HOW-TO ถ้ามือถือของเรา “ถูกแฮ็ก” จะมีอาการอย่างไร

Loading

  ทุกวันนี้เราใช้ “โทรศัพท์มือถือ” เพื่อประโยชน์แทบทุกอย่างในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนยันนอนหลับแล้วก็ตื่นขึ้นมาอีกรอบวนเวียนเป็นวัฏจักร   ยิ่งในยุคที่เป็น “สมาร์ตโฟน” โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์ที่รวบรวมความสะดวกสบายทุกอย่างไว้ด้วยกันในที่เดียว ตั้งแต่ฟังก์ชันพื้นฐานอย่าง โทรออก-รับสาย, รับ-ส่งอีเมล, แชตคุยกับเพื่อน, เล่นโซเชียลมีเดีย, ถ่ายรูป, ฟังเพลง, ดูหนัง, เล่นเกม, สร้างการแจ้งเตือน, จ่ายบิลต่าง ๆ, ชอปปิง, สั่งอาหารเดลิเวอรี่, ทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ หรือแม้แต่ทำงาน เราสามารถทำทุกอย่างได้ทั้งหมดที่ว่ามาด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว ทำให้สมาร์ตโฟนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกคนต้องมีใช้กัน     เมื่อทุกอย่างถูกรวมไว้ในที่เดียว มันสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้งานก็จริง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็กลายเป็นสิ่งเปราะบางและเป็นจุดอ่อนที่มักจะถูกจู่โจมได้ง่ายที่สุดด้วย สิ่งที่น่ากลัวก็คือ การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก็สามารถเข้าถึงทุกอย่างที่มือถือของเราทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเมื่อมือถือของเราถูกแฮ็กแล้ว แฮกเกอร์จะสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ในเครื่องของเราเพื่อก่อกวนสร้างความรำคาญ หลอกหลวง หรือร้ายแรงสุดก็คือขโมยข้อมูลสำคัญและเรียกค่าไถ่เลยทีเดียว   มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องสังเกตความผิดปกติของโทรศัพท์มือถือของตัวเองว่าตกเป็นเป้าหมายของแฮ็กเกอร์แล้วหรือยัง จากสัญญาณต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่ามือถือเราโดนแฮ็ก เพื่อที่จะได้ป้องกันมือถือของตัวเอง เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน และถ้าถูกแฮ็กขึ้นมาจริง ๆ จะได้แก้ไขได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะเกิดความเสียหายใด ๆ โดยเป็นคำแนะนำจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ     5…

มือถือหรือคอมพิวเตอร์ถูกแฮ็กได้อย่างไร

Loading

  ช่วงนี้เราคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับมือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นใดที่ทำงานคล้ายคอมพิวเตอร์ (ในที่นี้แทนทั้งหมดด้วย “คอมพิวเตอร์”) ถูกแฮ็ก ทำให้สูญเงินในบัญชีกันบ่อยขึ้น แทบจะเกิดขึ้นรายวัน   เพราะเราสามารถทำเกือบทุกอย่างได้ผ่านคอมพิวเตอร์ ดังนั้น คอมพิวเตอร์เหล่านี้จึงตกเป็นเป้าโจมตีมากยิ่งขึ้น   ปัจจัยและสาเหตุของการถูกแฮกและขโมยข้อมูล – มีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบและสร้างเสียหายความรุนแรงต่อคอมพิวเตอร์และผู้ใช้งาน   เช่น การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์มีการอัปเดตระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์เป็นรุ่นล่าสุดหรือไม่ ประเภทภัยคุกคามที่มาโจมตี จำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีหรือบัตรเครดิต ความสำคัญของข้อมูลในระบบ เป็นต้น   สาเหตุที่คอมพิวเตอร์ถูกแฮกเกิดจาก 5 พฤติกรรม ดังนี้   1.การขาดความตระหนักรู้และขาดการไตร่ตรอง – เป็นสิ่งที่สุ่มเสี่ยงและมีผลกระทบมากที่สุด เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ในระหว่างทำธุรกรรมก็อาจเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดข้อมูลโดยไม่ได้ตรวจสอบเว็บไซต์   โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาหรือสังเกตอีเมลลิงก์ต่าง ๆ รวมถึงคลิกลิงก์ที่แนบมาโดยไม่ได้ระวัง ทำให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจส่งอีเมลหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลหรือติดตั้งมัลแวร์ (โปรแกรมอันตราย) ได้   หรือเห็นได้จากหลาย ๆ ข่าวที่มิจฉาชีพปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น สรรพากร ตำรวจ เป็นต้น ทำการหลอกล่อเหยื่อโดยการส่งลิงก์มาให้โหลด และเหยื่อก็ติดตั้งซอฟต์แวร์จากลิงก์นั้น ทำให้สูญเงินไปหลายล้านบาท…