร่วมกันเพื่อโจมตีเป้าหมายสหรัฐ อิสราเอล และประเทศตะวันตก…

บริษัทในสหรัฐฯ ประกาศปิดทำการและปลดพนักงานกว่า 300 คน เหตุติดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จ่ายเงินไปแล้วแต่ยังกู้ข้อมูลคืนไม่ได้

Loading

บริษัท The Heritage Company ในรัฐอาคันซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศปิดทำการชั่วคราวพร้อมปลดพนักงานกว่า 300 คน สาเหตุจากระบบไอทีของบริษัทติดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 โดยทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าไถ่ไปแล้วแต่กลับไม่ได้รับกุญแจสำหรับใช้ปลดล็อกข้อมูลกลับคืน ทางทีมไอทีพยายามกู้คืนระบบแล้วแต่ไม่สามารถทำได้จึงจำเป็นต้องปิดบางแผนกและปลดพนักงานกว่า 300 คนออกเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ทาง CEO ของบริษัทชี้แจงว่าในตอนแรกนั้นได้ประเมินว่าการกู้คืนระบบให้กลับมาใช้งานได้น่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่พอผ่านไปสองเดือนแล้วก็ยังไม่สามารถทำให้ระบบกลับมาทำงานได้ตามปกติ เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดมูลค่าความเสียหายรวมแล้วกว่าแสนดอลลาร์ ทั้งนี้ทางสำนักข่าวท้องถิ่นได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าพนักงานจำนวนมากได้ลงทะเบียนว่างงานพร้อมหางานใหม่แล้วเพราะเชื่อว่าบริษัทไม่สามารถอยู่รอดได้ เหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสองอย่าง หนึ่งคือการจ่ายเงินให้กับผู้พัฒนามัลแวร์เรียกค่าไถ่นั้นไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถกู้คืนข้อมูลได้เสมอไป สองคือการลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan หรือ BCP) นั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการป้องกันเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอกับภัยคุกคามที่พัฒนาไปทุกวัน จำเป็นต้องมีแผนรับมือในกรณีที่ระบบเกิดปัญหาเพื่อให้ธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้ การลงทุนเพื่อรับมือการโจมตีทางไซเบอร์นั้นถึงแม้จะมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงแต่ก็อาจเทียบไม่ได้เลยกับค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาหรือกู้คืนเพื่อให้ระบบกลับมาทำงานต่อได้ ———————————————————— ที่มา : ThaiCERT / 7 มกราคม 2563 Link : https://www.thaicert.or.th/newsbite/