ไปรษณีย์ไทยเตือนระวัง SMS ปลอมแจ้งพัสดุตกค้าง ห้ามกรอกข้อมูลสำคัญ

Loading

  ไปรษณีย์ไทยแจ้งเตือนกลโกงมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ ใช้ช่องทาง SMS แจ้งว่ามีพัสดุตกค้าง พร้อมค่าบริการที่ต้องชำระ ไปรษณีย์ไทยขอย้ำว่าผู้ได้รับข้อความดังกล่าวห้ามกรอกข้อมูลสำคัญเนื่องจากเป็นการหลอกให้โอนเงิน   โดยไปรษณีย์ไทยขอแจ้งเตือนภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้มีการใช้ช่องทาง SMS ส่งข้อความหาผู้ใช้บริการ โดยระบุข้อความภาษาอังกฤษว่า “Thailandpost : Your Package is still awaiting processing Please confirm Deliver Charges” หรือ “ขณะนี้คุณมีพัสดุตกค้างที่ไม่สามารถจัดส่งได้ กรุณาชำระค่าบริการ”   พร้อมแนบลิงก์เพื่อให้ผู้ที่ได้รับ SMS กด เพื่อนำไปสู่การกรอกข้อมูลสำคัญ ได้แก่ หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อผู้ถือบัตรวันหมดอายุของบัตร และรหัส 3 หลักสุดท้าย (CVC/CVV) ที่อยู่ด้านหลังบัตรเครดิต/เอทีเอ็ม พร้อมด้วยจำนวนเงินที่ต้องชำระค่าบริการ และหมายเลขติดตามพัสดุซึ่งไม่ใช่ของจริง   ไปรษณีย์ไทยขอย้ำเตือนว่าผู้ที่ได้รับข้อความดังกล่าวห้ามกดลิงก์ หรือกรอกข้อมูลบนบัตรเครดิต/เอทีเอ็มเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการหลอกให้โอนเงินจากมิจฉาชีพ และไปรษณีย์ไทยไม่มีนโยบายในการแจ้งเรียกเก็บค่าดำเนินการใดๆ ผ่านทาง SMS ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์ได้ที่ www.thailandpost.co.th และไลน์ออฟฟิเชียล…

ธนาคารไทยพาณิชย์ชี้แจงเหตุลูกค้าถูกดูดเงินออกจากบัญชี พบลูกค้าถูกหลอกให้ติดตั้งโปรแกรม

Loading

ภาพโดย TheInvestorPost   หลังจากมีข่าวเจ้าของบัญชีถูกถูกมิจฉาชีพหลอกส่งลิงก์ผ่าน LINE จนกระทั่งเงินถูกโอนออกจากบัญชี 1.4 ล้านบาท ทางธนาคารไทยพาณิชย์ก็แถลงชี้แจงว่าการถอนเงินไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของธนาคาร แต่ผู้ถูกหลอกให้ติดตั้งโปรแกรมซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของธนาคาร   ทางธนาคารไทยพาณิชย์ระบุว่าธนาคารไม่มีนโยบายส่งข้อความผ่านทาง SMS, อีเมล, LINE, หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่านลูกค้า   แถลงของธนาคารไม่ได้บอกรายละเอียดของเหตุการณ์ครั้งนี้โดยตรง แต่แนะนำ 3 ประเด็น ได้แก่   1.  คนร้ายสามารถให้ข้อมูลเหยื่อได้มากขึ้น สามารถบอกชื่อ, นามสกุล, หมายเลขประจำตัว, ชื่อร้านค้า ฯลฯ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ 2.  คนร้ายอาจจะหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรม remote desktop และหลอกให้เหยื่อบอก PIN สำหรับเข้าควบคุมหน้าจอ 3.  คนร้ายอาจจะอาศัยการแชร์หน้าจอระหว่างวิดีโอคอล แล้วหลอกให้เหยื่อเข้าแอปธนาคาร   การใช้ซอฟต์แวร์ remote desktop ตามปกติเพื่อหลอกควบคุมเครื่องของเหยื่อนั้นเป็นปัญหาที่มีต่อเนื่อง โปรแกรมยอดนิยมเช่น Team Viewer มีรายงานอยู่เนือง ๆ ว่าคนร้ายพยายามหลอกให้เหยื่อลงโปรแกรมเพื่อเข้าควบคุมเครื่องของเหยื่อ ช่วงปี…

เนียนจัด! โจรอังกฤษปลอมเป็น ‘การ์ด’ เข้าไปขนเงิน 6.4 ล้าน พนง.แบงก์ยื่นให้ซื่อๆ ไม่รู้ตัวว่า ‘ถูกปล้น’

Loading

  ชายมิจฉาชีพปลอมเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชน เดินเข้าไปขนเงินกว่า 6.4 ล้านบาท ออกจากธนาคารแห่งหนึ่งในอังกฤษอย่างหน้าตาเฉย โดยที่พนักงานธนาคารก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกปล้น   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค. โดยคนร้ายซึ่งสวมเครื่องแบบ หมวก และแว่นตาคล้ายกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัท G4S ได้เดินเข้าไปที่ธนาคาร Santander สาขาบริกซ์ตัน (Brixton) ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน พร้อมกับโชว์บัตรประจำตัวปลอม ก่อนจะขนกล่องบรรจุเงินสด 25,000 ปอนด์ จำนวน 6 กล่องออกไปอย่างใจเย็น   พนักงานธนาคารมาเริ่มเอะใจตอนที่โจรรายนี้ขับรถออกไปเฉยๆ โดยไม่กลับเข้ามาเซ็นชื่อตามระเบียบ และเมื่อโทร.ไปเช็กกับทาง G4S ก็ได้คำตอบที่ทำเอาลมแทบจับ เพราะบริษัทยืนยันว่าไม่ได้ส่งรถขนเงินไปที่ธนาคารแต่อย่างใด   หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษรายงานว่า การปล้นครั้งนี้มีข้อผิดสังเกตหลายอย่าง ตั้งแต่การที่โจรไม่ได้สวมเครื่องแบบ G4S อย่างถูกต้อง แถมยังยกกล่องใส่เงินสดออกไปทีละ 2 กล่อง ซึ่งผิดกฎของบริษัทที่กำหนดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องขนเงินออกไปทีละกล่องเท่านั้น ทำให้น่าสงสัยว่าพนักงานธนาคารหลงเชื่อเข้าไปได้อย่างไร   อย่างไรก็ดี ภารกิจปล้นครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องหมูๆ เสียทีเดียวสำหรับโจร เพราะทางธนาคารได้ใส่ ‘dye pack’ หรือระเบิดสีเอาไว้ในกล่องบรรจุเงินทั้ง 6 กล่องด้วย…

เตือนภัย! 8 โปรแกรม Remote Desktop ที่มิจฉาชีพนำมาใช้ดูดเงิน

Loading

  โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ หรือ “โปรแกรมสนับสนุนระยะไกล” ที่เราสามารถรีโมทไปสั่งการเครื่องคอมได้เสมือนเรากดปุ่มรีโมทสั่งทีวี ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ จนโปรแกรมนี้ได้กลายมาเป็นกลโกงใหม่ของมิจฉาชีพที่ใช้ดูดเงินนั่นเอง โปรแกรมที่ว่ามีถึง 8 อย่าง คือ 1. TeamViewer ถือเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในไทย ด้วยความที่เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ฟรี แถมยังมีสามารถใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ที่จำเป็นต่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ คีย์ลัดไปหาเครื่องที่รีโมทอยู่ , สามารถถ่ายโอนไฟล์จากเครื่องที่เราใช้อยู่ ไปหาเครื่องที่รีโมทคอมพิวเตอร์เข้าไปได้ , อีกทั้งยังสามารถควบคุมแบบข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-Platform) เช่น ควบคุมจากมือถือเพื่อสั่งการ คอมพิวเตอร์ที่เปิดไว้ได้ด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อรีโมทเสมอไป ซึ่งสะดวกมาก ๆ เวลาที่เราไม่อยู่หน้าจอแล้วดันมีงานเข้าฉุกเฉิน 2. AnyDesk เป็นโปรแกรมที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก รองรับการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ในหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows , Mac , Linux , Raspberry Pi , Chrome OS , iOS และ…

วิธีป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพและแก็งคอลเซ็นเตอร์แฮกไลน์

Loading

  วิธีป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพและแก็งคอลเซ็นเตอร์แฮกไลน์ โดยมิจฉาชีพมีเบอร์โทรมาถึงเรา นั่นหมายความว่าหากเราเปิดด้วยเบอร์นี้บนไลน์ และรับเพื่อนผ่านไลน์ โจรก็อาจใช้แผนเข้าหลอกลวงผ่าน LINE ได้เช่นกัน ดังนั้นถึงเวลาที่จะป้องกันบัญชี LINE ของเรา ไม่ให้มิจฉาชีพแฮกผ่านเบอร์โทรศัพท์ด้วยวิธีการดังนี้ วิธีป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพและแก็งคอลเซ็นเตอร์แฮกไลน์ เปิดแอป LINE บน iOS , Android จากนั้นแตะไปที่หน้าหลัก แล้วเลือกไอคอนตั้งค่า เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าแอป LINE     จากนั้นเลือก เพื่อน แล้วทำการปิด (OFF) ที่เพิ่มเพื่อนอัตโนมัติ และอนุญาตให้ผู้อื่นเพิ่มเป็นเพื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อนที่ไม่รู้จัก และคนอื่นที่อาจมีเบอร์ของเราอยู่และน่าจะเป็นมิจฉาชีพ เพิ่มเพื่อนด้วยเบอร์โทรบน LINE ทั้งนี้หากต้องการให่้เพื่อนคนนั้น เพิ่มเราเป็นเพื่อนให้บอกชื่อ ID LINE ของเราไปแทน เท่านี้มิจฉาชีพที่อาจมีเบอร์อยู่จะไม่สามารถหลอกลวงผ่าน LINE ได้แล้ว cover iT24Hrs-S     ที่มา : it24hrs    /   วันที่เผยแพร่ 24 เม.ย.65…

ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลบัตรประชาชนไปใช้ ต้องทำอย่างไรเช็กเลยที่นี่

Loading

  สตช.เผยวิธีการหากถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลบัตรประชาชนไปใช้ ต้องทำอย่างไร พร้อมเตือนคนโกงหากปลอมแปลงเอกสารมีโทษหนักคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่น   เมื่อ 26 มี.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ขอเตือนภัยกรณีมีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเกี่ยวกับการนำข้อมูลบัตรประชาชนหรือข้อมูลส่วนตัวไปซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือการทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ที่หลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับประชาชน โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย   ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวน จับกุม ปราบปรามภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบตามกฎหมายอย่างจริงจัง มีผลการปฎิบัติเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงภัยดังกล่าวและแนวทางในการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย   ดังเช่น กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการนำเสนอเกี่ยวกับการนำข้อมูลบัตรประชาชน หรือข้อมูลส่วนตัวไปใช้ สำหรับซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งอาจจะถูกมิจฉาชีพปลอมลายมือชื่อลงในสำเนาบัตรประชาชนแล้วนำไปใช้ในการกระทำความผิด หรือหลอกลวงผู้อื่น หากมีการแก้ไขข้อความในช่องชื่อ นามสกุล วันออกบัตร หรือวันหมดอายุ ลงในสำเนาบัตรประชาชน ไม่ว่าจะนำไปถ่ายสำเนาใหม่อีกครั้ง…